ยกเลิก ติดตั้ง &สำหรับผู้ใช้งานทั้งหมด เรีย&กดู... เพิ่มไอคอน VeraCrypt ไปที่ &Desktop บริจาคตอนนี้... เชื่อมโยงกับไฟล์ &.hc extension กับ VeraCrypt &เปิดตำแหน่งปลายทางเมื่อเสร็จสิ้น เพิ่ม VeraCrypt ไปที่&เมนูเริ่ม สร้างจุด&คืนสภาพของระบบ &ถอนการติดตั้ง &แยกออก &ติดตั้ง ตัวช่วยการติดตั้ง VeraCrypt ถอนการติดตั้ง VeraCrypt &ช่วยเหลือ กรุณาเลือกหรือพิมพ์ตำแหน่งที่คุณต้องการวางไฟล์ที่แยก: กรุณาเลือกหรือพิมพ์ตำแหน่งที่คุณต้องการติดตั้งไฟล์โปรแกรม VeraCrypt. หากโฟลเดอร์ที่ระบุไม่ได้มีอยู่ จะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ. คลิกที่ ถอนการติดตั้ง เพื่อเอา VeraCrypt ออกจากระบบนี้. ยกเลิก &ตัววัดประสิทธิภาพ &ทดสอบ สร้างวอลลุมเข้ารหัสและฟอร์แมทมัน เข้ารหัสพาร์ติชั่น ณ ที่นั้น แสดงคีย์ที่ถูกสร้างขึ้น (ส่วนต่างๆ) แสดงเนื้อหาของพูล ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD สร้างไฟล์คอนเทนเนอร์เข้ารหัส &GiB &TiB ข้อมูลเพิ่มเติม วอลลุม VeraCrypt ที่&ซ่อนอยู่ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลลุมที่ซ่อนอยู่ โหมดตรง โหมดทั่วไป &KiB ใ&ช้ไฟล์คีย์ ลองติดตั้งด้วยรหัสผ่านว่างก่อน ขนาดแบบสุ่ม ( 64 <-> 1048576 ) &ไฟล์คีย์... ข้อมูลเกี่ยวกับอัลกอริธึมการแฮช ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเกี่ยวกับ PIM &MiB ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการเข้ารหัส ข้อมูลเพิ่มเติม การบูทหลายระบบ เข้ารหัสพาร์ติชั่น/ไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบ &อย่าบันทึกประวัติ เปิดวอลลุมภายนอก &หยุดชั่วคราว ใช้ P&IM ใช้ PIM ฟอร์แมทแบบเร็ว &แสดงรหัสผ่าน &แสดงรหัสผ่าน &แสดง PIM การบูทเดี่ยว วอลลุม VeraCrypt มาตรฐาน แ&ซ่อน ทั่วไป เข้ารหัสพาร์ติชั่นระบบหรือไดรฟ์ระบบทั้งหมด เข้ารหัสพาร์ติชั่นระบบ Windows เข้ารหัสไดรฟ์ทั้งหมด ตัวช่วยการสร้างวอลลุม VeraCrypt คลัสเตอร์ สำคัญ: เคลื่อนเมาส์ของคุณแบบสุ่มมากที่สุดในหน้าต่างนี้ ยิ่งคุณเคลื่อนนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งของการเข้ารหัสด้วยการคีย์ จากนั้นคลิกถัดไปเพื่อดำเนินการต่อ. &ยืนยัน: เสร็จสิ้น ตัวอักษรไดรฟ์: อัลกอริธึมการเข้ารหัส ระบบไฟล์ สร้างดิสก์เข้ารหัสเสมือนภายในไฟล์ แนะนำสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์. ตัวเลือก อัลกอริธึมการแฮช คีย์หัวเรื่อง: ซ้าย คีย์หลัก: เลือกตัวเลือกนี้หากมีระบบปฏิบัติการสองระบบหรือมากกว่าติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้.\n\nตัวอย่างเช่น:\n- Windows XP และ Windows XP\n- Windows XP และ Windows Vista\n- Windows และ Mac OS X\n- Windows และ Linux\n- Windows, Linux และ Mac OS X เข้ารหัสพาร์ติชั่นที่ไม่ใช่ระบบบนไดรฟ์ภายในหรือนอก (เช่น แฟลชไดรฟ์) และอาจสร้างวอลลุมซ่อน. เนื้อหาพูลปัจจุบัน (บางส่วน) ผ่าน รหัสผ่าน: PIM ของวอลลุม: PIM ของวอลลุม: ความคืบหน้า: พูลแบบสุ่ม: เลือกตัวเลือกนี้หากติดตั้งระบบปฏิบัติการเพียงหนึ่งระบบบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ (แม้ว่าจะมีผู้ใช้หลายคน). ความเร็ว สถานะ คีย์, เกลือ, และข้อมูลอื่น ๆ ถูกสร้างขึ้นสำเร็จแล้ว หากคุณต้องการสร้างคีย์ใหม่ให้คลิกกลับและจากนั้นคลิกถัดไป มิฉะนั้นคลิกถัดไปเพื่อดำเนินการต่อ. เข้ารหัสพาร์ติชั่น/ไดรฟ์ที่มีการติดตั้ง Windows ใครก็ตามที่ต้องการเข้าถึงและใช้งานระบบ อ่านและเขียนไฟล์ ฯลฯ ต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องทุกครั้งก่อนที่ Windows จะบูต. เลือกตัวเลือกนี้เพื่อเข้ารหัสพาร์ติชั่นที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows ที่กำลังทำงานอยู่. ป้ายชื่อวอลลุมใน Windows: โหมดลบ: ปิด อนุญาตให้บายพาสการยืนยันตัวตนก่อนบูตโดยกดปุ่ม Esc (เปิดใช้งานบูตเมนเจอร์) ไม่ทำอะไร &ติดตั้งวอลลุม VeraCrypt โดยอัตโนมัติ(ระบุตามด้านล่าง) &เริ่ม VeraCrypt ตรวจจับไลบรารีโดยอัตโนมัติ &แคชรหัสผ่านในการยืนยันตัวก่อนบูตในหน่วยความจำไดรเวอร์ (สำหรับการติดตั้งวอลลุมที่ไม่ใช่ระบบ) เรียกดู... เรียกดู... แคชรหัสผ่านและคีย์ไฟล์ในหน่วยความจำ ออกเมื่อไม่มีวอลลุมที่ติดตั้งอยู่ ปิดเซสชั่นโทเค็น (ออกระบบ) หลังจากติดตั้งวอลลุมสำเร็จ รวมถึง VeraCrypt Volume Expander รวมถึงตัวช่วยการสร้างวอลลุม VeraCrypt สร้าง สร้างวอลลุม ไม่แสดงข้อความในหน้าจอยืนยันตัวตนก่อนบูต (ยกเว้นข้อความที่กำหนดเองด้านล่าง) ปิดใช้งานการตรวจจับการโจมตี "Evil Maid" เร่งการเข้ารหัส/ถอดรหัส AES โดยใช้คำสั่ง AES ของโปรเซสเซอร์ (ถ้ามี) ใช้คีย์ไฟล์ ใช้คีย์ไฟล์ ออก ช่วยเหลือเกี่ยวกับวอลลุมโปรด ไม่ติดตั้งวอลลุมที่เลือกรวมถึงเมื่อกดปุ่มลัด 'ติดตั้งวอลลุมโปรด' ติดตั้งวอลลุมที่เลือกเมื่ออุปกรณ์โฮสต์ที่เชื่อมต่อ ติดตั้งวอลลุมที่เลือกเมื่อเข้าสู่ระบบ ติดตั้งวอลลุมที่เลือกเป็นอ่านอย่างเดียว ติดตั้งวอลลุมที่เลือกเป็นสื่อที่ถอดออกได้ เลื่อนลง เลื่อนขึ้น เปิดหน้าต่าง Explorer สำหรับวอลลุมที่เลือกเมื่อเข้าถึงปลายทางสำเร็จ ลบ ใช้ชื่อวอลลุมโปรดเป็นชื่อไดรฟ์ใน Explorer การตั้งค่าทั่วไป แสดงบอลลูนแจ้งเตือนหลังการติดตั้งเมื่อสำเร็จ เล่นเสียงแจ้งเตือนของระบบหลังการติดตั้งเมื่อสำเร็จ Alt Ctrl Shift Win กำหนด ลบ ไฟล์คีย์... ไม่ใช้จำนวนโปรเซสเซอร์ตรรกตามที่กำหนดสำหรับการเข้ารหัส/ถอดรหัส: ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเพิ่มเติม ตั้งค่าเพิ่มเติม... ติดตั้งอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ตัวเลือกติดตั้ง... ติดตั้งวอลลุ่มเป็นอ่านอย่างเดียว ไฟล์คีย์ใหม่... (เว้นว่างหรือ 0 สำหรับการใช้งานค่าเริ่มต้น) (เว้นว่างหรือ 0 สำหรับการใช้งานค่าเริ่มต้น) เปิดใช้งาน บันทึกรหัสผ่านในหน่วยความจำ ปลดวอลลุ่มเมื่อไม่มีการอ่าน/เขียนข้อมูลในช่วง เมื่อผู้ใช้ล็อกเอาท์ เมื่อผู้ใช้งานล็อกเซสชั่น เมื่อเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน เมื่อเปิดใช้งานสกรีนเซฟเวอร์ บังคับการปลดวอลลุมแม้มีไฟล์หรือไดเรกทอรีที่เปิดอยู่ ติดตั้งทุกวอลลุม VeraCrypt บนอุปกรณ์เมื่อเข้าสู่ระบบ เริ่มทำงานพื้นหลังของ VeraCrypt ติดตั้งวอลลุ่มเป็นอ่านอย่างเดียวโดยค่าเริ่มต้น ติดตั้งวอลลุ่มเป็นสื่อที่ถอดออกได้ เปิดหน้าต่าง Explorer เมื่อวอลลุมถูกติดตั้งสำเร็จ บันทึกรหัสผ่านชั่วคราวระหว่างการติดตั้ง "วอลลูมโปรด" ใช้ไอคอน Tray แตกต่างกันเมื่อมีวอลลุมที่ติดตั้งอยู่ ลบข้อมูลในแคชเมื่อปลดวอลลุมโดยอัตโนมัติ ลบข้อมูลในแคชเมื่อออกจากโปรแกรม รักษาเวลาแก้ไขล่าสุดของไฟล์คอนเทนเนอร์ รีเซ็ต เลือก &อุปกรณ์... เลือก &ไฟล์... เลือก &ไลบรารี... แสดงรหัสผ่าน แสดงรหัสผ่าน เปิดหน้าต่าง Explorer สำหรับวอลลุมที่ติดตั้ง &บันทึกรหัสผ่านในหน่วยความจำไดร์เวอร์ &โหมด TrueCrypt ปลดวอลลุมทั้งหมด คุณสมบัติของวอลลุม เครื่องมือ &วอลลุม... ล้างแคช VeraCrypt - พารามิเตอร์การติดตั้ง VeraCrypt - วอลลุมโปรด VeraCrypt - คีย์ลัดทั่วระบบ VeraCrypt เปลี่ยนรหัสผ่านหรือไฟล์คีย์ ป้อนรหัสผ่านวอลลุม VeraCrypt VeraCrypt - การตั้งค่าประสิทธิภาพและไดรเวอร์ VeraCrypt - การตั้งค่า VeraCrypt - การตั้งค่าการเข้ารหัสระบบ VeraCrypt - การตั้งค่าโทเค็นความปลอดภัย การตั้งแผ่นดิสก์ตัวแทน VeraCrypt คุณสมบัติของวอลลุม VeraCrypt เกี่ยวกับ เพิ่ม/ลบไฟล์คีย์สำหรับวอลลุม... เพิ่มวอลลุมที่ติดตั้งไปยังโปรด... เพิ่มวอลลุมที่ติดตั้งไปยังโปรดของระบบ... วิเคราะห์เหตุการณ์ระบบล้มเหลว... สำรองหัวข้อวอลลุม... ตัววัดประสิทธิภาพ... ตั้งค่าอัลกอริธึมการดึงคีย์หัวข้อ... เปลี่ยนรหัสผ่านวอลลุม... ตั้งค่าอัลกอริธึมการดึงคีย์หัวข้อ... เปลี่ยนรหัสผ่าน... ล้างประวัติวอลลุม ปิดเซสชั่นโทเค็นทุกเซสชั่น ติดต่อ สร้างระบบปฏิบัติการซ่อน... สร้างดิสก์กู้คืน... สร้างวอลลุมใหม่... ถอดรหัสถาวร... ไฟล์คีย์เริ่มต้น... พารามิเตอร์การติดตั้งเริ่มต้น... บริจาคตอนนี้... เข้ารหัสพาร์ติชั่น/ไดรฟ์ระบบ... คำถามที่พบบ่อย คู่มือผู้ใช้ หน้าแรก คีย์ลัด... เครื่องมือสร้างไฟล์คีย์ ภาษา... การแจ้งเตือนทางกฎหมาย จัดการไฟล์คีย์โทเค็นความปลอดภัย... ติดตั้งวอลลุมที่โฮสต์ด้วยอุปกรณ์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ติดตั้งวอลลุมโปรด ติดตั้งโดยไม่ผ่านการยืนยันตัวตนก่อนบูต... ติดตั้งวอลลุม ติดตั้งวอลลุมพร้อมตัวเลือก ข่าวสาร ความช่วยเหลือออนไลน์ บทเรียนเริ่มต้น จัดการวอลลุมโปรด... จัดการวอลลุมโปรดของระบบ... การตั้งค่าประสิทธิภาพ/การกำหนดไดร์เวอร์ ถอดรหัสพาร์ติชั่น/ไดรฟ์ระบบอย่างถาวร การตั้งค่า รีเฟรชตัวอักษรไดร์ฟ ลบไฟล์คีย์ทั้งหมดจากวอลลุม... คืนค่าดาวน์โหลด... ดำเนินการต่อกระบดที่ถูกขัดจังหวะ เลือกอุปกรณ์... เลือกไฟล์... ดำเนินการต่อกระบดที่ถูกขัดจังหวะ การตั้งค่าการเข้ารหัสระบบ สถานะการเข้ารหัสระบบ ตั้งค่า วอลลุมโปรดของระบบ ดาวน์โหลด ตัวแปรทดสอบ... โทเค็นความปลอดภัย... ตั้งค่าแผ่นดิสก์ตัวแทน... ปลดวอลลุมทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่ ปลดวอลลุม ยืนยันแผ่นดิสก์กู้คืน ยืนยันภาพแผ่นดิสก์กู้คืน ประวัติรุ่น ขยายวอลลุม คุณสมบัติวอลลุม ตัวช่วยสร้างวอลลุม เว็บไซต์ VeraCrypt ล้างแคชที่เก็บรหัสผ่าน ตกลง เร่งความเร็วโดยใช้ฮาร์ดแวร์ คีย์ลัด การกำหนดค่า AutoRun (autorun.inf) ปลดวอลลุมโดยอัตโนมัติ ปลดวอลลุมทั้งหมดเมื่อ: ตัวเลือกหน้าจอของโหลดเดอร์ก่อนจะบูต ยืนยันรหัสผ่าน: ปัจจุบัน แสดงข้อความที่กำหนดเองในหน้าจอยืนยันตัวตนก่อนบูต (สูงสุด 24 อักษร): ตัวเลือกการติดตั้งค่าเริ่มต้น ตัวเลือกคีย์ลัด การกำหนดค่าไดรเวอร์ เปิดใช้งานการควบคุมดิสก์เสริม ป้ายชื่อวอลลุมโปรดที่เลือก: การตั้งค่าไฟล์ คีย์ที่กำหนด: โปรเซสเซอร์ (CPU) ในคอมพิวเตอร์นี้สนับสนุนการเร่งการเข้ารหัส AES ด้วยฮาร์ดแวร์: การดำเนินการเมื่อเข้าสู่ระบบ Windows นาที ติดตั้งวอลลุมเป็นไดรฟ์ตัวอักษร: การตั้งค่าการติดตั้ง ใหม่ รหัสผ่านใหม่: การทำงานแบบขนานโดยใช้เธรด เส้นทางไลบรารี PKCS #11 PKCS-5 PRF: PKCS-5 PRF ใหม่: ตัวเลือกการแคชรหัสผ่าน ตัวเลือกความปลอดภัย ตัวเลือก EMV งานพื้นหลังของ VeraCrypt วอลลุม VeraCrypt ที่จะติดตั้ง (อ้างอิงจากรากของแผ่นดิสก์ตัวแทน): เมื่อใส่แผ่นดิสก์ตัวแทน: สร้างไฟล์ของแผ่นดิสก์ตัวแทนที่ (ไดเรกทอรีรากของแผ่นดิสก์ตัวแทน): วอลลุม Windows เพิ่ม &เส้นทาง... ทดสอบทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ดำเนินการต่อ ถอดรหัส ลบ เข้ารหัส ส่งออก... สร้างและบันทึกไฟล์คีย์... สร้างไฟล์คีย์แบบสุ่ม... ดาวน์โหลดแพคเกจภาษา AES ด้วยฮาร์ดแวร์: นำเข้าไฟล์คีย์สู่โทเค็น... เพิ่มไฟล์... ใช้คีย์ไฟล์ คีย์ไฟล์... ลบ ลบทั้งหมด การป้องกันของวอลลุมที่ซ่อนอยู่คืออะไร? ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์คีย์ ติดตั้งวอลลุมเป็นสื่อที่ถอดออกได้ ติดตั้งพาร์ติชั่นโดยใช้การเข้ารหัสระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตนก่อนบูต การทำงานแบบขนาน: ตัววัดประสิทธิภาพ พิมพ์ ป้องกันวอลลุมที่ซ่อนอยู่จากการเสียหายที่เกิดจากการเขียนบนวอลลุมภายนอก รีเซ็ต แสดงรหัสผ่าน เพิ่มไฟล์โทเค็น... ใช้หัวของสำรองที่ฝังอยู่ภายในวอลลุมถ้ามี โหมด XTS เกี่ยวกับ VeraCrypt VeraCrypt - ตัววัดประสิทธิภาพของอัลกอริธึม VeraCrypt - ตัวแปรทดสอบ ความช่วยเหลือด้วยบรรทัดคำสั่ง VeraCrypt - ไฟล์คีย์ VeraCrypt - เครื่องกำเนิดไฟล์คีย์ VeraCrypt - ภาษา VeraCrypt - ตัวเลือกการติดตั้ง คุณสมบัติใหม่ของไฟล์คีย์โทเค็นความปลอดภัย VeraCrypt - การเพิ่มพูลแบบสุ่ม เลือกพาร์ติชั่นหรืออุปกรณ์ VeraCrypt ไฟล์คีย์โทเค็นความปลอดภัย ต้องใช้รหัสผ่าน/PIN ของโทเค็นความปลอดภัย แพคเกจภาษาที่ใช้งานอยู่ ความเร็วได้รับผลกระทบจากภาระการใช้งาน CPU และลักษณะของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล\n\nการทดสอบเหล่านี้ดำเนินการใน RAM. ขนาดบัฟเฟอร์: รหัสลับ: รหัสผ่านไปยังวอลลุมที่ซ่อน:\n(ถ้าว่างจะใช้แคช) การป้องกันวอลลุมที่ซ่อน ขนาดคีย์: สำคัญ: เคลื่อนเมาส์ของคุณแบบสุ่มมากที่สุดในหน้าต่างนี้ ยิ่งคุณเคลื่อนนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งของการเข้ารหัสด้วยไฟล์คีย์ คำเตือน: ถ้าคุณสูญเสียไฟล์คีย์หรือถ้าไบต์ตัวแรก 1024 ของไฟล์คีย์ถูกเปลี่ยน จะไม่สามารถติดตั้งวอลลุมที่ใช้ไฟล์คีย์นั้นได้ บิต จำนวนไฟล์คีย์: ขนาดไฟล์คีย์: ชื่อพื้นฐานของไฟล์คีย์: แปลโดย: ข้อมูลปกติ: บิต เนื้อหาของพูลปัจจุบัน ผสม PRF: สำคัญ: เคลื่อนเมาส์ของคุณแบบสุ่มมากที่สุดในหน้าต่างนี้ ยิ่งคุณเคลื่อนนานเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความปลอดภัย เมื่อทำการเสร็จ ให้คลิก 'ดำเนินการต่อ' คีย์สำรอง (ค่าสิบหก) โทเค็นความปลอดภัย: วิธีเรียง: กรุณารอ กระบวนการนี้อาจใช้เวลานาน... กรุณารอ...\nกระบวนการนี้อาจใช้เวลานานและ VeraCrypt อาจดูเหมือนไม่ตอบสนอง หมายเลขบล็อกทดสอบ: ข้อความลับ (ค่าสิบหก) หมายเลขหน่วยข้อมูล (64 บิต ค่าสิบหก, ขนาดหน่วยข้อมูลคือ 512 ไบต์) คีย์ (ค่าสิบหก) ข้อมูลปกติ (ค่าสิบหก) ชื่อไฟล์คีย์: โหมด XTS ระบบ วอลลุม โปรด เครื่องมือ การตั้งค่า ช่วยเหลือ หน้าแรก เกี่ยวกับ... ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติการอ่านอย่างเดียวของวอลลุมเก่าของคุณได้ โปรดตรวจสอบการอนุญาตการเข้าถึงไฟล์ ข้อผิดพลาด: การเข้าถึงถูกปฏิเสธ\n\nพาร์ติชั่นที่คุณกำลังพยายามเข้าถึงนั้นยาวเกิน 0 เซกเตอร์, หรือมันอาจเป็นอุปกรณ์บูต ผู้ดูแลระบบ ในการโหลดไดร์เวอร์ VeraCrypt คุณต้องล็อกอินเข้าสู่บัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ โปรดทราบว่าในการเข้ารหัส, ถอดรหัส หรือฟอร์แมตพาร์ติชั่น/อุปกรณ์ คุณต้องล็อกอินเข้าสู่บัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ\n\nข้อมูลนี้ไม่รวมไฟล์วอลลุมที่โฮสต์ ไม่สามารถเปิดใช้งานการสร้างไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว: ต้องการสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ\nโปรดเริ่มโปรแกรมนี้ใหม่ในฐานะผู้ดูแลระบบเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อโดยไม่มีการสร้างไฟล์อย่างรวดเร็วหรือไม่ ในการสร้างวอลลุมที่ซ่อน คุณต้องล็อกอินเข้าสู่บัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ\n\nดำเนินการต่อหรือไม่ โปรดทราบว่าในการฟอร์แมตวอลลุมเป็น NTFS/exFAT/ReFS คุณต้องล็อกอินเข้าสู่บัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ\n\nโดยไม่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ คุณสามารถฟอร์แมตวอลลุมเป็น FAT รหัสลับที่ได้รับการอนุมัติโดยมาตรฐาน FIPS (Rijndael, เผยแพร่ในปี 1998) ที่สามารถใช้โดยหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาเพื่อปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับสูงสุดได้ เคล็ดลับ 256 บิต, บล็อก 128 บิต, 14 รอบ (AES-256) โหมดการทำงานคือ XTS วอลลุมถูกติดตั้งแล้ว คำเตือน: อย่างน้อยหนึ่งอัลกอริธึมหรือแฮชมีข้อผิดพลาดในการตรวจสอบตนเองอัตโนมัติ\n\nการติดตั้ง VeraCrypt อาจเสียหาย คำเตือน: มีข้อมูลไม่เพียงพอในพูลของเครื่องกำเนิดเลขสุ่มเพื่อให้ข้อมูลสุ่มตามที่ขอ.\n\nคุณไม่ควรดำเนินการต่อไป. กรุณาเลือก 'รายงานบั๊ก' จากเมนูความช่วยเหลือ, และรายงานข้อผิดพลาดนี้. ไดรฟ์ถูกเสียหาย (มีข้อบกพร่องทางกายภาพ) หรือสายเคเบิลเสียหาย, หรือหน่วยความจำทำงานผิดปกติ.\n\nโปรดทราบว่านี่เป็นปัญหาของฮาร์ดแวร์ของคุณ, ไม่ใช่ปัญหาของ VeraCrypt. ดังนั้นโปรดอย่ารายงานว่ามันเป็นบั๊ก/ปัญหาใน VeraCrypt และโปรดอย่าขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฟอรัมของ VeraCrypt. กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนเทคนิคของผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ของคุณสำหรับความช่วยเหลือ. ขอบคุณ.\n\nหมายเหตุ: ถ้าข้อผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำๆ ที่ที่เดียวกัน, มันเป็นไปได้มากที่จะเกิดจากบล็อกดิสก์ที่ไม่ดี, ซึ่งควรจะสามารถแก้ไขได้โดยใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม (โปรดทราบว่า, ในหลายกรณี, คำสั่ง 'chkdsk /r' ไม่สามารถแก้ไขได้เพราะมันทำงานเฉพาะที่ระดับระบบไฟล์; ในบางกรณี, เครื่องมือ 'chkdsk' ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยซ้ำ). หากคุณกำลังเข้าถึงไดรฟ์สำหรับสื่อที่ถอดออกได้ โปรดตรวจสอบว่ามีสื่อใส่ในไดรฟ์ ไดรฟ์/สื่ออาจเสียหาย (อาจมีข้อผิดพลาดทางกายภาพ) หรือตัวแคเบิลอาจเสียหาย/หลุด ระบบของคุณดูเหมือนว่าจะใช้ไดรเวอร์ชิปเซ็ตปรับแต่งที่มีข้อบกพร่องที่ป้องกันการเข้ารหัสไดรฟ์ระบบทั้งหมด\nโปรดลองอัปเดตหรือถอนการติดตั้งไดรเวอร์ชิปเซ็ตปรับแต่ง (ที่ไม่ใช่ Microsoft) ก่อนไปต่อ หากไม่ได้ผล โปรดลองเข้ารหัสพาร์ติชั่นระบบเพียงอย่างเดียว ตัวอักษรไดรฟ์ไม่ถูกต้อง เส้นทางไม่ถูกต้อง ยกเลิก ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่เลือกมีอยู่และไม่ถูกใช้โดยระบบ คำเตือน: Caps Lock เปิดอยู่ อาจทำให้คุณป้อนรหัสผ่านผิด ประเภทวอลลุม อาจมีสถานการณ์ที่คุณถูกบังคับให้เปิดเผยรหัสผ่านสำหรับวอลลุมเข้ารหัส ผู้ใช้งานระดับสูงมักไม่สามารถปฏิเสธการเปิดเผยรหัสผ่านได้ (เช่น เนื่องจากการข่มขู่) การใช้วอลลุ่มที่ซ่อนช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยรหัสผ่าน เลือกตัวเลือกนี้หากคุณต้องการสร้างวอลลุ่ม VeraCrypt ปกติ โปรดทราบว่าหากคุณต้องการติดตั้งระบบปฏิบัติการในวอลลุมที่มีพาร์ติชั่นที่ซ่อน การเข้ารหัสไดรฟ์ระบบทั้งหมดด้วยคีย์เดียวกันไม่สามารถทำได้ ตัวเลือกการเข้ารหัสวอลลุมภายนอก ตัวเลือกการเข้ารหัสวอลลุมที่ซ่อน ตัวเลือกการเข้ารหัส คำเตือน: ลบเส้นทางของวอลลุม/ไฟล์คีย์ทำงานล้มเหลวที่เลือกครั้งสุดท้าย ข้อผิดพลาด: คอนเทนเนอร์ถูกบีบอัดที่ระดับระบบไฟล์ VeraCrypt ไม่สนับสนุนคอนเทนเนอร์บีบอัด โปรดปิดการบีบอัดสำหรับคอนเทนเนอร์: สร้างวอลลุมล้มเหลว ขนาดของ ขนาดของ ขนาดของ ขนาดของ ขนาดของ ขนาดของ คำเตือน: อุปกรณ์/พาร์ติชั่นในใช้งานระบบหรือแอปพลิเคชัน การฟอร์แมตอุปกรณ์/พาร์ติชั่นอาจทำให้ข้อมูลเสียหายและระบบไม่เสถียร \n\nดำเนินการต่อ? คำเตือน: พาร์ติชั่นนี้อยู่ในการใช้งานระบบหรือแอปพลิเคชัน คุณควรปิดแอปพลิเคชันที่อาจใช้งานพาร์ติชั่นนี้ คุณต้องการดำเนินการต่อ? ข้อผิดพลาด: อุปกรณ์/พาร์ติชั่นมีระบบไฟล์ที่ไม่สามารถถอดการติดตั้งได้ ระบบไฟล์อาจถูกใช้งานระบบ การฟอร์แมตอุปกรณ์/พาร์ติชั่นอาจทำให้ข้อมูลเสียหายและระบบไม่เสถียร: ข้อผิดพลาด: ระบบไฟล์ไม่สามารถล็อกและ/หรือถอดการติดตั้งได้อาจถูกใช้งานระบบหรือแอปพลิเคชัน (เช่นโปรแกรมแอนตี้ไวรัส) การเข้ารหัสพาร์ติชั่นอาจทำให้ข้อมูลเสียหายและระบบไม่เสถียร โปรดปิดแอปพลิเคชันที่อาจใช้งานระบบไฟล์และลองอีกครั้ง: คำเตือน: อุปกรณ์/พาร์ติชั่นบางตัวที่ติดตั้งอยู่อาจถูกใช้งานแล้ว อุปกรณ์ที่เลือกมีพาร์ติชั่น\n\nการฟอร์แมตอุปกรณ์อาจทำให้ระบบไม่เสถียรและ/หรือข้อมูลเสียหาย โปรดเลือกพาร์ติชั่นทั้งหมดบนอุปกรณ์หรือเลือกลบพาร์ติชั่นทั้งหมดบนอุปกรณ์เพื่อให้ VeraCrypt สามารถฟอร์แมตได้อย่างปลอดภัย อุปกรณ์ที่เลือกไม่มีการฟอร์แมตสามารถสร้างวอลลุ่ม VeraCrypt ได้เฉพาะในอุปกรณ์ที่ไม่มีพาร์ติชั่น\n\nหากคุณต้องการเข้ารหัสอุปกรณ์สามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่ติดตั้งระบบ Windows และบูตจากระบบเท่านั้น คำเตือน: หากคุณเข้ารหัสอุปกรณ์ทั้งหมด (แทนการเข้ารหัสพาร์ติชั่นเท่านั้น) ระบบปฏิบัติการจะเห็นว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ว่างและไม่มีฟอร์แมต (เนื่องจากไม่มีตารางพาร์ติชั่น) และอาจสอบถามว่าคุณต้องการทำลายข้อมูลหรือไม่? สำคัญ: โปรดทราบว่าวอลลุ่มนี้ไม่สามารถติดตั้ง/เข้าถึงได้โดยใช้ตัวอักษรไดรฟ์ %c ซึ่งถูกกำหนดในปัจจุบัน การเข้ารหัสในสถานที่สำหรับวอลลุ่มที่ไม่ใช่ระบบไม่สนับสนุนเวอร์ชันที่ใช้อยู่: พาร์ติชั่นที่เลือกดูเหมือนจะไม่มีระบบไฟล์ NTFS จำเป็นต้องลดขนาดที่จัดเก็บเพื่อให้มีการตีบของส่วนหัว: พาร์ติชั่นที่เลือกดูเหมือนจะไม่มีระบบไฟล์ NTFS จำเป็นต้องลดขนาดที่จัดเก็บเพื่อให้มีการตีบของส่วนหัวและสำรองส่วนหัว: ข้อผิดพลาด: พาร์ติชั่นเล็กเกินไป VeraCrypt ไม่สามารถเข้ารหัสมันได้ เพื่อเข้ารหัสข้อมูลบนพาร์ติชั่นนี้ โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n1) สร้างวอลลุม VeraCrypt บนพาร์ติชั่น/อุปกรณ์ว่าง แล้วติดตั้ง\n2) คัดลอกไฟล์ทั้งหมดจากพาร์ติชั่นที่คุณต้องการเข้ารหัสไปยังวอลลุม VeraCrypt ที่ติดตั้งไว้ (ดังที่ได้สร้างและติดตั้งในขั้นตอนที่ 1) วิธีนี้จะสร้างข้อมูลสำรองที่เข้ารหัส\n3) สร้างวอลลุม VeraCrypt บนพาร์ติชั่นที่คุณต้องการเข้ารหัสและตรวจให้แน่ใจว่าเลือกตัวเลือก "สร้างวอลลุมเข้ารหัสและฟอร์แมต" (แทนที่จะเป็น "เข้ารหัสพาร์ติชั่นในที่นั้น") อย่างไรก็ตามจะเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้\n4) คัดลอกไฟล์ทั้งหมดจากวอลลุม VeraCrypt ที่สำรองไว้ (สร้างและติดตั้งในขั้นตอนที่ 1) ไปยังวอลลุม VeraCrypt ที่สร้างขึ้นใหม่ (สร้างและติดตั้งในขั้นตอนที่ 3) VeraCrypt สามารถเข้ารหัสพาร์ติชั่น/วอลลุมระบบไดนามิก หรือไดรฟ์ระบบทั้งหมดเท่านั้น\nหากคุณต้องการสร้างวอลลุม VeraCrypt ในอุปกรณ์เดียวกันนี้ เลือกตัวเลือก "สร้างวอลลุมเข้ารหัสและฟอร์แมต" (แทนที่จะเป็น "เข้ารหัสพาร์ติชั่นในที่นั้น") ข้อผิดพลาด: VeraCrypt สามารถเข้ารหัสในสถานที่เฉพาะพาร์ติชั่น ระบบไดนามิก หรือไดรฟ์ระบบทั้งหมดเท่านั้น\nโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเส้นทางที่ระบุถูกต้อง ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถลดขนาดระบบไฟล์ได้ (ระบบไฟล์ต้องถูกย่อเพื่อลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับส่วนหัวและสำรองส่วนหัว)\nหากปัญหายังคงมีอยู่ โปรดลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ข้อผิดพลาด: ไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอบนวอลลุมและไม่สามารถลดขนาดระบบไฟล์ได้\nกรุณาลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นและว่างถังรีไซเคิลเพื่อที่จะเพิ่มพื้นที่ว่างถึงอย่างน้อย 256 KiB แล้วลองอีกครั้ง พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ (KB) พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ (MB) พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ (GB) พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ (TB) พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ (PB) ไม่สามารถรับตัวอักษรไดรฟ์ที่พร้อมใช้งาน ข้อผิดพลาด: ไม่พบไดร์เวอร์ VeraCrypt\nโปรดคัดลอกไฟล์ 'veracrypt.sys' และ 'veracrypt-x64.sys' ไปยังไดเรกทอรีที่มีโปรแกรมหลัก VeraCrypt (VeraCrypt.exe) ข้อผิดพลาด: มีการใช้งานไดร์เวอร์ VeraCrypt เวอร์ชันที่ไม่เข้ากัน\nหากคุณกำลังพยายามใช้งาน VeraCrypt แบบพกพา (โดยไม่ติดตั้ง) และมีเวอร์ชันอื่นของ VeraCrypt ติดตั้งอยู่ คุณต้องถอนการติดตั้งเวอร์ชันเก่าก่อน ข้อผิดพลาด: การเริ่มต้นรหัสลับล้มเหลว ข้อผิดพลาด: พบคีย์ที่อ่อนหรืออาจจะอ่อน คีย์จะถูกละทิ้ง โปรดลองอีกครั้ง มีข้อผิดพลาดสำคัญเกิดขึ้นและ VeraCrypt ต้องหยุดการทำงาน\nถ้าเป็นข้อผิดพลาดในโปรแกรม VeraCrypt เราอยากแก้ไข ดังนั้นคุณสามารถส่งรายงานข้อผิดพลาดอัตโนมัติที่มีข้อมูลดังนี้:\n- เวอร์ชันของโปรแกรม\n- เวอร์ชันของระบบ\n- ชนิดของ CPU\n- ชื่อคอมโพเนนต์ VeraCrypt\n- เช็คซัมของไฟล์ปฏิบัติการ VeraCrypt\n- ชื่อสัญลักษณ์ของหน้าต่างไดอะล็อก\n- ประเภทข้อผิดพลาด\n- ที่อยู่ข้อผิดพลาด\n- Stack เรียกใช้งาน VeraCrypt\n\nถ้าคุณเลือก 'ใช่' URL ต่อไปนี้ (ซึ่งมีรายงานข้อผิดพลาดทั้งหมด) จะเปิดในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตของคุณ เกิดข้อผิดพลาดสำคัญในระบบของคุณซึ่งต้องให้ VeraCrypt หยุดการทำงาน\nหมายเหตุ: ข้อผิดพลาดนี้ไม่ได้เกิดจาก VeraCrypt (ดังนั้นนักพัฒนาของ VeraCrypt ไม่สามารถแก้ไขได้) ข้อผิดพลาดสำคัญในระบบของคุณซึ่งต้องให้ VeraCrypt หยุดการทำงาน\nหากปัญหายังคงมีอยู่ ให้ลองการปิดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่อาจก่อปัญหา ข้อผิดพลาดสำคัญของ VeraCrypt VeraCrypt ตรวจพบว่าระบบปฏิบัติการล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ มีหลายสาเหตุที่ทำให้ระบบล้มเหลว คุณต้องการให้ VeraCrypt ตรวจสอบว่าเกิดจาก VeraCrypt หรือไม่? คุณต้องการให้ VeraCrypt ยังคงตรวจจับข้อผิดพลาดของระบบหรือไม่? VeraCrypt ไม่พบไฟล์ minidump ของระบบที่ล้มเหลว ต้องการลบไฟล์ kernel crash dump เพื่อเพิ่มพื้นที่ดิสก์หรือไม่? ในการวิเคราะห์ระบบล้มเหลว VeraCrypt จำเป็นต้องติดตั้ง Microsoft Debugging Tools for Windows ก่อน: เมื่อคุณคลิกตกลง VeraCrypt จะวิเคราะห์ระบบล้มเหลว นี้อาจใช้เวลาหลายนาที โปรดตรวจสอบว่า PATH รวมถึงเส้นทางไปยัง 'kd.exe' (Kernel Debugger) ดูเหมือนว่า VeraCrypt ไม่น่าจะเป็นสาเหตุของระบบล้มเหลว มีหลายสาเหตุที่ระบบอาจล้มเหลว ผลการวิเคราะห์แนะนำว่าการอัพเดตไดร์เวอร์ต่อไปนี้อาจแก้ปัญหานี้: เพื่อช่วยให้เรากำหนดว่ามีข้อผิดพลาดใน VeraCrypt หรือไม่ คุณสามารถส่งรายงานข้อผิดพลาดอัตโนมัติมีข้อมูลดังนี้:\n- เวอร์ชันของโปรแกรม\n- เวอร์ชันของระบบ\n- ชนิดของ CPU\n- ประเภทข้อผิดพลาด\n- ชื่อไดร์เวอร์และเวอร์ชัน\n- Stack ระบบ\n\nถ้าคุณเลือก 'ใช่' URL ต่อไปนี้ (ซึ่งมีรายงานข้อผิดพลาดทั้งหมด) จะเปิดในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตของคุณ ต้องการส่งรายงานข้อผิดพลาดข้างต้นหรือไม่? เข้ารหัส ถอดรหัส ถอดรหัสถาวร ออก โปรดสร้างไดรฟ์เพื่อพาร์ติชั่นขยาย และลองใหม่อีกครั้ง วอลลุม VeraCrypt สามารถอยู่ภายในไฟล์ (เรียกว่าคอนเทนเนอร์ VeraCrypt) ที่สามารถอยู่บนฮาร์ดไดรฟ์ เลือกตำแหน่งของวอลลุมภายนอกที่จะสร้าง ภายในวอลลุมนี้จะมีวอลลุมที่ซ่อนอยู่จะถูกสร้างขึ้นภายหลัง วอลลุม VeraCrypt ที่มีอุปกรณ์เป็นโฮสต์สามารถสร้างได้ภายในพาร์ติชั่นบนฮาร์ดไดรฟ์, ไดรฟ์ SSD, USB memory sticks สามารถสร้างวอลลุม VeraCrypt ที่มีอุปกรณ์เป็นโฮสต์ภายในพาร์ติชั่นบนฮาร์ดไดรฟ์, ไดรฟ์ SSD, USB memory sticks \nเลือกตำแหน่งวอลลุมภายนอกที่จะสร้าง ภายในวอลลุมนี้จะมีวอลลุมที่ซ่อนอยู่จะถูกสร้างขึ้นภายหลัง\n\nสามารถสร้างภายในพาร์ติชั่นบนฮาร์ดไดรฟ์, ไดรฟ์ SSD, USB memory sticks \nเลือกตำแหน่งของวอลลุม VeraCrypt ภายในที่จะสร้างวอลลุมที่ซ่อน คำเตือน: ไฟล์/อุปกรณ์โฮสต์ถูกใช้แล้ว\n\n\\นีน่าไปป์ไลน์าาาวทุกแอปพลิเคชันที่อาจใช้ไฟล์/อุปกรณ์นั้นๆ (ตัวอย่างเช่น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสหรือสำรองข้อมูล) ควรถูกปิดก่อนติดตั้งวอลลุม ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถติดตั้งวอลลุม ไฟล์/อุปกรณ์โฮสต์ถูกใช้แล้ว ไม่สามารถติดตั้งได้โดยไม่มีการเข้าถึงแบบ exclusive ไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ ตำแหน่งวอลลุม ไฟล์ขนาดใหญ่ คุณตั้งใจจะเก็บไฟล์ที่ใหญ่กว่า 4 GiB ในวอลลุม VeraCrypt หรือไม่? ตามตัวเลือกด้านบน VeraCrypt จะเลือกระบบไฟล์เริ่มต้นสำหรับวอลลุม VeraCrypt เมื่อคุณสร้างวอลลุมภายนอก คุณควรพิจารณาเลือก 'ไม่' ถ้าคุณเลือก 'ใช่' ระบบไฟล์เริ่มต้นจะเป็น NTFS คุณแน่ใจหรือไม่ต้องการเลือก 'ใช่'? โหมดการสร้างวอลลุม นี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างวอลลุมภายในพาร์ติชั่นหรืออุปกรณ์ อัปโหลดเนื้อหาทั้งหมดที่อยู่บนพาร์ติชั่น/อุปกรณ์นั้น พาร์ติชั่นทั้งหมดจะแสดงข้อมูลทั้งหมดที่ถูกเข้ารหัส แต่ถ้าพาร์ติชั่นว่าง ผู้ใช้งานควรเลือกตัวเลือกอื่น (ยังคงเร็วกว่า) หมายเหตุ: ทำต่อ เลื่อนออกไป เริ่ม ดำเนินการต่อ ฟอร์แมต ลบข้อมูล ยกเลิกการฟอร์แมต? แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ต้องแสดงอีกครั้ง เนื้อหาพาร์ติชั่น/อุปกรณ์ถูกลบข้อมูลสำเร็จ เนื้อหาพาร์ติชั่นที่เคยมีระบบเดิม (ที่ hidden system เป็นคลอน) ถูกลบข้อมูลสำเร็จ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ารุ่น Windows ที่คุณจะติดตั้ง (บนพาร์ติชั่นที่ลบ) เป็นรุ่นเดียวกันกับที่ Windows กำลังที่ใช้งานอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงานแชร์พาร์ติชั่นบูท พาร์ติชั่น/ไดรฟ์ระบบถูกเข้ารหัสสำเร็จแล้ว\nหมายเหตุ: ถ้ามีวอลลุม VeraCrypt ที่ไม่ใช่ระบบและต้องการให้ติดตั้งอัตโนมัติทุกครั้งที่ Windows เริ่มต้นคุณสามารถกำหนดค่าได้ พาร์ติชัน/ไดรว์ระบบถูกถอดรหัสสำเร็จ \n\nสร้างไดรฟ์ VeraCrypt เสร็จแล้วและพร้อมใช้งาน ถ้าคุณต้องการสร้างไดรฟ์ VeraCrypt เพิ่มเติม ให้คลิกถัดไป มิฉะนั้น คลิกออก \n\nสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ที่ซ่อนไว้สำเร็จแล้ว (ระบบปฏิบัติการที่ซ่อนจะวางอยู่ในไดรฟ์ที่ซ่อนนี้)\n\nคลิกถัดไป เพื่อดำเนินการต่อ ไดรฟ์เข้ารหัสอย่างสมบูรณ์ ไดรฟ์ถอดรหัสอย่างสมบูรณ์ สำคัญ: เพื่อเมานท์ไดรฟ์ VeraCrypt ที่สร้างใหม่นี้และเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บในนั้น คลิก 'เมานท์อัตโนมัติ' ในหน้าต่างหลักของ VeraCrypt หลังจากที่คุณกรอกรหัสผ่านถูกต้อง (และ/หรือจัดหาคีย์ไฟล์ที่ถูกต้อง) ไดรฟ์จะถูกเมานท์ไปยังอักษรไดรฟ์ที่คุณเลือกจากลิสต์ในหน้าต่างหลักของ VeraCrypt (และคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสผ่านไดรฟ์นั้น)\n\nโปรดจำขั้นตอนข้างต้นนี้หรือเขียนไว้อย่างดี คุณต้องทำตามขั้นตอนนี้ทุกครั้งที่ต้องการเมานท์ไดรฟ์และเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในนั้น อีกวิธีหนึ่งในหน้าต่างหลักของ VeraCrypt ให้คลิก 'เลือกอุปกรณ์' จากนั้นเลือกพาร์ทิชัน/ไดรฟ์นี้ และคลิก 'เมานท์'\n\nพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ถูกเข้ารหัสสำเร็จ (ปัจจุบันเป็นไดรฟ์ VeraCrypt ที่เข้ารหัสอย่างเต็มที่) และพร้อมใช้งาน ไดรฟ์ VeraCrypt ถอดรหัสสำเร็จแล้ว ไดรฟ์ VeraCrypt ถอดรหัสสำเร็จแล้ว\n\nโปรดเลือกอักษรไดรฟ์ที่คุณต้องการกำหนดให้สำหรับไดรฟ์ที่ถอดรหัส และคลิกเสร็จสิ้น\n\nสำคัญ: จนกว่าจะกำหนดอักษรไดรฟ์ให้กับไดรฟ์ที่ถอดรหัสแล้ว คุณจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในไดรฟ์ คำเตือน: เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ถอดรหัสแล้ว ต้องมีการกำหนดอักษรไดรฟ์ให้กับไดรฟ์ที่ถอดรหัส อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่มีอักษรไดรฟ์ที่ใช้ได้\n\nโปรดปลดอักษรไดรฟ์หนึ่งตัว (เช่น โดยการถอด USB flash drive หรือ external hard drive) จากนั้นคลิกตกลง สร้างไดรฟ์ VeraCrypt สำเร็จแล้ว สร้างไดรฟ์แล้ว สำคัญ: เลื่อนเมาส์ของคุณแบบสุ่มที่สุดภายในหน้าต่างนี้ ยิ่งเลื่อนนานเท่าไร ก็ยิ่งดีเท่านั้น สิ่งนี้จะเพิ่มพลังการเข้ารหัสของกุญแจอย่างมาก จากนั้นคลิกฟอร์แมตเพื่อสร้างไดรฟ์ คลิกฟอร์แมตเพื่อสร้างการฟอร์แมตไดรฟ์ภายนอก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดสืบค้นจากเอกสารประกอบ ฟอร์แมตไดรฟ์ภายนอก ฟอร์แมตไดรฟ์ที่ซ่อน ฟอร์แมตไดรฟ์ จำเป็นต้องมี Adobe Reader (หรือเครื่องมือที่เข้ากันได้) เพื่อดูและพิมพ์คู่มือผู้ใช้ VeraCrypt Adobe Reader (ซอฟต์แวร์ใช้ฟรี) สามารถดาวน์โหลดได้ที่: www.adobe.com\n\nคุณต้องการดูเอกสารออนไลน์แทนหรือไม่? ถ้าคุณเลือกตัวเลือกนี้ วิซาร์ดจะช่วยสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ปกติก่อน และจากนั้นจะสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์ควรเลือกตัวเลือกนี้เสมอ ถ้าคุณเลือกตัวเลือกนี้ คุณจะสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนอยู่ภายในไดรฟ์ VeraCrypt ที่มีอยู่แล้ว จะสันนิษฐานว่าคุณได้สร้างไดรฟ์ VeraCrypt ที่เหมาะสมสำหรับบรรจุไดรฟ์ที่ซ่อนแล้ว โหมดการสร้างไดรฟ์ สร้างไดรฟ์ที่ซ่อนแล้ว สร้างไดรฟ์ที่ซ่อนของ VeraCrypt สำเร็จและพร้อมใช้งาน ถ้าทำตามคำแนะนำทั้งหมด และหากมีการปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อควรระวังที่ระบุในส่วน "ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวกับไดรฟ์ที่ซ่อน" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพิสูจน์ว่าไดรฟ์ที่ซ่อนมีอยู่จริง แม้ในขณะที่เมาน์ไดรฟ์ภายนอก\n\nคำเตือน: ถ้าคุณไม่ป้องกันไดรฟ์ที่ซ่อน (สำหรับข้อมูลการป้องกัน โปรดอ้างอิงส่วน "การป้องกันไดรฟ์ที่ซ่อนจากความเสียหาย" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt) อย่าเขียนไปที่ไดรฟ์ภายนอก ไม่เช่นนั้น คุณอาจลบหรือทำลายไดรฟ์ที่ซ่อน! คุณได้เริ่มระบบปฏิบัติการที่ซ่อนแล้ว ดังที่คุณอาจจะสังเกตเห็น ระบบปฏิบัติการที่ซ่อนดูเหมือนว่าติดตั้งอยู่ในพาร์ทิชันเดียวกับระบบปฏิบัติการต้นฉบับ แต่ในความเป็นจริง มันถูกติดตั้งภายในพาร์ทิชันที่อยู่ด้านหลัง (ในไดรฟ์ที่ซ่อน) การดำเนินการอ่านและเขียนทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนทิศทางจากพาร์ทิชันระบบปฏิบัติการต้นฉบับไปที่ไดรฟ์ที่ซ่อน\n\nระบบปฏิบัติการและโปรแกรมจะไม่รู้ว่าข้อมูลที่ถูกเขียนและอ่านจากพาร์ทิชันระบบปฏิบัติการต้นฉบับมาจากและไปยังไดรฟ์ที่ซ่อน ข้อมูลใดๆ ดังกล่าวจะถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในทันที (ด้วยกุญแจเข้ารหัสที่แตกต่างจากที่ใช้ในการเข้ารหัสระบบที่หลอกลวง)\n\n\nคลิกต่อไปเพื่อดำเนินการต่อ สร้างและเมานท์ไดรฟ์ภายนอกเป็นไดรฟ์ %hc: ตอนนี้คุณควรคัดลอกไฟล์ที่ดูมีความละเอียดอ่อนที่คุณไม่ต้องการซ่อนไปยังไดรฟ์ภายนอกนี้ ไฟล์เหล่านี้จะอยู่ที่นี่สำหรับทุกคนที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านบรรจุพาร์ทิชันแรกหลังพาร์ทิชันระบบ ซึ่งไดรฟ์ภายนอกและไดรฟ์ที่ซ่อน (ที่บรรจุระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) จะอยู่ คุณจะสามารถเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ภายนอกนี้ และการมีไดรฟ์ที่ซ่อน (และระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) จะยังคงเป็นความลับ\n\nสำคัญ: ไฟล์ที่คุณคัดลอกไปยังไดรฟ์ภายนอกไม่ควรเกิน %s มิฉะนั้นอาจไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอในไดรฟ์ภายนอกสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน (และคุณจะไม่สามารถดำเนินการต่อ) หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นการคัดลอก คลิกต่อไป (อย่าดีเมานท์ไดรฟ์) สร้างไดรฟ์ภายนอกสำเร็จและเมานท์เป็นไดรฟ์ %hc: ตอนนี้คุณควรคัดลอกไฟล์ที่ดูมีความละเอียดอ่อนที่คุณไม่ต้องการซ่อนไปยังไดรฟ์นี้ ไฟล์เหล่านี้จะอยู่ที่นี่สำหรับทุกคนที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่าน คุณจะเปิดเผยเพียงรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ภายนอกนี้เท่านั้น ไม่ใช่สำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน ไฟล์ที่คุณให้ความสำคัญจริงๆ จะถูกเก็บในไดรฟ์ที่ซ่อน ซึ่งจะถูกสร้างในภายหลัง เมื่อคุณคัดลอกเสร็จ คลิกถัดไป อย่าดีเมานท์ไดรฟ์\n\nหมายเหตุ: หลังจากที่คุณคลิกถัดไป รูปแคลสเตอร์ของไดรฟ์ภายนอกจะถูกสแกนเพื่อระบุขนาดของพื้นที่ว่างที่ไม่ถูกรบกวนซึ่งจุดสิ้นสุดสอดคล้องกับจุดสิ้นสุดของไดรฟ์ พื้นที่นี้จะรองรับไดรฟ์ที่ซ่อน ดังนั้นจะจำกัดขนาดที่เป็นไปได้สูงสุด การสแกนรูปแคลสเตอร์ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีข้อมูลใดบนไดรฟ์ภายนอกถูกเขียนทับโดยไดรฟ์ที่ซ่อน เนื้อหาไดรฟ์ภายนอก \n\nในขั้นตอนต่อไปนี้ คุณจะตั้งค่าตัวเลือกสำหรับไดรฟ์ภายนอก (ภายในซึ่งที่ซ่อนจะถูกสร้างในภายหลัง) \n\nในขั้นตอนต่อไปนี้ คุณจะสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ที่เรียกว่า "ภายนอก" ภายในพาร์ทิชันแรกหลังจากพาร์ทิชันระบบ (ตามที่อธิบายในหนึ่งในขั้นตอนก่อนหน้า) ไดรฟ์ภายนอก ในขั้นตอนต่อไปนี้ คุณจะตั้งค่าตัวเลือกและรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน ซึ่งจะบรรจุระบบปฏิบัติการที่ซ่อน\n\nข้อสังเกต: รูปแคลสเตอร์ของไดรฟ์ภายนอกได้ถูกสแกนเพื่อระบุขนาดของพื้นที่ว่างที่ไม่ถูกรบกวนซึ่งจุดสิ้นสุดสอดคล้องกับจุดสิ้นสุดของไดรฟ์ภายนอก พื้นที่นี้จะรองรับไดรฟ์ที่ซ่อน ดังนั้นจะจำกัดขนาดที่เป็นไปได้สูงสุด ขนาดที่เป็นไปได้สูงสุดของไดรฟ์ที่ซ่อนถูกกำหนดและยืนยันว่ามากกว่าขนาดของพาร์ทิชันระบบ (ซึ่งจำเป็น เพราะเนื้อหาระบบปฏิบัติการจะต้องถูกคัดลอกไปยังไดรฟ์ที่ซ่อน) นี้ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่เก็บอยู่บนไดรฟ์ภายนอกถูกเขียนทับโดยข้อมูลที่เขียนลงพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อน สำคัญ: โปรดจำอัลกอริทึมที่คุณเลือกในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องเลือกอัลกอริทึมเดียวกันสำหรับระบบที่หลอกลวง มิฉะนั้น ระบบที่ซ่อนจะไม่สามารถเข้าถึงได้! (ระบบที่หลอกลวงต้องถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอริทึมการเข้ารหัสเดียวกับระบบที่ซ่อน) \n\nรูปแคลสเตอร์ของไดรฟ์ได้ถูกสแกนและขนาดที่เป็นไปได้สูงสุดของไดรฟ์ที่ซ่อนได้ถูกกำหนดแล้ว ในขั้นตอนต่อไปคุณจะตั้งค่าตัวเลือก, ขนาด และรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน ไดรฟ์ที่ซ่อน ไดรฟ์ที่ซ่อนถูกป้องกันการเสียหายจนกว่าจะดีเมานท์ไดรฟ์ภายนอก\n\nคำเตือน: ถ้ามีการพยายามบันทึกข้อมูลไปยังพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อน VeraCrypt จะเริ่มป้องกันการเขียนทั้งไดรฟ์ (ทั้งภายนอกและที่ซ่อน) จนกว่าจะดีเมานท์ นี้อาจทำให้ระบบไฟล์ของไดรฟ์ภายนอกเสียหาย ซึ่ง (ถ้าเกิดซ้ำบ่อย) อาจส่งผลกระทบต่อการหลอกลวงที่น่าเชื่อถือของไดรฟ์ที่ซ่อน เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการเขียนไปยังพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อน ข้อมูลใดที่ถูกบันทึกไปยังพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อนจะไม่ถูกบันทึกและจะสูญหาย Windows อาจรายงานเป็นข้อผิดพลาดในการเขียน ("การเขียนล่าช้าล้มเหลว" หรือ "พารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง") ไดรฟ์ที่ซ่อนภายในไดรฟ์ที่เพิ่งเมานท์นั้นได้รับการป้องกันจากความเสียหายจนกว่าจะดีเมานท์\n\nคำเตือน: ถ้ามีการพยายามบันทึกข้อมูลไปยังพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันของไดรฟ์ที่ซ่อน VeraCrypt จะเริ่มป้องกันการเขียนทั้งหมด (ทั้งภายนอกและภายใน) จนกว่าจะดีเมานท์ นี้อาจทำให้ระบบไฟล์ของไดรฟ์ภายนอกเสียหาย ซึ่ง (ถ้าเกิดซ้ำบ่อย) อาจส่งผลกระทบต่อการหลอกลวงที่น่าเชื่อถือของไดรฟ์ที่ซ่อน เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการเขียนไปยังพื้นที่ที่ซ่อน ข้อมูลใดที่ถูกบันทึกไปยังพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันของไดรฟ์ที่ซ่อนจะไม่ถูกบันทึกและจะสูญหาย Windows อาจรายงานเป็นข้อผิดพลาดในการเขียน ("การเขียนล่าช้าล้มเหลว" หรือ "พารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง") คำเตือน: มีการพยายามบันทึกข้อมูลไปยังพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อนของไดรฟ์ที่เมานท์เป็น %c:! VeraCrypt ป้องกันไม่ให้ข้อมูลนั้นถูกบันทึกเพื่อป้องกันไดรฟ์ที่ซ่อน นี้อาจทำให้ระบบไฟล์ของไดรฟ์ภายนอกเสียหายและ Windows อาจรายงานข้อผิดพลาดการเขียน ("การเขียนล่าช้าล้มเหลว" หรือ "พารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง") ไดรฟ์ทั้งหมด (ทั้งภายนอกและที่ซ่อน) จะถูกป้องกันการเขียนจนกว่าจะดีเมานท์ ถ้านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ VeraCrypt ป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกบันทึกไปยังพื้นที่ของไดรฟ์ที่ซ่อน การหลอกลวงที่น่าเชื่อถือของไดรฟ์ที่ซ่อนอาจส่งผลกระทบ (เนื่องจากความไม่สอดคล้องผิดปกติที่เกี่ยวข้องในระบบไฟล์ของไดรฟ์ภายนอก) ดังนั้น คุณควรพิจารณาสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ใหม่ (โดยการปิดการใช้งาน ฟอร์แมตเร็ว) และย้ายไฟล์จากไดรฟ์นี้ไปยังไดรฟ์ใหม่ ไดรฟ์นี้ควรจะถูกลบอย่างปลอดภัย (ทั้งภายนอกและที่ซ่อน) เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณรีสตาร์ตระบบของคุณตอนนี้ คุณแสดงเจตจำนงที่จะเก็บไฟล์ขนาดใหญ่กว่า 4 GiB บนไดรฟ์ ซึ่งต้องการให้ไดรฟ์นี้ถูกฟอร์แมตเป็น NTFS/exFAT/ReFS แต่จะไม่สามารถทำได้ โปรดทราบว่าเมื่อระบบปฏิบัติการที่ซ่อนกำลังทำงาน ไดรฟ์ VeraCrypt ที่ไม่ซ่อนไม่สามารถฟอร์แมตเป็น NTFS/exFAT/ReFS ได้ เพราะไดรฟ์จะต้องถูกเมานท์ชั่วคราวโดยไม่มีการป้องกันการเขียนเพื่ออนุญาตให้ระบบปฏิบัติการฟอร์แมตเป็น NTFS (ในขณะที่ฟอร์แมตเป็น FAT จะถูกดำเนินการโดย VeraCrypt ไม่ใช่โดยระบบปฏิบัติการและไม่ต้องการเมานท์ไดรฟ์) สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม ดูด้านล่าง คุณสามารถสร้างไดรฟ์ NTFS/exFAT/ReFS ที่ไม่ซ่อนจากภายในระบบปฏิบัติการที่หลอกลวงได้ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เมื่อระบบปฏิบัติการที่ซ่อนกำลังทำงาน ไดรฟ์ที่ซ่อนสามารถถูกสร้างได้เฉพาะในโหมด 'ตรง' (เพราะไดรฟ์ภายนอกต้องถูกเมานท์เป็นแบบอ่านอย่างเดียวเสมอ) เพื่อสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนอย่างปลอดภัย ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:\n\n1) บูตระบบปฏิบัติการที่หลอกลวง\n\n2) สร้างไดรฟ์ VeraCrypt ปกติ และคัดลอกไฟล์ที่ดูมีความละเอียดอ่อนที่คุณไม่ต้องการซ่อนไปยังไดรฟ์นี้ (ไดรฟ์จะกลายเป็นไดรฟ์ภายนอก)\n\n3) บูตระบบปฏิบัติการที่ซ่อนและเริ่มวิซาร์ดการสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ถ้าไดรฟ์เป็นไฟล์ ให้นำไดรฟ์ไปวางในพาร์ทิชันระบบหรือในไดรฟ์ที่ซ่อนอื่น (มิฉะนั้น ไดรฟ์ที่ซ่อนใหม่จะถูกเมานท์เป็นแบบอ่านอย่างเดียวและไม่สามารถฟอร์แมตได้) ทำตามคำแนะนำในวิซาร์ดเพื่อเลือกโหมดการสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนแบบตรง\n\n4) ในวิซาร์ด เลือกไดรฟ์ที่คุณสร้างในขั้นตอนที่ 2 จากนั้นทำตามคำแนะนำเพื่อสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนภายในไดรฟ์นี้ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เมื่อระบบปฏิบัติการที่ซ่อนกำลังทำงาน ไฟล์ระบบที่ไม่ได้เข้ารหัสในท้องถิ่นและไดรฟ์ VeraCrypt ที่ไม่ซ่อนจะถูกเมานท์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว (ไม่สามารถเขียนข้อมูลไปยังระบบไฟล์หรือไดรฟ์ VeraCrypt เหล่านี้ได้)\n\nข้อมูลสามารถเขียนได้ไปยังระบบไฟล์ใดๆ ที่อยู่ภายในไดรฟ์ VeraCrypt ที่ซ่อน (หากว่าไดรฟ์ที่ซ่อนไม่ได้อยู่ในคอนเทนเนอร์ที่ถูกเก็บไว้ในระบบไฟล์ที่ไม่ได้เข้ารหัสหรือในระบบไฟล์แบบอ่านอย่างเดียว) มีเหตุผลหลักสามประการที่ต้องใช้มาตรการเช่นนี้:\n\n- มันให้การสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับการเมานท์ของไดรฟ์ VeraCrypt ที่ซ่อน โปรดทราบว่าเราแนะนำให้เมานท์ไดรฟ์ที่ซ่อนเฉพาะเมื่อระบบปฏิบัติการที่ซ่อนกำลังทำงาน (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูส่วนย่อย 'ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวกับไดรฟ์ที่ซ่อน' ในเอกสารประกอบ)\n\n- ในบางกรณีเป็นไปได้ที่จะกำหนดว่าในช่วงเวลาหนึ่งๆ ระบบไฟล์เฉพาะไม่ได้ถูกเมานท์ภายใต้ (หรือไฟล์เฉพาะบนระบบไฟล์ไม่ได้ถูกบันทึกหรือเข้าถึงจากภายใน) ตัวอย่างระบบปฏิบัติการเฉพาะที่ใดๆ (เช่น โดยการวิเคราะห์และเปรียบเทียบบันทึกระบบไฟล์, แฟ้มที่สร้างและแก้ไขช่วงเวลาต่างๆ, บันทึกการใช้งาน, บันทึกข้อผิดพลาด, เป็นต้น) มาตรการป้องกันนี้ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้\n\n- การป้องกันการเสียหายของข้อมูลและอนุญาตให้เข้าสู่โหมดพักตัวอย่างปลอดภัย เมื่อ Windows กลับมาจากโหมดพักตัวมันจะคิดว่าระบบไฟล์ที่ถูกเมานท์ทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเมื่อระบบเข้าสู่โหมดพักตัว VeraCrypt ตรวจสอบให้มั่นใจโดยการป้องกันการเขียนของระบบไฟล์ใดๆ ที่เข้าถึงได้ทั้งจากภายในระบบที่หลอกลวงและระบบที่ซ่อน หากไม่มีการป้องกันนี้ ระบบไฟล์อาจเสียหายเมื่อเมานท์โดยระบบหนึ่งในขณะที่ระบบอื่นอยู่ในโหมดพักตัว หมายเหตุ: หากคุณต้องการย้ายไฟล์จากระบบที่หลอกลวงไปยังระบบที่ซ่อนอย่างปลอดภัย ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:\n1) เริ่มระบบที่หลอกลวง\n2) บันทึกไฟล์ไปยังระบบที่ไม่ได้เข้ารหัสหรือไปยังไดรฟ์ VeraCrypt ปกติ/ภายนอก\n3) เริ่มระบบที่ซ่อน\n4) หากคุณบันทึกไฟล์ลงในไดรฟ์ VeraCrypt ให้เมานท์ (มันจะถูกเมานท์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว)\n5) คัดลอกไฟล์ไปยังพาร์ทิชันระบบที่ซ่อนหรือไปยังไดรฟ์ที่ซ่อนอื่น คอมพิวเตอร์ของคุณต้องรีสตาร์ท\n\nคุณต้องการรีสตาร์ทเดี๋ยวนี้หรือไม่? เกิดข้อผิดพลาดเมื่อพยายามรับสถานะการเข้ารหัสระบบ ไม่มีการระบุรหัสผ่านในบรรทัดคำสั่ง ไม่สามารถสร้างไดรฟ์ได้ ไม่มีการระบุขนาดไดรฟ์ในบรรทัดคำสั่ง ไม่สามารถสร้างไดรฟ์ได้ ขนาดไฟล์ไดรฟ์ที่ระบุในบรรทัดคำสั่งไม่เข้ากันกับระบบไฟล์ NTFS ที่เลือก ขนาดไฟล์ไดรฟ์ที่ระบุในบรรทัดคำสั่งไม่เข้ากันกับระบบไฟล์ FAT32 ที่เลือก ระบบไฟล์บนดิสก์เป้าหมายไม่รองรับการสร้างไฟล์สแปรซซึ่งต้องการสำหรับไดรฟ์ที่มีการขยายตัว สามารถสร้างไฟล์ที่เก็บข้อมูลผ่านบรรทัดคำสั่งเท่านั้น ขนาดไฟล์คอนเทนเนอร์ที่ระบุในบรรทัดคำสั่งใหญ่กว่าพื้นที่ว่างดิสก์ที่มีอยู่ ไม่สามารถสร้างไดรฟ์ได้ ขนาดไดรฟ์ที่ระบุในบรรทัดคำสั่งเล็กเกินไป ไม่สามารถสร้างไดรฟ์ได้ ขนาดไดรฟ์ที่ระบุในบรรทัดคำสั่งใหญ่เกินไป ไม่สามารถสร้างไดรฟ์ได้ ไม่สามารถเริ่มส่วนประกอบแอปพลิเคชันสำหรับการเข้ารหัสระบบ การเริ่มเครื่องสร้างเลขสุ่มล้มเหลว\n\n\n (ถ้าคุณรายงานข้อผิดพลาดในเชื่อมโยงกับสิ่งนี้ โปรดรวมข้อมูลเทคนิคต่อไปนี้ในรายงานข้อผิดพลาด:\n%hs, ข้อผิดพลาดล่าสุด = 0x%.8X) Windows Crypto API ล้มเหลว!\n\n\n(ถ้าคุณรายงานข้อผิดพลาดในเชื่อมโยงกับสิ่งนี้ โปรดรวมข้อมูลเทคนิคต่อไปนี้ในรายงานข้อผิดพลาด:\n%hs, ข้อผิดพลาดล่าสุด = 0x%.8X) ไม่สามารถเริ่มแอปพลิเคชันได้ ล้มเหลวในการลงทะเบียนคลาสการสนทนา ข้อผิดพลาด: ล้มเหลวในการโหลดห้องสมุดระบบ Rich Edit วิซาร์ดการสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ขนาดไดรฟ์ที่ซ่อนสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับไดรฟ์นี้คือ %.2f bytes ขนาดไดรฟ์ที่ซ่อนสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับไดรฟ์นี้คือ %.2f KiB ขนาดไดรฟ์ที่ซ่อนสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับไดรฟ์นี้คือ %.2f MiB ขนาดไดรฟ์ที่ซ่อนสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับไดรฟ์นี้คือ %.2f GiB ขนาดไดรฟ์ที่ซ่อนสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับไดรฟ์นี้คือ %.2f TiB ไม่สามารถเปลี่ยนรหัสผ่าน/คีย์ไฟล์ของไดรฟ์ในขณะที่ไดรฟ์เมานท์อยู่ โปรดดีเมานท์ไดรฟ์ก่อน ไม่สามารถเปลี่ยนอัลกอริทึมการสกัดกั้นคีย์ต้นฉบับของไดรฟ์ในขณะที่ไดรฟ์เมานท์อยู่ โปรดดีเมานท์ไดรฟ์ก่อน &เมานท์ ต้องการเวอร์ชันที่ใหม่กว่าของ VeraCrypt ข้อผิดพลาด: ไม่พบวิซาร์ดการสร้างไดรฟ์\n\nโปรดตรวจสอบว่าไฟล์ 'VeraCrypt Format.exe' อยู่ในโฟลเดอร์ที่ 'VeraCrypt.exe' ถูกเปิดใช้งาน ถ้าไม่อยู่ โปรดติดตั้ง VeraCrypt ใหม่ หรือค้นหา 'VeraCrypt Format.exe' ในดิสก์และเปิดใช้งาน ข้อผิดพลาด: ไม่พบเครื่องขยายไดรฟ์\n\nโปรดตรวจสอบว่าไฟล์ 'VeraCryptExpander.exe' อยู่ในโฟลเดอร์ที่ 'VeraCrypt.exe' ถูกเปิดใช้งาน ถ้าไม่อยู่ โปรดติดตั้ง VeraCrypt ใหม่ หรือค้นหา 'VeraCryptExpander.exe' ในดิสก์และเปิดใช้งาน &ถัดไป > &สิ้นสุด &ติดตั้ง สกัด &สาระ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับไดรฟ์ VeraCrypt VeraCrypt ไม่สามารถทำงานได้หากไดรฟ์ไม่ได้กำลังทำงาน\n\nโปรดทราบว่า เนื่องจากปัญหาใน Windows คุณอาจต้องออกจากระบบหรือรีสตาร์ตระบบก่อนที่ไดรฟ์จะสามารถโหลดได้ เกิดข้อผิดพลาดขณะโหลด/เตรียมฟอนต์ ไม่พบอักษรไดรฟ์หรือไม่ได้ระบุอักษรไดรฟ์ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถกำหนดอักษรไดรฟ์ได้\n\nจนกว่าจะกำหนดอักษรไดรฟ์ให้กับไดรฟ์ที่ถอดรหัสแล้ว คุณจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในไดรฟ์\n\nรีเซ็ท? ไม่มีอักษรไดรฟ์ที่ใช้ได้ ไม่ได้เลือกไฟล์! ไม่มีอักษรไดรฟ์ที่ว่าง ไม่มีอักษรไดรฟ์ว่างสำหรับไดรฟ์ภายนอก! ไม่สามารถดำเนินการสร้างไดรฟ์ต่อ ไม่สามารถกำหนดรุ่นของระบบปฏิบัติการหรือคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการที่ไม่รองรับ ไม่ได้เลือกเส้นทาง! ไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน! ไม่สามารถดำเนินการสร้างไดรฟ์ต่อ ข้อผิดพลาด: ไฟล์ที่คุณคัดลอกไปยังไดรฟ์ภายนอกใช้พื้นที่มากเกินไป ดังนั้น จึงไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอในไดรฟ์ภายนอกสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน\n\nโปรดทราบว่าไดรฟ์ที่ซ่อนต้องมีขนาดเท่ากับพาร์ทิชันระบบ (พาร์ทิชันที่มีระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่) เหตุผลคือระบบปฏิบัติการที่ซ่อนจำเป็นต้องถูกสร้างโดยการคัดลอกเนื้อหาของพาร์ทิชันระบบไปยังไดรฟ์ที่ซ่อน\n\n\nกระบวนการสร้างระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ไดรฟ์ไม่สามารถดีเมานท์ไดรฟ์ได้ ไฟล์บางส่วนที่อยู่ในไดรฟ์ยังเปิดอยู่ ไม่สามารถล็อคไดรฟ์ได้ มีไฟล์ที่เปิดอยู่ในไดรฟ์ ดังนั้นไดรฟ์ไม่สามารถดีเมานท์ได้ VeraCrypt ไม่สามารถล็อคไดรฟ์ได้เพราะมีการใช้งานโดยระบบหรือแอปพลิเคชัน (อาจจะมีไฟล์ที่เปิดอยู่ในไดรฟ์)\n\nคุณต้องการให้อดใช้บังคับดีเมานท์ไดรฟ์หรือไม่? เลือกไดรฟ์ VeraCrypt ระบุเส้นทางและชื่อไฟล์ เลือกไลบรารี PKCS #11 หน่วยความจำไม่เพียงพอ สำคัญ: เราแนะนำอย่างยิ่งว่าให้ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์สร้างคอนเทนเนอร์ไฟล์ VeraCrypt บนอุปกรณ์/พาร์ทิชันที่เลือก แทนที่จะพยายามเข้ารหัสทั้งอุปกรณ์/พาร์ทิชัน\n\nเมื่อคุณสร้างคอนเทนเนอร์ไฟล์ VeraCrypt (แทนที่จะเข้ารหัสอุปกรณ์หรือพาร์ทิชัน) จะไม่มีความเสี่ยงในการทำลายไฟล์จำนวนมาก เช่น คอนเทนเนอร์ไฟล์ VeraCrypt (แม้ว่ามันมีดิสก์ที่เข้ารหัสแบบเสมือนจริง) จริงๆ แล้วมันเป็นไฟล์ธรรมดาที่เหมือนกับไฟล์ปกติทุกประการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูบทเรียนสำหรับผู้เริ่มต้นในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt\n\nคุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการเข้ารหัสทั้งอุปกรณ์/พาร์ทิชัน? คำเตือน: ไฟล์ '%s' มีอยู่แล้ว!\n\nสำคัญ: VeraCrypt จะไม่เข้ารหัสไฟล์ แต่จะลบมัน คุณแน่ใจหรือว่าต้องการลบไฟล์และแทนที่ด้วยคอนเทนเนอร์ VeraCrypt ใหม่? คำเตือน: ไฟล์ทั้งหมดที่จัดเก็บอยู่บน %s ที่เลือก ' %s'%s จะถูกลบและสูญหาย (พวกมันจะไม่ถูกเข้ารหัส)!\n\nคุณแน่ใจหรือว่าต้องการดำเนินการฟอร์แมต? คำเตือน: คุณจะไม่สามารถเมานท์ไดรฟ์หรือเข้าถึงไฟล์ใดๆ ที่จัดเก็บอยู่ในนั้นได้จนกว่ามันจะถูกเข้ารหัสทั้งหมด\n\nคุณแน่ใจหรือว่าต้องการเริ่มเข้ารหัส %s ที่เลือก '%s'%s? คำเตือน: คุณจะไม่สามารถเมานท์ไดรฟ์หรือเข้าถึงไฟล์ใดๆ ที่จัดเก็บอยู่ในนั้นได้จนกว่ามันจะถูกถอดรหัสทั้งหมด\n\nคุณแน่ใจหรือว่าต้องการเริ่มถอดรหัส %s ที่เลือก '%s'%s? คำเตือน: โปรดทราบว่าถ้าแหล่งพลังงานเกิดขัดข้องขณะเข้ารหัส/ถอดรหัสข้อมูลที่มีอยู่ในสถานที่ หรือเมื่อระบบปฏิบัติการหยุดทำงานเนื่องจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์หรือความเสื่อมโทรมหรือไม่สมบูรณ์ของฮาร์ดแวร์ขณะที่ VeraCrypt กำลังเข้ารหัส/ถอดรหัสข้อมูลที่มีอยู่ในสถานที่ ข้อมูลบางส่วนอาจถูกความเสียหายหรือสูญหาย ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มเข้ารหัส/ถอดรหัส โปรดแน่ใจว่าคุณมีสำเนาของไฟล์สำรองที่คุณต้องการเข้ารหัส/ถอดรหัส\n\nคุณมีไฟล์สำรองเหล่านี้หรือยัง? คำเตือน: ไฟล์ใดๆ ที่เก็บอยู่ในพาร์ทิชัน '%s'%s (เช่น ในพาร์ทิชันแรกหลังพาร์ทิชันระบบปฏิบัติการ) จะถูกลบและสูญหาย (พวกมันจะไม่ถูกเข้ารหัส)!\n\nคุณแน่ใจหรือว่าต้องการดำเนินการฟอร์แมต? คำเตือน: พาร์ทิชันที่เลือกมีข้อมูลจำนวนมาก! ไฟล์ใดๆ ที่เก็บอยู่ในพาร์ทิชันจะถูกลบและสูญหาย (พวกมันจะไม่ได้ถูกเข้ารหัส)! ลบไฟล์ใดๆ ที่เก็บอยู่ในพาร์ทิชันโดยการสร้างไดรฟ์ VeraCrypt ภายในนั้น รหัสผ่าน PIM ตั้งค่าอัลกอริทึมการสกัดกั้นคีย์ต้นฉบับ เพิ่ม/ลบคีย์ไฟล์จากไดรฟ์ ลบคีย์ไฟล์ทั้งหมดจากไดรฟ์ รหัสผ่าน, PIM และ/หรือคีย์ไฟล์เปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว\n\nสำคัญ: โปรดแน่ใจว่าคุณได้อ่านส่วน 'การเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านและคีย์ไฟล์' ในบท 'ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัย' ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt ไดรฟ์นี้ถูกลงทะเบียนเป็นไดรฟ์โปรดของระบบและ PIM ของมันถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว\nคุณต้องการให้ VeraCrypt อัพเดตการตั้งค่าไดรฟ์โปรดของระบบโดยอัตโนมัติ (สิทธิ์ผู้ดูแลระบบจำเป็น)?\n\nโปรดทราบว่าถ้าคุณตอบว่าไม่ คุณจะต้องอัพเดตการตั้งค่าไดรฟ์โปรดของระบบด้วยตนเอง สำคัญ: ถ้าคุณไม่ได้ทำลายแผ่นกู้คืนของ VeraCrypt รอบพาร์ทิชั่น/ไดรฟ์ของคุณยังสามารถถูกถอดรหัสโดยใช้รหัสผ่านเก่า (โดยการบูทด้วยแผ่นกู้คืนของ VeraCrypt และกรอกรหัสผ่านเก่า) คุณควรสร้างแผ่นกู้คืนใหม่ของ VeraCrypt จากนั้นทำลายแผ่นเก่า\n\nคุณต้องการสร้างแผ่นกู้คืนใหม่ของ VeraCrypt หรือไม่? โปรดทราบว่าแผ่นกู้คืนของ VeraCrypt ยังคงใช้อัลกอริทึมเก่า ถ้าคุณพิจารณาว่าอัลกอริทึมเก่าไม่ปลอดภัย คุณควรสร้างแผ่นกู้คืนใหม่ของ VeraCrypt จากนั้นทำลายแผ่นเก่า\n\nคุณต้องการสร้างแผ่นกู้คืนใหม่ของ VeraCrypt หรือไม่? โปรดทราบว่า VeraCrypt ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาคีย์ไฟล์ คุณสามารถเลือกคีย์ไฟล์หลายไฟล์ (ลำดับไม่สำคัญ) ถ้าคุณเพิ่มไดเรกทอรี คีย์ไฟล์ที่ใช้ไฟล์ไม่ซ่อนทั้งหมดที่พบในนั้น คลิก 'เพิ่มไฟล์ Token' เพื่อเลือกคีย์ไฟล์ที่เก็บอยู่ในโทเค็นความปลอดภัยหรือบัตรสมารต์ (หรือเพื่อส่งออกคีย์ไฟล์ไปยังโทเค็นความปลอดภัยหรือบัตรสมารต์) เพิ่ม/ลบคีย์ไฟล์เรียบร้อยแล้ว ส่งออกคีย์ไฟล์แล้ว ตั้งค่าอัลกอริทึมการสกัดกั้นคีย์ต้นฉบับเรียบร้อยแล้ว โปรดกรอกรหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟล์สำหรับไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบที่คุณต้องการดำเนินการเข้ารหัส/ถอดรหัสต่อ\n\nหมายเหตุ: หลังจากคุณคลิก ถัดไป VeraCrypt จะพยายามค้นหาไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบทั้งหมดที่กระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสถูกขัดจังหวะและไดรฟ์ที่ VeraCrypt สามารถถอดรหัสโดยใช้รหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟล์ที่ให้ไว้ ถ้าพบไดรฟ์มากกว่าหนึ่ง คุณจะต้องเลือกหนึ่งในนั้นในขั้นตอนถัดไป โปรดเลือกหนึ่งในไดรฟ์ที่รายการมีแสดง รายการรวมแต่ละไดรฟ์ที่สามารถเข้าถึงได้ที่กระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสถูกขัดจังหวะและที่ VeraCrypt สามารถถอดรหัสโดยใช้รหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟล์ที่ให้ไว้ โปรดกรอกรหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟลสำหรับไดรฟ์ VeraCrypt ที่ไม่ใช่ระบบที่คุณต้องการถอดรหัส มันสำคัญมากที่คุณเลือกใช้รหัสผ่านที่ดี คุณควรหลีกเลี่ยงการเลือกใช้ที่มีเพียงคำเดียวที่สามารถพบได้ในพจนานุกรม (หรือการผสมผสานของ 2, 3, หรือ 4 คำดังกล่าว) มันไม่ควรมีชื่อหรือนามสกุลหรือวันเดือนปีเกิด มันไม่ควรง่ายต่อการคาดเดา รหัสผ่านที่ดีคือการประสมกันแบบสุ่มของอักขระทั้งตัวพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่, ตัวเลข, และอักขระพิเศษ เช่น @ ^ = $ * + เป็นต้น เราแนะนำให้เลือกใช้รหัสผ่านที่ประกอบด้วยตัวอักษรอย่างน้อย 20 ตัว (ยาวเท่าไร ก็ยิ่งดี) ความยาวสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 128 ตัวอักษร โปรดเลือกรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน โปรดเลือกรหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อน (เช่น สำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน) สำคัญ: รหัสผ่านที่คุณเลือกสำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อนในขั้นตอนนี้ต้องแตกต่างมากจากรหัสผ่านอีกสองคำ (เช่น จากรหัสผ่านของไดรฟ์ภายนอกและจากรหัสผ่านของระบบปฏิบัติการที่หลอก) โปรดกรอกรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ที่คุณต้องการสร้างไดรฟ์ที่ซ่อนไว้ภายใน\n\nหลังจากคุณคลิกถัดไป VeraCrypt จะพยายามเมานท์ไดรฟ คุณจะรู้ว่ารูปแคลสเตอร์ถูกสแกนเพื่อระบุขนาดพื้นที่ที่ไม่ถูกรบกวนของพื้นที่ว่างที่สุดท้ายตรงกันกับจุดสิ้นสุดของไดรฟ์ พื้นที่นี้จะรองรับไดรฟ์ที่ซ่อนดังนั้นจะจำกัดขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้ รูปแบบแคลสเตอร์จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อมูลใดๆบนไดรฟ์ภายนอกจะถูกเขียนทับโดยไดรฟ์ที่ซ่อน \nโปรดเลือกรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ภายนอก จะเป็นรหัสผ่านที่คุณสามารถเปิดเผยให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ถ้าถูกถามหรือถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น\n\nสำคัญ: รหัสผ่านนี้ต้องแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากรหัสผ่านที่คุณจะเลือกสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน\n\nหมายเหตุ: ความยาวสูงสุดที่เป็นไปได้ของรหัสผ่านคือ 128 ตัวอักษร โปรดเลือกรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ภายนอก จะเป็นรหัสผ่านที่คุณสามารถเปิดเผยให้กับทุกคนที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับพาร์ทิชันแรกหลังพาร์ทิชันระบบ ที่ไดรฟ์ภายนอกและไดรฟ์ที่ซ่อน (ที่บรรจุระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) จะอยู่ การมีอยู่ของไดรฟ์ที่ซ่อน (และของระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) จะยังคงลับอยู่ โปรดทราบว่ารหัสผ่านนี้ไม่ใช่สำหรับระบบปฏิบัติการที่หลอก\n\nสำคัญ: รหัสผ่านนี้ต้องแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากรหัสผ่านที่คุณจะเลือกสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน (เช่น สำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) รหัสผ่านไดรฟ์ภายนอก รหัสผ่านไดรฟ์ที่ซ่อน รหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อน คำเตือน: รหัสผ่านสั้นนั้นง่ายต่อการแฮกด้วยเทคนิค brute force!\n\nเราแนะนำให้เลือกใช้รหัสผ่านที่ประกอบด้วยตัวอักษรอย่างน้อย 20 ตัว คุณแน่ใจหรือว่าต้องการใช้รหัสผ่านสั้น? รหัสผ่านไดรฟ์ การดำเนินการล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่ใช่ไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป การดำเนินการล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - ไฟล์คีย์ไม่ถูกต้อง\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่ใช่ไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป การดำเนินการล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - โหมดการเมาท์ไม่ถูกต้อง\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่ใช่ไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป การดำเนินการล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - โหมดการเมาท์ไม่ถูกต้อง\n - ไฟล์คีย์ไม่ถูกต้อง\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่ใช่ไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป การเมาท์อัตโนมัติล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่พบไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป การเมาท์อัตโนมัติล้มเหลวเนื่องจากหนึ่งหรือมากกว่าดังต่อไปนี้:\n - ไฟล์คีย์ไม่ถูกต้อง\n - รหัสผ่านไม่ถูกต้อง\n - หมายเลข PIM ของไดรฟ์ไม่ถูกต้อง\n - PRF (แฮช) ไม่ถูกต้อง\n - ไม่พบไดรฟ์ที่ถูกต้อง\n - ไดรฟ์ใช้อัลกอริธึมเก่าที่ถูกลบออกไปแล้ว\n - ไม่รองรับรูปแบบไดรฟ์ TrueCrypt อีกต่อไป \n\nคำเตือน: Caps Lock เปิดอยู่ อาจทำให้คุณกรอกรหัสผ่านไม่ถูกต้อง จำจำนวนเพื่อเมานท์ไดรฟ์ PIM ของไดรฟ์ภายนอก PIM ของไดรฟ์ที่ซ่อน PIM สำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อน PIM (Personal Iterations Multiplier) เป็นค่าที่ควบคุมจำนวนรอบที่ใช้ในการสกัดกั้นคีย์ต้นฉบับดังนี้:\n Iterations = 15000 + (PIM x 1000).\n\nเมื่อทิ้งว่างหรือกำหนดให้อยู่ที่ 0, VeraCrypt จะใช้ค่าเริ่มต้น (485) ที่รับรองความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว\n\nหากรหัสผ่านน้อยกว่า 20 ตัวอักษร, PIM ไม่สามารถน้อยกว่า 485 เพื่อรักษาระดับความปลอดภัยขั้นต่ำ\nหากรหัสผ่านมี 20 ตัวอักษรหรือนานกว่านั้น, PIM สามารถตั้งค่าได้ทุกค่า\n\nค่า PIM ที่มากกว่า 485 จะนำไปสู่การเมานท์ที่ช้ากว่า ค่า PIM ขนาดเล็ก (น้อยกว่า 485) จะทำให้เมานท์เร็วขึ้นแต่จะลดความปลอดภัยหากรหัสผ่านไม่แข็งแรงพอ PIM (Personal Iterations Multiplier) เป็นค่าที่ควบคุมจำนวนรอบที่ใช้ในการสกัดกั้นคีย์ต้นฉบับดังนี้:\n Iterations = PIM x 2048.\n\nเมื่อทิ้งว่างหรือกำหนดให้อยู่ที่ 0, VeraCrypt จะใช้ค่าเริ่มต้นที่รับรองความปลอดภัยสูง\n\nหากรหัสผ่านน้อยกว่า 20 ตัวอักษร, PIM ไม่สามารถน้อยกว่า 98 เพื่อรักษาระดับความปลอดภัยขั้นต่ำ\nหากรหัสผ่านมี 20 ตัวอักษรหรือนานกว่านั้น, PIM สามารถตั้งค่าได้ทุกค่า\n\nค่า PIM ที่มากกว่า 98 จะนำไปสู่การบูตที่ช้ากว่า ค่า PIM ขนาดเล็ก (น้อยกว่า 98) จะทำให้บูตเร็วขึ้นแต่จะลดความปลอดภัยหากรหัสผ่านไม่แข็งแรงพอ จำจำนวนเพื่อบูตระบบ คุณได้เลือกค่า PIM ที่มากกว่าค่าเริ่มต้นของ VeraCrypt\nโปรดทราบว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การเมานท์/บูตที่ช้ากว่ามาก คุณได้เลือก Personal Iterations Multiplier (PIM) ที่น้อยกว่าค่าเริ่มต้นของ VeraCrypt โปรดทราบว่าหากรหัสผ่านของคุณไม่แข็งแรงเพียงพอ สิ่งนี้อาจส่งผลให้ความปลอดภัยลดลง\n\nคุณยืนยันว่าคุณใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงหรือไม่? ค่าสูงสุดของ Personal Iterations Multiplier (PIM) สำหรับการเข้ารหัสระบบคือ 65535 PIM ของไดรฟ์ \n\nคำเตือน: พบไฟล์ที่ซ่อนในเส้นทางการค้นหาคีย์ไฟล์ ไฟล์ที่ซ่อนไม่สามารถใช้เป็นคีย์ไฟล์ได้ หากคุณต้องการใช้เป็นคีย์ไฟล์ ให้ลบคุณสมบัติ 'ซ่อน' ออก (คลิกขวาที่แต่ละไฟล์, เลือก 'คุณสมบัติ', ยกเลิกเลือก 'ซ่อน' และคลิกตกลง) หมายเหตุ: ไฟล์ที่ซ่อนมองเห็นได้เฉพาะเมื่อเปิดตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง (คอมพิวเตอร์ > จัดระเบียบ > 'ตัวเลือกโฟลเดอร์และการค้นหา' > มุมมอง) หากคุณพยายามที่จะป้องกันไดรฟที่ซ่อนซึ่งมีระบบที่ซ่อนไว้ โปรดแน่ใจว่าคุณใช้คีย์บอร์ดมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเมื่อกรอกรหัสผ่านสำหรับไดรฟ์ที่ซ่อน นี้เป็นเรื่องจำเป็นเนื่องจากรหัสผ่านต้องถูกกรอกในสภาพแวดล้อมก่อนบูต (ก่อนที่ Windows จะเริ่ม) ที่ไม่สามารถใช้รูปแบบคีย์บอร์ดของ Windows ที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกา VeraCrypt ไม่พบไดรฟใดๆ ที่กระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสถูกขัดจังหวะและไดรฟที่สามารถถอดรหัสโดยใช้รหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟล์ที่ให้ไว้\n\nโปรดแน่ใจว่ารหัสผ่านและ/หรือคีย์ไฟล์ถูกต้องและว่าพาร์ทิชัน/ไดรฟไม่ถูกใช้งานโดยระบบหรือแอปพลิเคชัน (รวมถึงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) พาร์ทิชัน/อุปกรณ์ที่เลือกถูกเข้ารหัสทั้งหมดแล้ว\nHeader Flags = 0x%.8X พาร์ทิชัน/อุปกรณ์ที่เลือกไม่ได้ใช้การเข้ารหัสในสถานที่\nHeader Flags = 0x%.8X \n\nหมายเหตุ: ถ้าคุณพยายามเมานท์พาร์ทิชันที่อยู่ในไดรฟระบบเข้ารหัสโดยไม่ผ่านการตรวจสอบก่อนบูตหรือเมานท์พาร์ทิชันระบบที่เข้ารหัสของระบบปฏิบัติการที่ไม่ได้ทำงานอยู่ คุณสามารถทำได้โดยเลือก 'ระบบ' > 'เมานท์โดยไม่ต้องตรวจสอบก่อนบูต' ในโหมดนี้ คุณไม่สามารถเมานท์พาร์ทิชันที่อยู่ในไดรฟ ที่ส่วนหนึ่งของมันอยู่ในขอบเขตของการเข้ารหัสระบบที่ทำงานอยู่\n\nก่อนที่คุณจะสามารถเมานท์พาร์ทิชันในโหมดนี้ คุณจำเป็นต้องบูตระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งในไดรฟอื่น (เข้ารหัสหรือไม่เข้ารหัส) หรือบูตระบบปฏิบัติการที่ไม่เข้ารหัส VeraCrypt ไม่สามารถถอดรหัสพาร์ทิชันเฉพาะบนไดรฟระบบที่เข้ารหัสทั้งหมด (คุณสามารถถอดรหัสได้เฉพาะไดรฟระบบทั้งหมด) คำเตือน: ในฐานะที่ไดรฟมีตัวโหลดบูตของ VeraCrypt มันอาจเป็นไดรฟระบบที่เข้ารหัสทั้งหมด หากเป็นเช่นนั้น โปรดทราบว่า VeraCrypt ไม่สามารถถอดรหัสพาร์ทิชันเฉพาะบนไดรฟระบบที่เข้ารหัสทั้งหมด (คุณสามารถถอดรหัสได้เฉพาะไดรฟระบบทั้งหมด) หากเป็นกรณีนี้ คุณจะสามารถดำเนินการต่อได้ในขณะนี้แต่คุณจะได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด 'รหัสผ่านไม่ถูกต้อง' ในภายหลัง < &กลับ ไม่สามารถแสดงรายการอุปกรณ์ดิบที่ติดตั้งบนระบบของคุณ! ปริมาณ '%s' มีอยู่และเป็นแบบอ่านอย่างเดียว. คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการแทนที่มัน? เลือกไดเรกทอรีปลายทาง เลือกไฟล์คีย์ เลือกเส้นทางค้นหาไฟล์คีย์. คำเตือน: โปรดทราบว่าเฉพาะเส้นทางเท่านั้นที่จะถูกจำ, ไม่ใช่ชื่อไฟล์! เลือกไดเรกทอรีที่จะเก็บไฟล์คีย์. ไฟล์ตัวเก็บปัจจุบันถูกเลือกเป็นไฟล์คีย์. มันจะถูกข้ามไป. ออกแบบโดย Ross Anderson, Eli Biham, และ Lars Knudsen. เผยแพร่ในปี 1998. คีย์ 256-บิต, บล็อก 128-บิต. โหมดการดำเนินการคือ XTS. Serpent เป็นหนึ่งในผู้ผ่านเข้ารอบ AES. โปรดระบุขนาดของตัวเก็บที่คุณต้องการสร้าง.\n\nถ้าคุณสร้างตัวเก็บแบบไดนามิก (ไฟล์ที่ประหยัดพื้นที่), พารามิเตอร์นี้จะระบุขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้.\n\nโปรดทราบว่าขนาดต่ำสุดของปริมาณ FAT ที่เป็นไปได้คือ 292 KB. ขนาดต่ำสุดของปริมาณ exFAT ที่เป็นไปได้คือ 424 KB. ขนาดต่ำสุดของปริมาณ NTFS ที่เป็นไปได้คือ 3792 KB. ขนาดต่ำสุดของปริมาณ ReFS ที่เป็นไปได้คือ 642 MB. โปรดระบุขนาดของปริมาณภายนอกที่จะสร้าง (คุณจะสร้างปริมาณภายนอกก่อนและจากนั้นสร้างปริมาณที่ซ่อนภายในมัน). ขนาดต่ำสุดของปริมาณที่ซ่อนที่สามารถสร้างได้คือ 340 KB. โปรดระบุขนาดของปริมาณที่ซ่อนที่จะสร้าง. ขนาดต่ำสุดของปริมาณที่ซ่อนคือ 40 KB (หรือ 3664 KB หากจัดรูปแบบเป็น NTFS). ขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับปริมาณที่ซ่อนที่คุณสามารถระบุได้จะแสดงอยู่ด้านบน. ขนาดปริมาณภายนอก ขนาดปริมาณที่ซ่อน โปรดยืนยันว่าขนาดของอุปกรณ์/พาร์ติชันที่เลือกแสดงอยู่ด้านบนถูกต้องและคลิกถัดไป. ปริมาณภายนอกและปริมาณที่ซ่อน (ที่มีระบบปฏิบัติการที่ซ่อน) จะอยู่ในพาร์ติชันด้านบน. มันควรเป็นพาร์ติชันแรกที่อยู่หลังพาร์ติชันระบบ.\n\nโปรดยืนยันว่าขนาดของพาร์ติชันและหมายเลขของมันที่แสดงอยู่ด้านบนถูกต้อง, และหากถูกต้อง, คลิกถัดไป. \n\nโปรดทราบว่าขนาดต่ำสุดของปริมาณที่ซ่อนที่เป็นไปได้เพื่อสร้างคือ 340 KB. ขนาดปริมาณ ไดนามิก คำเตือน: การทดสอบตัวเองล้มเหลว! การทดสอบตัวเองทุกอัลกอริธึมผ่านแล้ว หมายเลขหน่วยข้อมูลที่คุณให้มายาวหรือสั้นเกินไป. คีย์รองที่คุณให้มายาวหรือสั้นเกินไป. ข้อความเข้ารหัสทดสอบที่คุณให้มายาวหรือสั้นเกินไป. คีย์ทดสอบที่คุณให้มายาวหรือสั้นเกินไป. ข้อความชัดทดสอบที่คุณให้มายาวหรือสั้นเกินไป. การเข้ารหัสสองตัวในโหมดการดำเนินการ XTS. แต่ละบล็อกถูกเข้ารหัสด้วย %s ครั้งแรก (%d-บิตคีย์) และจากนั้นกับ %s (%d-บิตคีย์). การเข้ารหัสแต่ละตัวใช้คีย์ของตัวเอง. คีย์ทุกตัวไม่ขึ้นอยู่กับกันและกัน. การเข้ารหัสสามตัวในโหมดการดำเนินการ XTS. แต่ละบล็อกถูกเข้ารหัสด้วย %s ครั้งแรก (%d-บิตคีย์), จากนั้นกับ %s (%d-บิตคีย์), และสุดท้ายกับ %s (%d-บิตคีย์). การเข้ารหัสแต่ละตัวใช้คีย์ของตัวเอง. คีย์ทุกตัวไม่ขึ้นอยู่กับกันและกัน. โปรดทราบว่าขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าระบบปฏิบัติการ, คุณสมบัติการรันอัตโนมัติและการติดตั้งอัตโนมัติอาจทำงานได้เฉพาะเมื่อไฟล์ดิสก์เดินทางถูกสร้างบนสื่อที่ไม่สามารถเขียนได้เหมือน CD/DVD. โปรดทราบว่านี่ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt (เป็นข้อจำกัดของ Windows). ดิสก์เดินทาง VeraCrypt ถูกสร้างสำเร็จแล้ว.\n\nโปรดทราบว่าคุณต้องมีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบในการรัน VeraCrypt ในโหมดพกพา. โปรดทราบเพิ่มเติมว่าหลังจากตรวจสอบไฟล์รีจิสตรี, อาจเป็นไปได้ที่จะบอกว่า VeraCrypt ถูกเรียกใช้งานในระบบ Windows แม้ว่าจะรันในโหมดพกพา.\n ดิสก์เดินทาง VeraCrypt ออกแบบโดย Bruce Schneier, John Kelsey, Doug Whiting, David Wagner, Chris Hall, และ Niels Ferguson. เผยแพร่ในปี 1998. คีย์ 256-บิต, บล็อก 128-บิต. โหมดการดำเนินการคือ XTS. Twofish เป็นหนึ่งในผู้ผ่านเข้ารอบ AES. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ %s ไม่ทราบ ข้อผิดพลาดที่ไม่ระบุหรือไม่ทราบ (%d). ปริมาณบางตัวมีไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกใช้งานโดยโปรแกรมหรือระบบ.\n\nบังคับถอดติดตั้ง? ถอดติดตั้ง ถอดติดตั้งล้มเหลว! ปริมาณมีไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกใช้งานโดยโปรแกรมหรือระบบ.\n\nบังคับถอดติดตั้ง? ไม่มีปริมาณที่ติดตั้งบนตัวอักษรไดรฟ์ที่ระบุ. ปริมาณที่คุณพยายามติดตั้งถูกติดตั้งอยู่แล้ว. เกิดข้อผิดพลาดเมื่อพยายามติดตั้งปริมาณ. ข้อผิดพลาดในการหาตำแหน่งในปริมาณ. ข้อผิดพลาด: ขนาดปริมาณไม่ถูกต้อง. คำเตือน: คุณควรใช้การฟอร์แมทอย่างรวดเร็วเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้:\n\n1) อุปกรณ์ไม่มีข้อมูลที่อ่อนไหวและคุณไม่ต้องการความสามารถในการปฏิเสธที่น่าเชื่อถือ.\n2) อุปกรณ์ได้ถูกเข้ารหัสอย่างปลอดภัยและเต็มที่แล้ว.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้การฟอร์แมทอย่างรวดเร็ว? ตัวเก็บแบบไดนามิกเป็นไฟล์ NTFS แบบประหยัดพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรไว้ล่วงหน้าซึ่งขนาดทางกายภาพ (พื้นที่ดิสก์ที่ใช้งานจริง) จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเพิ่มข้อมูลใหม่ไปยังมัน.\n\nคำเตือน: ประสิทธิภาพของปริมาณที่โฮสต์ไฟล์แบบไดนามิกแย่กว่าประสิทธิภาพของปริมาณปกติอย่างมาก. ปริมาณที่โฮสต์ไฟล์แบบไดนามิกก็ไม่ปลอดภัยเท่ากัน เพราะสามารถบอกได้ว่าบล็อกของปริมาณไหนไม่ถูกใช้งาน. นอกจากนี้, ปริมาณที่โฮสต์ไฟล์แบบไดนามิกไม่สามารถให้ความสามารถในการปฏิเสธที่น่าเชื่อถือได้ (โฮสต์ปริมาณที่ซ่อน). โปรดทราบเพิ่มเติมว่าถ้ามีการเขียนข้อมูลไปยังไฟล์ที่ประหยัดพื้นที่เมื่อไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอในระบบไฟล์โฮสต์, ระบบไฟล์ที่เข้ารหัสอาจเสียหาย.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการสร้างปริมาณที่โฮสต์ไฟล์แบบไดนามิก? โปรดทราบว่าขนาดของตัวเก็บแบบไดนามิกที่รายงานโดย Windows และโดย VeraCrypt จะเท่ากับขนาดสูงสุดของมันเสมอ. เพื่อตรวจสอบขนาดทางกายภาพปัจจุบันของตัวเก็บ (พื้นที่ดิสก์ที่ใช้งานจริง), คลิกขวาที่ไฟล์ตัวเก็บ (ในหน้าต่าง Windows Explorer, ไม่ใช่ใน VeraCrypt), จากนั้นเลือก 'คุณสมบัติ' และดูที่ค่าของ 'ขนาดบนดิสก์'.\n\nโปรดทราบเพิ่มเติมว่าถ้าคุณย้ายตัวเก็บแบบไดนามิกไปยังปริมาณหรือไดรฟ์อื่น, ขนาดทางกายภาพของตัวเก็บจะขยายไปสูงสุด. (คุณสามารถป้องกันได้โดยการสร้างตัวเก็บแบบไดนามิกใหม่ในตำแหน่งปลายทาง, ติดตั้งมันและจากนั้นย้ายไฟล์จากตัวเก็บเก่าไปยังตัวเก็บใหม่. แคชรหัสผ่านถูกล้าง รหัสผ่าน (และ/หรือเนื้อหาคีย์ไฟล์ที่ประมวลผลแล้ว) ที่เก็บในแคชไดรเวอร์ VeraCrypt ถูกล้างแล้ว. VeraCrypt ไม่สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของปริมาณที่ไม่ใช่ของปริมาณนี้ได้. โปรดเลือกตัวอักษรไดรฟ์ที่ว่างจากรายการ. โปรดเลือกปริมาณที่ติดตั้งในรายการตัวอักษรไดรฟ์. คำเตือน: ขณะนี้มีการเลือกปริมาณ/อุปกรณ์ที่แตกต่างกันสองรายการ (รายการแรกถูกเลือกในรายการตัวอักษรไดรฟ์และรายการที่สองถูกเลือกในช่องป้อนข้อมูลด้านล่างรายการตัวอักษรไดรฟ์).\n\nโปรดยืนยันการเลือกของคุณ: ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถสร้าง autorun.inf ข้อผิดพลาดขณะประมวลผลไฟล์คีย์! ข้อผิดพลาดขณะประมวลผลเส้นทางไฟล์คีย์! เส้นทางไฟล์คีย์ไม่มีไฟล์ใด ๆ.\n\nโปรดทราบว่าโฟลเดอร์ (และไฟล์ในโฟลเดอร์) ที่พบในเส้นทางค้นหาไฟล์คีย์จะถูกละเลย. VeraCrypt ไม่สนับสนุนระบบปฏิบัติการนี้. ข้อผิดพลาด: VeraCrypt สนับสนุนเฉพาะเวอร์ชันเสถียรของระบบปฏิบัติการนี้ (เวอร์ชันเบต้า/RC ไม่สนับสนุน). ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถจัดสรรหน่วยความจำ. ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับค่าของตัวนับประสิทธิภาพ. ข้อผิดพลาด: รูปแบบปริมาณไม่ถูกต้อง. ข้อผิดพลาด: คุณให้รหัสผ่านสำหรับปริมาณที่ซ่อน (ไม่ใช่ปริมาณปกติ). เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย, ไม่สามารถสร้างปริมาณที่ซ่อนภายในปริมาณ VeraCrypt ที่มีระบบไฟล์ที่เข้ารหัสอยู่ในที่ได้ (เพราะพื้นที่ว่างในปริมาณยังไม่ถูกเติมด้วยข้อมูลสุ่ม). VeraCrypt - ข้อกฎหมาย ไฟล์ทั้งหมด ปริมาณ VeraCrypt โมดูลไลบรารี การฟอร์แมท NTFS/exFAT/ReFS ไม่สามารถดำเนินการต่อได้. ไม่สามารถติดตั้งปริมาณ. ไม่สามารถถอดติดตั้งปริมาณ. Windows ไม่สามารถฟอร์แมทปริมาณเป็น NTFS/exFAT/ReFS ได้.\n\nโปรดเลือกประเภทของระบบไฟล์ที่แตกต่างกัน (ถ้าเป็นไปได้) และลองอีกครั้ง. หรืออีกทางหนึ่ง, คุณสามารถปล่อยให้ปริมาณยังไม่ฟอร์แมท (เลือก 'ไม่มี' เป็นระบบไฟล์), ออกจากวิซาร์ดนี้, ติดตั้งปริมาณ, และจากนั้นใช้เครื่องมือของระบบหรือบุคคลที่สามเพื่อฟอร์แมทปริมาณที่ติดตั้ง (ปริมาณจะยังถูกเข้ารหัสอยู่). Windows ไม่สามารถฟอร์แมทปริมาณเป็น NTFS/exFAT/ReFS ได้.\n\nคุณต้องการฟอร์แมทปริมาณเป็น FAT แทนหรือไม่? ค่าเริ่มต้น พาร์ติชัน พาร์ติชัน อุปกรณ์ อุปกรณ์ อุปกรณ์ ปริมาณ ปริมาณ ปริมาณ ป้ายกำกับ ขนาดคลัสเตอร์ที่เลือกเล็กเกินไปสำหรับขนาดวอลุ่มนี้ จะใช้ขนาดคลัสเตอร์ที่ใหญ่ขึ้นแทน ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับขนาดวอลุ่มได้!\n\nตรวจสอบให้แน่ใจว่าวอลุ่มที่เลือกไม่ได้ใช้งานโดยระบบหรือแอปพลิเคชัน ไม่ควรสร้างวอลุ่มที่ซ่อนไว้ภายในเครื่องบรรจุไฟล์แบบไดนามิก เพื่อให้บรรลุความน่าเชื่อถือ วอลุ่มที่ซ่อนไว้จำเป็นต้องถูกสร้างภายในเครื่องบรรจุที่ไม่ใช่แบบไดนามิก วิซาร์ดสร้างวอลุ่ม VeraCrypt สามารถสร้างวอลุ่มที่ซ่อนไว้ได้เฉพาะภายในวอลุ่ม FAT/exFAT หรือ NTFS เท่านั้น ใน Windows 2000 วิซาร์ดสร้างวอลุ่ม VeraCrypt สามารถสร้างวอลุ่มที่ซ่อนไว้ได้เฉพาะภายในวอลุ่ม FAT เท่านั้น หมายเหตุ: ระบบไฟล์ FAT/exFAT เหมาะสมมากกว่าสำหรับวอลุ่มภายนอกมากกว่าระบบไฟล์ NTFS (เช่น ขนาดสูงสุดของวอลุ่มที่ซ่อนไว้จะมีโอกาสมากกว่าอย่างมากหากวอลุ่มภายนอกถูกฟอร์แมตเป็น FAT/exFAT) หมายเหตุว่าระบบไฟล์ FAT/exFAT เหมาะสมมากกว่าสำหรับวอลุ่มภายนอกมากกว่าระบบไฟล์ NTFS ตัวอย่างเช่น ขนาดสูงสุดของวอลุ่มที่ซ่อนไว้จะมีโอกาสมากกว่าอย่างมากหากวอลุ่มภายนอกถูกฟอร์แมตเป็น FAT/exFAT (เนื่องจากระบบไฟล์ NTFS จะเก็บข้อมูลภายในไว้ที่กลางของวอลุ่มเสมอ และดังนั้น วอลุ่มที่ซ่อนไว้สามารถอยู่ได้เฉพาะในครึ่งหลังของวอลุ่มภายนอก)\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการฟอร์แมตวอลุ่มภายนอกเป็น NTFS? คุณต้องการฟอร์แมตวอลุ่มเป็น FAT แทนหรือไม่? หมายเหตุ: วอลุ่มนี้ไม่สามารถฟอร์แมตเป็น FAT ได้เนื่องจากขนาดของวอลุ่มนี้เกินขนาดสูงสุดที่รองรับได้สำหรับระบบไฟล์ FAT32 ภายใต้ขนาดภาคข้อมูลที่กำหนด (2 TB สำหรับภาคข้อมูล 512 byte และ 16 TB สำหรับภาคข้อมูล 4096 byte) ข้อผิดพลาด: พื้นที่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ (เช่น พื้นที่แรกหลังกั้นระหว่างระบบ) ต้องมีขนาดอย่างน้อย 5% ใหญ่กว่าพื้นที่ของระบบ (พื้นที่ของระบบคือพื้นที่ที่ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ติดตั้งอยู่) ข้อผิดพลาด: พื้นที่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ (เช่น พื้นที่แรกหลังกั้นระหว่างระบบ) ต้องมีขนาดอย่างน้อย 110% (2.1 เท่า) ใหญ่กว่าพื้นที่ของระบบ (พื้นที่ของระบบคือพื้นที่ที่ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ติดตั้งอยู่) เนื่องจากระบบไฟล์ NTFS จะเก็บข้อมูลภายในไว้ที่กลางของวอลุ่มเสมอ และดังนั้น วอลุ่มที่ซ่อนไว้ (ซึ่งจะต้องมีการคัดลอกของพื้นที่ระบบ) สามารถอยู่ได้เฉพาะในครึ่งหลังของพื้นที่ ข้อผิดพลาด: หากวอลุ่มภายนอกถูกฟอร์แมตเป็น NTFS มันต้องมีขนาดอย่างน้อย 110% (2.1 เท่า) ใหญ่กว่าพื้นที่ของระบบ เนื่องจากระบบไฟล์ NTFS จะเก็บข้อมูลภายในไว้ที่กลางของวอลุ่มเสมอ และดังนั้น วอลุ่มที่ซ่อนไว้ (ซึ่งจะต้องมีการคัดลอกของพื้นที่ระบบ) สามารถอยู่ได้เฉพาะในครึ่งหลังของวอลุ่มภายนอก\n\nหมายเหตุ: วอลุ่มภายนอกจำเป็นต้องอยู่ภายในพื้นที่เดียวกับระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ (เช่น ภายในพื้นที่แรกหลังกั้นระหว่างระบบ) ข้อผิดพลาด: ไม่มีพื้นที่หลังกั้นระหว่างระบบ\n\nหมายเหตุว่าก่อนที่คุณจะสามารถสร้างระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ได้ คุณจำเป็นต้องสร้างพื้นที่สำหรับมันในไดรฟ์ของระบบ มันต้องเป็นพื้นที่แรกหลังกั้นระหว่างระบบและมันต้องมีขนาดอย่างน้อย 5% ครอบคุมพื้นที่ระบบ (พื้นที่ของระบบคือพื้นที่ที่ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ติดตั้งอยู่) ถ้าวอลุ่มภายนอก (ไม่ให้สับสนกับพื้นที่ของระบบ) ถูกฟอร์แมตเป็น NTFS พื้นที่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ต้องมีขนาดอย่างน้อย 110% (2.1 เท่า) ครอบคุมพื้นที่ระบบ (เนื่องจากระบบไฟล์ NTFS จะเก็บข้อมูลภายในไว้ที่กลางของวอลุ่มและ ดังนั้น วอลุ่มที่ซ่อนไว้ซึ่งจะต้องมีการคัดลอกของพื้นที่ของระบบ สามารถอยู่ได้เฉพาะในครึ่งหลังของพื้นที่) หมายเหตุ: มันไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผล (และดังนั้นไม่รองรับ) ในการติดตั้งระบบปฏิบัติการในวอลุ่ม VeraCrypt สองวอลุ่มที่ฝังไว้ในพื้นที่เดียวกันเพราะการใช้ระบบปฏิบัติการภายนอกจะต้องบันทึกข้อมูลไปยังพื้นที่ของระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้บ่อยครั้ง (และหากการบันทึกดังกล่าวถูกป้องกันโดยการใช้ฟีเจอร์การป้องกันวอลุ่มที่ซ่อนไว้มันจะก่อให้เกิดการล่มของระบบเช่นข้อผิดพลาด 'Blue Screen') สำหรับข้อมูลในการสร้างและจัดการพื้นที่ โปรดดูเอกสารที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของคุณหรือติดต่อทีมสนับสนุนทางเทคนิคของผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ของคุณสำหรับความช่วยเหลือ ข้อผิดพลาด: ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานไม่ได้ติดตั้งบนพื้นที่การบูต (พื้นที่ Active แรก) นี้ไม่ได้รับการรองรับ คุณระบุว่าต้องการเก็บไฟล์ที่ใหญ่กว่า 4 GB ในวอลุ่ม VeraCrypt นี้ อย่างไรก็ตามคุณเลือกระบบไฟล์ FAT ที่ไฟล์ที่ใหญ่กว่า 4 GB ไม่สามารถถูกเก็บได้\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการฟอร์แมตวอลุ่มเป็น FAT? ข้อผิดพลาด: VeraCrypt ไม่รองรับการถอดรหัสในสถานที่ของวอลุ่มที่ไม่ใช่ระบบที่สร้างโดย VeraCrypt 1.0b หรือก่อนหน้านี้\n\nหมายเหตุ: คุณยังสามารถถอดรหัสไฟล์ที่เก็บไว้ในวอลุ่มโดยการคัดลอก/ย้ายไปยังวอลุ่มที่ไม่เข้ารหัสใด ๆ ข้อผิดพลาด: VeraCrypt ไม่สามารถถอดรหัสในสถานที่ของวอลุ่ม VeraCrypt ที่ซ่อนไว้ได้\n\nหมายเหตุ: คุณยังสามารถถอดรหัสไฟล์ที่เก็บไว้ในวอลุ่มโดยการคัดลอก/ย้ายไปยังวอลุ่มที่ไม่เข้ารหัสใด ๆ คำเตือน: โปรดทราบว่า VeraCrypt ไม่สามารถถอดรหัสในสถานที่ของวอลุ่มที่มีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ VeraCrypt (วอลุ่มที่ซ่อนไว้จะถูกเขียนทับด้วยข้อมูลสุ่มเสมือน)\n\nโปรดยืนยันว่าวอลุ่มที่คุณกำลังจะถอดรหัสไม่มีวอลุ่มที่ซ่อนไว้\n\nหมายเหตุ: หากวอลุ่มมีวอลุ่มที่ซ่อนไว้แต่คุณไม่สนใจที่จะสูญเสียวอลุ่มที่ซ่อนไว้นั้นคุณสามารถเลือกดำเนินการต่อ (วอลุ่มภายนอกจะถูกถอดรหัสอย่างปลอดภัย) วอลุ่มไม่มีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ กำลังดำเนินการต่อ วอลุ่มมีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ ยกเลิก ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเข้าถึงวอลุ่มได้!\n\nตรวจสอบให้แน่ใจว่าวอลุ่มที่เลือกมีอยู่จริงไม่ได้เมาท์หรือนำไปใช้โดยระบบหรือแอปพลิเคชันใด ๆ และคุณมีสิทธิ์อ่าน/เขียนสำหรับวอลุ่ม และวอลุ่มไม่ได้ถูกป้องกันจากการเขียน ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับวอลุ่มได้ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเข้าถึงหรือรับข้อมูลเกี่ยวกับวอลุ่มได้\n\nตรวจสอบให้แน่ใจว่าวอลุ่มที่เลือกมีอยู่จริงไม่ได้ถูกใช้งานโดยระบบหรือแอปพลิเคชันใด ๆ และคุณมีสิทธิ์อ่าน/เขียนสำหรับวอลุ่ม และวอลุ่มไม่ได้ถูกป้องกันจากการเขียน ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเข้าถึงวอลุ่มหรือรับข้อมูลเกี่ยวกับวอลุ่ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวอลุ่มที่เลือกมีอยู่จริงไม่ได้ถูกใช้งานโดยระบบหรือแอปพลิเคชันใด ๆ และคุณมีสิทธิ์อ่าน/เขียนสำหรับวอลุ่ม และวอลุ่มไม่ได้ถูกป้องกันจากการเขียน\n\nหากปัญหายังคงอยู่ การทำตามขั้นตอนด้านล่างอาจช่วยได้ ข้อผิดพลาดป้องกันไม่ให้ VeraCrypt เข้ารหัสพาร์ทิชัน โปรดลองแก้ไขปัญหาที่รายงานก่อนหน้าแล้วลองอีกครั้ง หากปัญหายังคงอยู่ การทำตามขั้นตอนด้านล่างอาจช่วยได้ ข้อผิดพลาดป้องกันไม่ให้ VeraCrypt ทำการเข้ารหัส/ถอดรหัสพาร์ทิชัน/วอลุ่มต่อ\n\nโปรดลองแก้ไขปัญหาที่รายงานก่อนหน้าแล้วลองอีกครั้งหากเป็นไปได้ โปรดทราบว่าวอลุ่มไม่สามารถเมาท์ได้จนกว่ามันจะถูกเข้ารหัสหรือถอดรหัสเต็มที่ ข้อผิดพลาดป้องกันไม่ให้ VeraCrypt ถอดรหัสวอลุ่ม โปรดลองแก้ไขปัญหาที่รายงานก่อนหน้าแล้วลองอีกครั้งหากเป็นไปได้ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถยกเลิกการเมาท์วอลุ่มภายนอก!\n\nวอลุ่มไม่สามารถยกเลิกการเมาท์ได้หากมีไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกใช้โดยโปรแกรมหรือระบบ\n\nโปรดปิดโปรแกรมใด ๆ ที่อาจใช้ไฟล์หรือไดเร็กทอรีในวอลุ่มแล้วคลิกลองอีกครั้ง ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับวอลุ่มภายนอก!\nการสร้างวอลุ่มไม่สามารถดำเนินต่อไป ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเข้าถึงวอลุ่มภายนอก! การสร้างวอลุ่มไม่สามารถดำเนินต่อไป ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเมาท์วอลุ่มภายนอก! การสร้างวอลุ่มไม่สามารถดำเนินต่อไป ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับการจองกลุ่มคลัสเตอร์วอลุ่มได้! การสร้างวอลุ่มไม่สามารถดำเนินต่อไป ตามลำดับอักษร/หมวดหมู่ ความเร็วเฉลี่ย (กำลังลดลง) อัลกอริธึม การเข้ารหัส การถอดรหัส ค่าเฉลี่ย ไดรฟ์ ขนาด อัลกอริธึมการเข้ารหัส อัลกอริธึมการเข้ารหัส ประเภท ค่า คุณสมบัติ ตำแหน่งที่ตั้ง ไบต์ ซ่อนไว้ ภายนอก ปกติ ระบบ ซ่อนไว้ (ระบบ) อ่านอย่างเดียว ไดรฟ์ระบบ ไดรฟ์ระบบ (กำลังเข้ารหัส - %.2f%% เสร็จสิ้น) ไดรฟ์ระบบ (กำลังถอดรหัส - %.2f%% เสร็จสิ้น) ไดรฟ์ระบบ (%.2f%% เข้ารหัส) พาร์ทิชันระบบ พาร์ทิชันระบบที่ซ่อนไว้ พาร์ทิชันระบบ (กำลังเข้ารหัส - %.2f%% เสร็จสิ้น) พาร์ทิชันระบบ (กำลังถอดรหัส - %.2f%% เสร็จสิ้น) พาร์ทิชันระบบ (%.2f%% เข้ารหัส) ใช่ (ป้องกันความเสียหาย!) ไม่มี ขนาดคีย์หลัก ขนาดคีย์รอง (โหมด XTS) ขนาดคีย์เฉพาะ (โหมด LRW) บิต ขนาดบล็อก PKCS-5 PRF จำนวนการวนของ PKCS-5 สร้างวอลุ่มเมื่อ ส่วนหัวแก้ไขล่าสุดเมื่อ (%I64d วันที่ผ่านมา) เวอร์ชั่นฟอร์แมตวอลุ่ม สำรองข้อมูลส่วนหัวในตัว เวอร์ชั่นของ Boot Loader VeraCrypt ตัวเลือกแรกที่มีอยู่ ดิสก์ที่สามารถถอดออกได้ ฮาร์ดดิสก์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง การตรวจจับอัตโนมัติ โหมดวิซาร์ด เลือกหนึ่งในโหมด หากคุณไม่แน่ใจที่จะเลือกอันใด ใช้โหมดเริ่มต้น เลือกออปชั่นนี้หากคุณต้องการติดตั้ง VeraCrypt บนระบบนี้ หมายเหตุ: คุณสามารถอัพเกรดได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดรหัส แม้ว่าพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบจะถูกเข้ารหัสหรือคุณใช้ระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้ หากคุณเลือกออปชั่นนี้ ไฟล์ทั้งหมดจะถูกสกัดจากแพ็คเกจนี้ แต่จะไม่มีการติดตั้งอะไรในระบบ ไม่ได้เลือกมันหากคุณตั้งใจจะเข้ารหัสพาร์ทิชันระบบหรือไดรฟ์ ระบบจะสกัดไฟล์ทั้งหมด และคุณสามารถเรียกใช้ไฟล์ 'VeraCrypt.exe' ที่สกัด (แล้ว VeraCrypt จะทำงานในโหมดพกพา) ออปชั่นการติดตั้ง ที่นี้คุณสามารถตั้งค่าออปชั่นต่าง ๆ เพื่อควบคุมกระบวนการติดตั้ง กำลังติดตั้ง โปรดรอสักครู่ในขณะที่ VeraCrypt กำลังติดตั้ง VeraCrypt ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว VeraCrypt ถูกอัพเกรดเรียบร้อยแล้ว โปรดพิจารณาทำการบริจาค คุณสามารถคลิกเสร็จสิ้นได้ตลอดเวลาเพื่อปิดตัวติดตั้ง ออปชั่นการสกัด ที่นี่คุณสามารถตั้งค่าออปชั่นต่าง ๆ เพื่อควบคุมกระบวนการสกัด โปรดรอขณะที่กำลังสกัดไฟล์ ไฟล์ถูกสกัดเรียบร้อยแล้ว ไฟล์ทั้งหมดถูกสกัดเรียบร้อยไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ระบุ หากโฟลเดอร์ที่ระบุไม่อยู่ มันจะถูกสร้างอัตโนมัติ ไฟล์โปรแกรม VeraCrypt จะถูกอัพเกรดในตำแหน่งที่ VeraCrypt ถูกติดตั้ง หากคุณต้องการเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ต่างออกไป โปรดถอนการติดตั้ง VeraCrypt ก่อน คุณต้องการดูหมายเหตุการวางจำหน่ายของเวอร์ชั่นล่าสุดของ VeraCrypt หรือไม่? หากคุณไม่เคยใช้ VeraCrypt มาก่อน เราแนะนำให้คุณอ่านบทแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt คุณต้องการดูบทแนะนำหรือไม่? โปรดเลือกปฏิบัติการหนึ่งที่จะดำเนินการจากด้านล่าง: ซ่อมแซม/ติดตั้งใหม่ อัพเกรด ถอนการติดตั้ง เพื่อให้ติดตั้ง/ถอนการติดตั้ง VeraCrypt ได้สำเร็จ คุณต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ คุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? ตัวติดตั้ง VeraCrypt กำลังทำงานในระบบนี้และกำลังดำเนินการติดตั้งหรือเตรียมการติดตั้ง/อัพเดต VeraCrypt ก่อนที่คุณจะดำเนินการ โปรดรอให้เสร็จสิ้นหรือลองปิดมัน หากคุณไม่สามารถปิดมันได้ โปรดรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ก่อนการดำเนินการ การติดตั้งล้มเหลว การถอนการติดตั้งล้มเหลว แพ็คเกจการจัดจำหน่ายนี้เสียหาย โปรดลองดาวน์โหลดใหม่อีกครั้ง (จากเว็บไซต์ทางการของ VeraCrypt ที่ https://www.veracrypt.fr) ไม่สามารถเขียนไฟล์ %s ได้ กำลังสกัด ไม่สามารถอ่านข้อมูลจากแพ็คเกจได้ ไม่สามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ของแพ็คเกจการจัดจำหน่ายนี้ได้ การสกัดล้มเหลว การติดตั้งถูกย้อนกลับแล้ว VeraCrypt ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว VeraCrypt ถูกอัพเดตเรียบร้อยแล้ว VeraCrypt ถูกอัพเกรดเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่มใช้งานมัน คอมพิวเตอร์จะต้องถูกรีสตาร์ท\n\nคุณต้องการรีสตาร์ทตอนนี้หรือไม่? การอัพเกรด VeraCrypt ล้มเหลว!\n\nสำคัญ: ก่อนที่คุณจะปิดหรือรีสตาร์ทระบบ เราแนะนำให้คุณใช้ System Restore (เมนู Start ของ Windows > โปรแกรมทั้งหมด > อุปกรณ์เสริม > เครื่องมือระบบ > System Restore) เพื่อคืนค่าระบบของคุณไปยังจุดคืนค่าที่ชื่อว่า 'VeraCrypt installation' หาก System Restore ไม่พร้อมใช้งาน คุณควรพยายามติดตั้งเวอร์ชั่นดั้งเดิมหรือเวอร์ชั่นใหม่ของ VeraCrypt อีกครั้งก่อนที่คุณจะปิดหรือรีสตาร์ทระบบ VeraCrypt ถูกถอนการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว\n\nคลิก 'เสร็จสิ้น' เพื่อเอาตัวติดตั้ง VeraCrypt และโฟลเดอร์ %s ออก โปรดทราบว่าโฟลเดอร์จะไม่ถูกเอาออกหากมันยังมีไฟล์ที่ไม่ได้ติดตั้งโดยตัวติดตั้ง VeraCrypt หรือสร้างโดย VeraCrypt กำลังเอาข้อมูลรีจิสเตอร์ VeraCrypt ออก กำลังเพิ่มข้อมูลรีจิสเตอร์ กำลังเอาข้อมูลเฉพาะแอปพลิเคชันออก กำลังติดตั้ง กำลังหยุด กำลังเอาออก กำลังเพิ่มไอคอน กำลังสร้างจุดคืนค่าระบบ การสร้างจุดคืนค่าระบบล้มเหลว! กำลังอัพเดตโปรแกรมโหลดบูต การติดตั้ง '%s' ล้มเหลว. %s\nคุณต้องการดำเนินการติดตั้งต่อหรือไม่? การถอนการติดตั้ง '%s' ล้มเหลว. %s\nคุณต้องการดำเนินการถอนการติดตั้งต่อหรือไม่? การติดตั้งเสร็จสิ้น ไม่สามารถสร้างโฟลเดอร์ '%s' ไม่สามารถปลดไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt ได้\n\nโปรดปิดหน้าต่าง VeraCrypt ที่เปิดอยู่ทั้งหมดก่อน ถ้ามันไม่ช่วย โปรดรีสตาร์ท Windows แล้วลองใหม่อีกครั้ง วอลุ่ม VeraCrypt ทั้งหมดต้องถูกยกเลิกการเมาท์ก่อนการติดตั้งหรือถอนการติดตั้ง VeraCrypt มีเวอร์ชันเก่าของ VeraCrypt ที่ติดตั้งอยู่ในระบบนี้ มันจำเป็นต้องถูกถอนการติดตั้งก่อนที่คุณจะสามารถติดตั้งเวอร์ชันใหม่ของ VeraCrypt\n\nทันทีที่คุณปิดกล่องข้อความนี้ โปรแกรมถอนการติดตั้งเวอร์ชันเก่าจะเปิดขึ้น โปรดทราบว่าจะไม่มีการถอดรหัสวอลุ่มใดๆเมื่อคุณถอนการติดตั้ง VeraCrypt หลังจากที่คุณถอนการติดตั้งเวอร์ชันเก่าของ VeraCrypt เรียบร้อยแล้วให้รันโปรแกรมติดตั้งของเวอร์ชันใหม่ของ VeraCrypt อีกครั้ง การติดตั้งข้อมูลรีจิสเตอร์ล้มเหลว การติดตั้งไดรเวอร์อุปกรณ์ล้มเหลว โปรดรีสตาร์ท Windows แล้วลองติดตั้ง VeraCrypt อีกครั้ง กำลังเริ่มไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt การถอนการติดตั้งไดรเวอร์อุปกรณ์ล้มเหลว โปรดทราบว่าเนื่องจากปัญหาของ Windows อาจจะจำเป็นต้องออกจากระบบหรือล้างระบบก่อนที่ไดรเวอร์อุปกรณ์จะสามารถถอนได้ (หรือจะติดตั้งใหม่) กำลังติดตั้งไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt กำลังหยุดไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt กำลังถอนการติดตั้งไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt การลงทะเบียนไลบรารีสนับสนุน User Account Control ล้มเหลว การยกเลิกการลงทะเบียนไลบรารีสนับสนุน User Account Control ล้มเหลว หมายเหตุเกี่ยวกับโหมดพกพา:\n\nโปรดทราบว่าระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องลงทะเบียนไดรเวอร์กับระบบก่อนที่จะสามารถเริ่มต้นได้ ดังนั้นไดรเวอร์ VeraCrypt ไม่สามารถพกพาได้อย่างเต็มรูปแบบ (แม้ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน VeraCrypt ที่สามารถพกพาได้อย่างเต็มรูปแบบ) และระบบปฏิบัติการจะไม่ต้องติดตั้งหรือจดทะเบียนกับระบบปฏิบัติการ นอกจากนี้ VeraCrypt ต้องการไดรเวอร์เพื่อให้การเข้ารหัส/ถอดรหัสอัตโนมัติเกิดขึ้น หมายเหตุว่าเมื่อคุณตัดสินใจที่จะรัน VeraCrypt ในโหมดพกพา (แทนที่จะรัน VeraCrypt ที่ติดตั้งแล้ว) ระบบจะถามคุณเพื่อขออนุญาตรัน VeraCrypt (พรอมต์ UAC) ทุกครั้งเมื่อคุณพยายามรันมัน\n\nเหตุผลคือเมื่อคุณรัน VeraCrypt ในโหมดพกพา VeraCrypt จำเป็นต้องโหลดและเริ่มต้นไดรเวอร์อุปกรณ์ VeraCrypt VeraCrypt ต้องการไดรเวอร์อุปกรณ์เพื่อให้การเข้ารหัส/ถอดรหัสอัตโนมัติเกิดขึ้น และผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบไม่สามารถเริ่มต้นไดรเวอร์อุปกรณ์ใน Windows ดังนั้นระบบจะถามคุณเพื่อขออนุญาตรัน VeraCrypt ด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (พรอมต์ UAC)\n\nหมายเหตุว่าเมื่อคุณติดตั้ง VeraCrypt ในระบบ (แทนที่จะรัน VeraCrypt ในโหมดพกพา) ระบบจะไม่ถามคุณเพื่อขออนุญาตรัน VeraCrypt (พรอมต์ UAC) ทุกครั้งเมื่อคุณพยายามรันมัน\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการสกัดไฟล์? คำเตือน: อินสแตนซ์ของวิซาร์ดการสร้างวอลุ่มนี้มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ\n\nวอลุ่มใหม่ของคุณอาจถูกสร้างด้วยสิทธิ์ที่ไม่อนุญาตให้คุณเขียนไปยังวอลุ่มเมื่อมันถูกเมาท์ หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ปิดอินสแตนซ์นี้ของวิซาร์ดการสร้างวอลุ่มและเปิดใหม่โดยไม่ใช้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ\n\nคุณต้องการปิดอินสแตนซ์นี้ของวิซาร์ดการสร้างวอลุ่มหรือไม่? ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตได้ ภายนอก(!) วัน ชั่วโมง นาที วินาที เปิด ยกเลิกการเมาท์ แสดง VeraCrypt ซ่อน VeraCrypt ข้อมูลที่อ่านตั้งแต่การเมาท์ ข้อมูลที่เขียนตั้งแต่การเมาท์ ส่วนที่เข้ารหัส 100% (เข้ารหัสทั้งหมด) 0% (ไม่ได้เข้ารหัส) %.3f%% 100% รอคอย เตรียมตัว เปลี่ยนขนาด เข้ารหัส ถอดรหัส กำลังทำให้เสร็จสมบูรณ์ หยุดชั่วคราว เสร็จสิ้น ข้อผิดพลาด อุปกรณ์ที่ตัดการเชื่อมต่อ วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบถูกบันทึกแล้ว\n\nเพื่อเปิดการเมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบเมื่อระบบเริ่มต้น โปรดเลือก 'การตั้งค่า' > 'วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ' > 'เมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบเมื่อ Windows เริ่ม' วอลุ่มที่คุณกำลังเพิ่มให้เป็นที่โปรดปรานไม่ได้เป็นพาร์ทิชันหรือวอลุ่มไดนามิก ดังนั้น VeraCrypt จะไม่สามารถเมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานนี้ได้หากหมายเลขอุปกรณ์เปลี่ยนไป วอลุ่มที่คุณกำลังเพิ่มเป็นที่โปรดปรานเป็นพาร์ทิชันที่ Windows ไม่รู้จัก\n\nVeraCrypt จะไม่สามารถเมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานนี้ได้หากหมายเลขอุปกรณ์เปลี่ยนไป โปรดตั้งค่าประเภทของพาร์ทิชันให้เป็นประเภทที่ Windows รู้จัก (ใช้คำสั่ง SETID ของเครื่องมือ 'diskpart' ของ Windows) แล้วเพิ่มพาร์ทิชันให้เป็นที่โปรดปรานอีกครั้ง งานพื้นหลังของ VeraCrypt ถูกปิดใช้งานหรือถูกตั้งค่าให้ออกจากระบบเมื่อไม่มีวอลุ่มเมาท์ (หรือ VeraCrypt กำลังทำงานในโหมดพกพา) สิ่งนี้อาจป้องกันไม่ให้วอลุ่มที่โปรดปรานของคุณถูกเมาท์อัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์โฮสต์เชื่อมต่อ\n\nหมายเหตุ: เพื่อเปิดงานพื้นหลังของ VeraCrypt ให้เลือกการตั้งค่า > การตั้งค่าเลือกและทำเครื่องหมายในช่อง 'เปิดใช้งาน' ในส่วน 'งานพื้นหลังของ VeraCrypt' เครื่องบรรจุที่เก็บอยู่ในไฟล์ระบบทางไกลที่แชร์ผ่านเครือข่ายไม่สามารถเมาท์อัตโนมัติได้เมื่ออุปกรณ์โฮสต์ถูกเชื่อมต่อ อุปกรณ์ที่แสดงด้านล่างไม่ได้เป็นพาร์ทิชันหรือวอลุ่มไดนามิก ดังนั้นวอลุ่มที่โฮสต์บนอุปกรณ์ไม่สามารถเมาท์อัตโนมัติได้เมื่ออุปกรณ์ถูกเชื่อมต่อ โปรดตั้งค่าประเภทของพาร์ทิชันที่แสดงด้านล่างให้เป็นประเภทที่ Windows รู้จัก (ใช้คำสั่ง SETID ของเครื่องมือ 'diskpart' ของ Windows) แล้วลบพาร์ทิชันจากรายการโปรดและเพิ่มมันใหม่ สิ่งนี้จะทำให้วอลุ่มที่โฮสต์บนอุปกรณ์ถูกเมาท์อัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ถูกเชื่อมต่อ อุปกรณ์ที่แสดงด้านล่างไม่ได้เป็นพาร์ทิชันหรือวอลุ่มไดนามิก ดังนั้นไม่มีป้ายชื่อถูกกำหนดให้ โปรดตั้งค่าประเภทของพาร์ทิชันที่แสดงด้านล่างให้เป็นประเภทที่ Windows รู้จัก (ใช้คำสั่ง SETID ของเครื่องมือ 'diskpart' ของ Windows) แล้วลบพาร์ทิชันจากรายการโปรดและเพิ่มมันใหม่ สิ่งนี้จะทำให้ VeraCrypt กำหนดป้ายชื่อให้พาร์ทิชันได้ เนื่องจากข้อจำกัดของ Windows เครื่องบรรจุที่เก็บอยู่ในไฟล์ระบบทางไกลที่แชร์ผ่านเครือข่ายไม่สามารถเมาท์เป็นวอลุ่มที่โปรดปรานของระบบได้ (อย่างไรก็ตาม มันสามารถเมาท์เป็นวอลุ่มที่โปรดปรานที่ไม่ใช่ระบบเมื่อผู้ใช้ล็อกอิน) กรอกพาสเวิร์ดสำหรับ %s กรอกพาสเวิร์ดสำหรับ '%s' กรอกพาสเวิร์ดสำหรับวอลุ่มปกติ/ภายนอก กรอกพาสเวิร์ดสำหรับวอลุ่มที่ซ่อนไว้ กรอกพาสเวิร์ดสำหรับส่วนหัวที่เก็บอยู่ในไฟล์สำรอง ไฟล์คีย์ถูกสร้างเรียบร้อยแล้ว จำนวนไฟล์คีย์ที่คุณใส่ไม่ถูกต้อง ขนาดของไฟล์คีย์ต้องมีอย่างน้อย 64 ไบต์ โปรดกรอกชื่อสำหรับไฟล์คีย์ที่จะสร้าง ชื่อฐานของไฟล์คีย์ไม่ถูกต้อง ไฟล์คีย์ '%s' มีอยู่แล้ว\nคุณต้องการเขียนทับมันหรือไม่? การสร้างขั้นตอนจะหยุดหากคุณตอบไม่ คำเตือน: ส่วนหัวของวอลุ่มนี้ถูกเสียหาย! VeraCrypt ใช้สำรองของส่วนหัววอลุ่มที่ฝังอยู่ในวอลุ่มโดยอัตโนมัติ\n\nคุณควรซ่อมส่วนหัววอลุ่มโดยเลือก 'เครื่องมือ' > 'กู้คืนส่วนหัววอลุ่ม' การสำรองข้อมูลส่วนหัววอลุ่มถูกสร้างเรียบร้อยแล้ว\n\nสำคัญ: การคืนค่าข้อมูลส่วนหัววอลุ่มโดยใช้การสำรองข้อมูลนี้จะคืนค่าพาสเวิร์ดวอลุ่มปัจจุบัน นอกจากนี้ ถ้าต้องใช้ไฟล์คีย์ในการเมาท์วอลุ่ม ไฟล์คีย์เดียวกันจะต้องใช้ในการเมาท์วอลุ่มอีกครั้งหลังจากคืนค่าข้อมูลส่วนหัว\n\nคำเตือน: ส่วนหัวการสำรองข้อมูลนี้อาจใช้ได้เฉพาะในการคืนค่าส่วนหัวของวอลุ่มนี้เท่านั้น หากคุณใช้ส่วนหัวการสำรองข้อมูลนี้ในการคืนค่าส่วนหัวของวอลุ่มอื่น คุณจะสามารถเมาท์วอลุ่มได้ แต่คุณจะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลที่เก็บไว้ในวอลุ่มได้ (เพราะคุณจะเปลี่ยนคีย์หลัก) ข้อมูลส่วนหัววอลุ่มถูกกู้คืนเรียบร้อยแล้ว\n\nสำคัญ: โปรดทราบว่าพาสเวิร์ดเก่าอาจถูกคืนค่าด้วย นอกจากนี้ ถ้าต้องใช้ไฟล์คีย์ในการเมาท์วอลุ่มเมื่อสร้างการสำรองข้อมูล ไฟล์คีย์เดียวกันจะถูกใช้ในการเมาท์วอลุ่มอีกครั้งตอนนี้ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย คุณจะต้องกรอกพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง (และ/หรือให้ไฟล์คีย์ที่ถูกต้อง) สำหรับวอลุ่ม\n\nหมายเหตุ: หากวอลุ่มมีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ คุณจะต้องกรอกพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง (และ/หรือให้ไฟล์คีย์ที่ถูกต้อง) สำหรับวอลุ่มภายนอกก่อน หลังจากนั้น ถ้าคุณเลือกที่จะสำรองข้อมูลส่วนหัวของวอลุ่มที่ซ่อนไว้ คุณจะต้องกรอกพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง (และ/หรือให้ไฟล์คีย์ที่ถูกต้อง) สำหรับวอลุ่มที่ซ่อนไว้ คุณแน่ใจว่าต้องการสร้างข้อมูลสำรองส่วนหัววอลุ่มสำหรับ %s?\n\nหลังจากที่คุณคลิกใช่ จะมีการขอชื่อไฟล์สำหรับการสำรองส่วนหัว\n\nหมายเหตุ: ส่วนหัววอลุ่มมาตรฐานและที่ซ่อนไว้จะถูกเข้ารหัสด้วยเกลือใหม่และเก็บอยู่ในไฟล์การสำรองข้อมูล หากไม่มีวอลุ่มที่ซ่อนไว้อยู่ในวอลุ่มนี้ พื้นที่ที่สงวนไว้สำหรับส่วนหัววอลุ่มที่ซ่อนในไฟล์การสำรองข้อมูลจะถูกเติมด้วยข้อมูลสุ่ม (เพื่อคงไว้ซึ่งการปฏิเสธที่เชื่อถือได้) ตอนที่กู้คืนส่วนหัววอลุ่มจากไฟล์การสำรองข้อมูล คุณจะต้องกรอกพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง (และ/หรือให้ไฟล์คีย์ที่ถูกต้อง) ที่ถูกต้องเมื่อสร้างสำรองข้อมูล ส่วนหัวจะถูกเลือกอัตโนมัติ (เช่นมาตรฐานหรือลับ) โดยกระบวนการลองผิดลองถูก คุณแน่ใจว่าต้องการกู้คืนส่วนหัววอลุ่มของ %s?\n\nคำเตือน: การคืนค่าส่วนหัววอลุ่มจะคืนค่าพาสเวิร์ดวอลุ่มที่ถูกต้องเมื่อสร้างการสำรองข้อมูล นอกจากนี้ หากต้องใช้ไฟล์คีย์ในการเมาท์วอลุ่มเมื่อสร้างการสำรองข้อมูล ไฟล์คีย์เดียวกันจะต้องใช้ในการเมาท์วอลุ่มอีกครั้งหลังจากคืนค่าส่วนหัววอลุ่ม\n\nหลังจากที่คุณคลิกใช่ คุณจะเลือกไฟล์การสำรองส่วนหัว วอลุ่มมีวอลุ่มที่ซ่อนไว้หรือไม่? วอลุ่มมีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ วอลุ่มไม่มีวอลุ่มที่ซ่อนไว้ โปรดเลือกประเภทการสำรองส่วนหัววอลุ่มที่คุณต้องการใช้: กู้คืนส่วนหัววอลุ่มจากการสำรองข้อมูลที่ฝังอยู่ในวอลุ่ม กู้คืนส่วนหัววอลุ่มจากไฟล์การสำรองภายนอก ขนาดของไฟล์การสำรองข้อมูลส่วนหัววอลุ่มไม่ถูกต้อง ไม่มีการสำรองส่วนหัวฝังอยู่ในวอลุ่มนี้ (โปรดทราบว่าวอลุ่มที่สร้างโดย TrueCrypt 6.0 หรือหลังนี้เท่านั้นที่มีการสำรองส่วนหัวฝังอยู่) คุณพยายามที่จะสำรองข้อมูลส่วนหัวของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบ นี่ไม่อนุญาต ปฏิบัติการสำรอง/กู้คืนที่เกี่ยวกับพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบสามารถกระทำได้ด้วย VeraCrypt Rescue Disk เท่านั้น\n\nคุณต้องการสร้าง VeraCrypt Rescue Disk หรือไม่? คุณพยายามที่จะกู้คืนข้อมูลส่วนหัวของวอลุ่ม VeraCrypt เสมือน แต่คุณเลือกพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบ นี่ไม่อนุญาต ปฏิบัติการสำรอง/กู้คืนที่เกี่ยวกับพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบสามารถกระทำได้ด้วย VeraCrypt Rescue Disk เท่านั้น\n\nคุณต้องการสร้าง VeraCrypt Rescue Disk หรือไม่? หลังจากที่คุณคลิก OK คุณจะเลือกชื่อไฟล์สำหรับภาพดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ใหม่และตำแหน่งที่คุณต้องการวางมัน ภาพดิสก์กู้ภัยถูกสร้างและเก็บอยู่ในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณต้องเบิร์นภาพดิสก์กู้ภัยนี้ลงบน CD หรือ DVD\n\nสำคัญ: โปรดทราบว่าไฟล์นี้ต้องถูกเขียนลงบน CD/DVD เป็นภาพดิสก์ ISO (ไม่เป็นไฟล์เดี่ยว) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนี้ โปรดดูเอกสารของซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD ของคุณ\n\nหลังจากที่คุณเบิร์นดิสก์กู้ภัยแล้ว เลือก 'ระบบ' > 'ตรวจสอบดิสก์กู้ภัย' เพื่อยืนยันว่ามันถูกเบิร์นไว้อย่างถูกต้อง ภาพดิสก์กู้ภัยถูกสร้างและเก็บอยู่ในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณต้องเบิร์นภาพดิสก์กู้ภัยนี้ลงบน CD หรือ DVD\n\nคุณต้องการเปิด Microsoft Windows Disc Image Burner ตอนนี้หรือไม่?\n\nหมายเหตุ: หลังจากที่คุณเบิร์นดิสก์กู้ภัยแล้ว เลือก 'ระบบ' > 'ตรวจสอบดิสก์กู้ภัย' เพื่อยืนยันว่ามันถูกเบิร์นไว้อย่างถูกต้อง โปรดใส่ดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ของคุณและคลิก OK เพื่อตรวจสอบมัน ดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ถูกตรวจสอบแล้วเรียบร้อย ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าดิสก์กู้ภัยถูกเบิร์นไว้อย่างถูกต้อง\n\nหากคุณได้เบิร์นดิสก์กู้ภัยแล้ว โปรดเอาออกและใส่กลับไปใหม่ แล้วลองอีกครั้งหากยังไม่ช่วย โปรดลองใช้ซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD หรือสื่ออื่น\n\nหากคุณพยายามตรวจสอบดิสก์กู้ภัยที่สร้างสำหรับคีย์แม่รหัสผ่านเกลือ ฯลฯ ที่ต่างกัน โปรดทราบว่าดิสก์กู้ภัยนั้นจะล้มเหลวในการตรวจสอบนี้เสมอ คุณต้องสร้างดิสก์กู้ภัยใหม่ที่สอดคล้องกับการตั้งค่าปัจจุบันของคุณ โดยเลือก 'ระบบ' > 'สร้างดิสก์กู้ภัย' ภาพดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ถูกตรวจสอบแล้วเรียบร้อย การตรวจสอบภาพดิสก์กู้ภัยล้มเหลว\n\nหากคุณพยายามตรวจสอบภาพดิสก์กู้ภัยที่สร้างสำหรับคีย์แม่ รหัสผ่าน เกลือ ฯลฯ ที่ต่างกัน โปรดทราบว่าภาพดิสก์กู้ภัยนั้นจะล้มเหลวในการตรวจสอบนี้เสมอ หากต้องการสร้างภาพดิสก์กู้ภัยใหม่ที่สอดคล้องกับการตั้งค่าปัจจุบันของคุณ เลือก 'ระบบ' > 'สร้างดิสก์กู้ภัย' ข้อผิดพลาด: สร้างดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ไม่สามารถสร้างดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ขณะกำลังใช้ระบบปฏิบัติการที่ซ่อนไว้\n\nในการสร้างดิสก์กู้ภัย VeraCrypt ให้บูตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการเหยื่อและจากนั้นเลือก 'ระบบ' > 'สร้างดิสก์กู้ภัย' ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าดิสก์กู้ภัยถูกเบิร์นไว้อย่างถูกต้อง\n\nหากคุณได้เบิร์นดิสก์กู้ภัยแล้ว โปรดเอาออกและใส่กลับไปใหม่ จากนั้นคลิกถัดไปเพื่อลองอีกครั้ง หากยังไม่ช่วย โปรดลองใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ CD/DVD อื่น%s\n\nหากคุณยังไม่ได้เบิร์นดิสก์กู้ภัย โปรดทำเช่นนั้น แล้วคลิกถัดไป\n\nหากคุณพยายามตรวจสอบดิสก์กู้ภัยที่สร้างก่อนที่คุณจะเริ่มวิซาร์ดนี้ โปรดทราบว่าดิสก์กู้ภัยดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากมันถูกสร้างสำหรับคีย์แม่ที่ต่างกัน คุณต้องเบิร์นดิสก์กู้ภัยใหม่ที่สร้างขึ้น และ/หรือซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD อื่น VeraCrypt - วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ อะไรคือวอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ? พาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบดูเหมือนไม่ได้รับการเข้ารหัส\n\nวอลุ่มที่โปรดปรานของระบบสามารถเมาท์ได้โดยใช้พาสเวิร์ดการตรวจสอบก่อนบูตเท่านั้น ดังนั้นในการเปิดใช้งานการใช้วอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ คุณต้องเข้ารหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบก่อน โปรดยกเลิกการเมาท์วอลุ่มก่อนดำเนินการต่อ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถตั้งค่าเครื่องจับเวลาได้ ตรวจสอบระบบไฟล์ ซ่อมระบบไฟล์ เพิ่มในรายการโปรด... เพิ่มในวอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ... คุณสมบัติ... วอลุ่มที่ซ่อนไว้ได้รับการป้องกัน N/A ใช่ ไม่ ปิดใช้งาน 1 2 หรือมากกว่า โหมดการปฏิบัติการ ป้ายกำกับ: ขนาด: เส้นทาง: อักษรแทนไดรฟ์: ข้อผิดพลาด: พาสเวิร์ดต้องประกอบด้วยอักขระ ASCII เท่านั้น\n\nอักขระที่ไม่ใช่ ASCII ในพาสเวิร์ดอาจทำให้วอลุ่มไม่สามารถเมาท์ได้เมื่อการตั้งค่าระบบของคุณเปลี่ยนแปลง\n\nอักขระต่อไปนี้ได้รับอนุญาต:\n\n ! " # $ % & ' ( ) * + , - . / 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 : ; < = > ? @ A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z [ \\ ] ^ _ ` a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z { | } ~ คำเตือน: พาสเวิร์ดมีอักขระที่ไม่ใช่ ASCII สิ่งนี้อาจทำให้วอลุ่มไม่สามารถเมาท์ได้เมื่อการตั้งค่าระบบของคุณเปลี่ยนแปลง\n\nคุณควรเปลี่ยนอักขระที่ไม่ใช่ ASCII ทั้งหมดในพาสเวิร์ดด้วยอักขระ ASCII หากต้องการทำเช่นนั้น ให้คลิกที่ 'วอลุ่ม' -> 'เปลี่ยนพาสเวิร์ดวอลุ่ม'\n\nอักขระต่อไปนี้เป็นอักขระ ASCII:\n\n ! " # $ % & ' ( ) * + , - . / 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 : ; < = > ? @ A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z [ \\ ] ^ _ ` a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z { | } ~ คำเตือน: เราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยนการใช้นามสกุลไฟล์ที่ใช้กับไฟล์ executable (เช่น .exe, .sys, หรือ .dll) และนามสกุลไฟล์อื่นๆที่มีปัญหาในการใช้ การใช้นามสกุลไฟล์ดังกล่าวทำให้ Windows และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสแทรกแซงการทำงานของคอนเทนเนอร์ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของวอลุ่มและอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ\n\nเราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณลบนามสกุลไฟล์หรือเปลี่ยนเป็น (เช่น '.hc')\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการใช้นามสกุลไฟล์ที่มีปัญหา? คำเตือน: คอนเทนเนอร์นี้ใช้นามสกุลไฟล์ที่ใช้สำหรับไฟล์ executable (เช่น .exe, .sys, หรือ .dll) หรือ นามสกุลไฟล์อื่นที่มีปัญหาคล้ายกันอย่างมาก มันจะทำให้ Windows และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสแทรกแซงการทำงานของคอนเทนเนอร์อย่างมาก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของวอลุ่มและอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ\n\nเราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณลบนามสกุลไฟล์ของคอนเทนเนอร์นี้หรือเปลี่ยนเป็น (เช่น '.hc') หลังจากที่คุณยกเลิกการเมาท์วอลุ่ม หน้าหลัก คำเตือน: ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Service Pack ใดๆลงใน Windows ของคุณ คุณไม่ควรเขียนไปยังดิสก์ IDE ที่ใหญ่กว่า 128 GB บน Windows XP ที่ไม่มี Service Pack 1 หรือใหม่กว่านั้น! หากคุณทำเช่นนั้น ข้อมูลในดิสก์ (ไม่ว่าจะเป็นวอลุ่ม VeraCrypt หรือไม่) อาจถูกเสียหาย โปรดทราบว่านี่เป็นข้อจำกัดของ Windows ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt คำเตือน: ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Service Pack 3 หรือใหม่กว่านั้นใน Windows ของคุณ คุณไม่ควรเขียนไปยังดิสก์ IDE ที่ใหญ่กว่า 128 GB บน Windows 2000 โดยไม่มี Service Pack 3 หรือใหม่กว่านั้น! หากคุณทำเช่นนั้น ข้อมูลในดิสก์ (ไม่ว่าจะเป็นวอลุ่ม VeraCrypt หรือไม่) อาจถูกเสียหาย โปรดทราบว่านี่เป็นข้อจำกัดของ Windows ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt\n\nหมายเหตุ: คุณอาจต้องเปิดการสนับสนุน 48 บิต LBA ในรีจิสทรี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ http://support.microsoft.com/kb/305098/EN-US คำเตือน: การสนับสนุน 48 บิต LBA ATAPI ถูกปิดการใช้งานบนระบบของคุณ ดังนั้นคุณไม่ควรเขียนไปยังดิสก์ IDE ที่ใหญ่กว่า 128 GB! หากคุณทำเช่นนั้น ข้อมูลในดิสก์ (ไม่ว่าจะเป็นวอลุ่ม VeraCrypt หรือไม่) อาจถูกเสียหาย โปรดทราบว่านี่เป็นข้อจำกัดของ Windows ไม่ใช่ข้อจำกัดของ VeraCrypt\n\nเพื่อเปิดการสนับสนุน 48 บิต LBA ให้เพิ่มค่า 'EnableBigLba' ในรีจิสทรีคีย์ HKEY_LOCAL_MACHINE\\SYSTEM\\CurrentControlSet\\Services\\atapi\\Parameters และตั้งค่าให้เป็น 1.\n\nสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่ http://support.microsoft.com/kb/305098 ข้อผิดพลาด: ไฟล์ที่ใหญ่กว่า 4 GB ไม่สามารถเก็บไว้ในระบบไฟล์ FAT32 ดังนั้น วอลุ่ม VeraCrypt ที่เก็บในไฟล์บนระบบไฟล์ FAT32 ไม่สามารถใหญ่กว่า 4 GB ได้\n\nหากคุณต้องการวอลุ่มที่ใหญ่กว่า สร้างมันในระบบไฟล์ NTFS (หรือ, หากคุณใช้ Windows Vista SP1 หรือใหม่กว่านั้น, บนระบบไฟล์ exFAT) หรือ, แทนการสร้างวอลุ่มในไฟล์, เข้ารหัสพาร์ทิชันทั้งหมดหรืออุปกรณ์ทั้งหมด คำเตือน: Windows XP ไม่สนับสนุนไฟล์ที่ใหญ่กว่า 2048 GB (มันจะรายงานว่า "ไม่เพียงพอสำหรับการเก็บข้อมูล") ดังนั้น, คุณไม่สามารถสร้างวอลุ่ม VeraCrypt ที่เก็บในไฟล์ (คอนเทนเนอร์) ที่ใหญ่กว่า 2048 GB บน Windows XP ได้\n\nโปรดทราบว่ายังคงสามารถเข้ารหัสไดรฟ์ทั้งหมดหรือสร้างวอลุ่ม VeraCrypt ที่โฮสต์ในพาร์ทิชันที่ใหญ่กว่า 2048 GB บน Windows XP ได้ คำเตือน: หากคุณต้องการที่จะเพิ่มข้อมูล/ไฟล์ลงในวอลุ่มภายนอกในอนาคต คุณควรพิจารณาเลือกขนาดสำหรับวอลุ่มที่ซ่อนไว้ที่เล็กลง\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการดำเนินการต่อด้วยขนาดที่คุณระบุ? ยังไม่ได้เลือกวอลุ่ม.\n\nคลิก 'เลือกอุปกรณ์' หรือ 'เลือกไฟล์' เพื่อเลือกวอลุ่ม VeraCrypt ยังไม่ได้เลือกพาร์ทิชัน.\n\nคลิก 'เลือกอุปกรณ์' เพื่อเลือกพาร์ทิชันที่ไม่ได้เมาท์ซึ่งต้องการการตรวจสอบก่อนบูต (เช่น พาร์ทิชันที่อยู่บนไดรฟ์ระบบที่เข้ารหัสของระบบปฏิบัติการอื่น ที่ไม่ได้กำลังทำงาน อยู่ หรือพาร์ทิชันระบบที่เข้ารหัสของระบบปฏิบัติการอื่น)\n\nหมายเหตุ: พาร์ทิชันที่เลือกจะถูกเมาท์เป็นวอลุ่ม VeraCrypt ปกติโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบก่อนบูต สิ่งนี้เป็นประโยชน์เช่นสำหรับการสำรองข้อมูลหรือการซ่อมแซม คำเตือน: หากตั้งค่าและเปิดใช้ไฟล์คีย์เริ่มต้น วอลุ่มที่ไม่ได้ใช้ไฟล์คีย์เหล่านี้จะไม่สามารถเมาท์ได้ ดังนั้น หลังจากที่คุณเปิดใช้ไฟล์คีย์เริ่มต้นแล้ว จำไว้ว่าให้ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย 'ใช้ไฟล์คีย์' (ด้านล่างฟิลด์ป้อนพาสเวิร์ด) เมื่อเมาท์วอลุ่มดังกล่าว\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการบันทึกไฟล์คีย์/เส้นทางที่เลือกเป็นค่าดีฟอลต์? เมาท์อุปกรณ์อัตโนมัติ ยกเลิกการเมาท์ทั้งหมด เช็ดแคช ยกเลิกการเมาท์ทั้งหมด & เช็ดแคช บังคับยกเลิกการเมาท์ทั้งหมด & เช็ดแคช บังคับยกเลิกการเมาท์ทั้งหมด, เช็ดแคช & ออก เมาท์วอลุ่มที่โปรดปราน แสดง/ซ่อนหน้าต่างหลักของ VeraCrypt (คลิกที่นี่และกดปุ่ม) การกระทำ ทางลัด ข้อผิดพลาด: ทางลัดนี้ถูกสงวนไว้ โปรดเลือกทางลัดอื่น ข้อผิดพลาด: ทางลัดถูกใช้ไปแล้ว คำเตือน: คีย์ลัดระบบกุญแจของ VeraCrypt หนึ่งหรือหลายตัวจะไม่ทำงาน!\n\nโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันอื่น ๆ และระบบปฏิบัติการไม่ได้ใช้ทางลัดเดียวกับ VeraCrypt การสร้างไฟล์เพจถูกป้องกัน\n\nโปรดทราบว่าเนื่องจากปัญหาของ Windows ไฟล์เพจไม่สามารถอยู่บนวอลุ่ม VeraCrypt ที่ไม่ใช่ระบบ (รวมถึงวอลุ่มที่โปรดปรานของระบบ) VeraCrypt สนับสนุนการสร้างไฟล์เพจเฉพาะบนพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบที่เข้ารหัส ข้อผิดพลาดหรือความไม่เข้ากันป้องกันไม่ให้ VeraCrypt เข้ารหัสไฟล์จำศีล ดังนั้นการจำศีลถูกป้องกัน.\n\nหมายเหตุ: เมื่อคอมพิวเตอร์เข้าโหมดจำศีล (หรือเข้าโหมดประหยัดพลังงาน) ข้อมูลจากหน่วยความจำระบบจะถูกเขียนไปยังไฟล์การเก็บภาพจำศีลที่อยู่บนไดรฟ์ระบบ VeraCrypt ไม่สามารถป้องกันคีย์การเข้ารหัสและเนื้อหาของไฟล์ที่มีความอ่อนไหวที่ถูกเปิดใช้ใน RAM จากการถูกบันทึกโดยไม่มีการเข้ารหัสไปยังไฟล์เก็บภาพจำศีลได้ การจำศีลถูกป้องกัน\n\nVeraCrypt ไม่สนับสนุนการจำศีลในระบบปฏิบัติการที่ซ่อนอยู่ซึ่งใช้พาร์ทิชันบูตเพิ่มเติม โปรดทราบว่าพาร์ทิชันบูตถูกแชร์โดยทั้งระบบเหยื่อและระบบที่ซ่อนอยู่ ดังนั้นเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและปัญหาเมื่อกลับมาจากการจำศีล VeraCrypt จึงต้องป้องกันไม่ให้ระบบที่ซ่อนอยู่เขียนไปยังพาร์ทิชันบูตร่วมและไม่ให้จำศีล วอลุ่ม VeraCrypt เมาท์เป็น %c: ถูกยกเลิกการเมาท์แล้ว วอลุ่ม VeraCrypt ถูกยกเลิกการเมาท์แล้ว วอลุ่ม VeraCrypt ถูกยกเลิกการเมาท์และแคชรหัสผ่านถูกเช็ดแล้ว ยกเลิกการเมาท์เรียบร้อยแล้ว คำเตือน: หากกิจกรรมพื้นหลังของ VeraCrypt ถูกปิดใช้งาน ฟังก์ชันต่อไปนี้จะถูกปิดใช้งาน:\n\n1) คีย์ลัด\n2) ยกเลิกการเมาท์อัตโนมัติ (เช่นเมื่อออกจากระบบ การถอดอุปกรณ์โฮสต์โดยไม่ตั้งใจ หมดเวลา ฯลฯ)\n3) การเมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานอัตโนมัติ\n4) การแจ้งเตือน (เช่นเมื่อการป้องกันความเสียหายของวอลุ่มที่ซ่อนไว้ถูกป้องกัน)\n5) ไอคอนถาด\n\nหมายเหตุ: คุณสามารถหยุดกิจกรรมพื้นหลังได้ตลอดเวลาโดยคลิกขวาที่ไอคอนถาด VeraCrypt และเลือก 'ออก'\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการปิดใช้งานกิจกรรมพื้นหลังของ VeraCrypt อย่างถาวร? คำเตือน: หากปิดใช้ตัวเลือกนี้ วอลุ่มที่ประกอบด้วยไฟล์/ไดเร็กทอรี่ที่เปิดอยู่จะไม่สามารถยกเลิกการเมาท์อัตโนมัติได้.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการปิดใช้ตัวเลือกนี้? คำเตือน: วอลุ่มที่ประกอบด้วยไฟล์/ไดเร็กทอรี่ที่เปิดอยู่จะไม่ได้รับการยกเลิกการเมาท์อัตโนมัติ\n\nเพื่อป้องกันสิ่งนี้ ให้เปิดตัวเลือกต่อไปนี้ในหน้าต่างการสนทนานี้: 'บังคับยกเลิกการเมาท์อัตโนมัติแม้วอลุ่มจะประกอบด้วยไฟล์หรือไดเร็กทอรี่ที่เปิดอยู่' คำเตือน: เมื่อแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คมีพลังงานต่ำ Windows อาจไม่ส่งข้อความที่เหมาะสมไปยังแอปพลิเคชันที่กำลังทำงานเมื่อคอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ดังนั้น VeraCrypt อาจไม่สามารถยกเลิกการเมาท์วอลุ่มในกรณีดังกล่าวได้ คุณได้วางกำหนดการการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/วอลุ่ม การกระบวนการยังไม่เสร็จสมบูรณ์\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อเดี๋ยวนี้หรือไม่? คุณได้วางกำหนดการการเข้ารหัสหรือถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบ แต่กระบวนการยังไม่เสร็จสมบูรณ์\n\nคุณต้องการเริ่ม (ดำเนินการต่อ) ตอนนี้หรือไม่? คุณต้องการถูกกระตุ้นคำถามทุกครั้งว่าจะดำเนินการต่อในกระบวนการการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/วอลุ่มที่ไม่ได้เป็นระบบหรือไม่? ใช่, ยังคงกระตุ้นคำถามฉัน ไม่, ไม่ต้องกระตุ้นคำถามฉัน สำคัญ: จำไว้ว่าคุณสามารถดำเนินการต่อในกระบวนการการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/วอลุ่มที่ไม่ได้เป็นระบบได้โดยเลือก 'วอลุ่ม' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลักของ VeraCrypt คุณได้วางกำหนดการการเข้ารหัสหรือถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบก่อนบูตล้มเหลว (หรือถูกข้ามไป)\n\nหมายเหตุ: หากคุณถอดรหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบในสิ่งแวดล้อมก่อนบูต คุณอาจต้องทำขั้นตอนให้สมบูรณ์โดยเลือก 'ระบบ' > 'ถอดรหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบอย่างถาวร' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลักของ VeraCrypt คำเตือน: หาก VeraCrypt ออกจากระบบตอนนี้ ฟังก์ชันต่อไปนี้จะถูกปิดใช้งาน:\n\n1) คีย์ลัด\n2) การยกเลิกการเมาท์อัตโนมัติ (เช่นเมื่อออกจากระบบ การถอดอุปกรณ์โฮสต์โดยไม่ตั้งใจ หมดเวลา ฯลฯ)\n3) การเมาท์วอลุ่มที่โปรดปรานอัตโนมัติ\n4) การแจ้งเตือน (เช่นเมื่อการป้องกันความเสียหายของวอลุ่มที่ซ่อนไว้ถูกป้องกัน)\n\nหมายเหตุ: หากคุณไม่ต้องการให้ VeraCrypt ทำงานในพื้นหลัง ให้ปิดกิจกรรมพื้นหลังในตัวเลือกการตั้งค่า (และหากจำเป็น ให้ปิดการเปิดตัว VeraCrypt อัตโนมัติในตัวเลือกการตั้งค่า)\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการให้ VeraCrypt ออกจากระบบ? ออกจากระบบ? VeraCrypt ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจว่าจะเข้ารหัสหรือถอดรหัส VeraCrypt ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจว่าจะเข้ารหัสหรือถอดรหัส\n\nหมายเหตุ: หากคุณถอดรหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบในสิ่งแวดล้อมก่อนบูต คุณอาจต้องทำขั้นตอนให้สมบูรณ์โดยคลิกที่ถอดรหัส หมายเหตุ: เมื่อคุณกำลังเข้ารหัสพาร์ทิชัน/วอลุ่มที่ไม่ใช่ระบบในสถานที่และมีข้อผิดพลาดที่ยังคงขัดขวางไม่ให้คุณทำกระบวนการให้สมบูรณ์ คุณจะไม่สามารถเมาท์วอลุ่ม (และเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ในนั้นได้) จนกว่าคุณจะถอดรหัสวอลุ่มทั้งหมด (นั่นคือยกเลิกกระบวนการ)\n\nหากคุณจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n1) ออกจากวิซาร์ดนี้\n2) ในหน้าต่างหลักของ VeraCrypt เลือก 'วอลุ่ม' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว'\n3) เลือก 'ถอดรหัส' คุณต้องการหยุดและเลื่อนการกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/วอลุ่มหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: จดจำไว้ว่าวอลุ่มจะไม่สามารถเมาท์ได้จนกว่าจะเข้ารหัสหรือถอดรหัสเสร็จสิ้น คุณจะสามารถดำเนินการต่อในกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสและมันจะเริ่มต้นจากจุดที่หยุดชั่วคราว คุณสามารถทำเช่นนั้นได้โดยเลือก 'วอลุ่ม' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลักของ VeraCrypt คุณต้องการหยุดและเลื่อนการกระบวนการเข้ารหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: คุณจะสามารถดำเนินการต่อในกระบวนการและมันจะเริ่มต้นจากจุดที่หยุด คุณสามารถทำเช่นนั้นได้โดยเลือก 'ระบบ' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลักของ VeraCrypt ถ้าคุณต้องการยกเลิกหรือย้อนกลับกระบวนการเข้ารหัส ให้เลือก 'ระบบ' > 'ถอดรหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบอย่างถาวร' คุณต้องการหยุดและเลื่อนการกระบวนการถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: คุณจะสามารถดำเนินการต่อในกระบวนการและมันจะเริ่มต้นจากจุดที่หยุด คุณสามารถทำเช่นนั้นได้โดยเลือก 'ระบบ' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลักของ VeraCrypt ถ้าคุณต้องการย้อนกระบวนการถอดรหัส (และเริ่มการเข้ารหัส) ให้เลือก 'ระบบ' > 'เข้ารหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบ' ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถหยุดการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบได้ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถหยุดกระบวนการลบได้ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถดำเนินกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบต่อได้ ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการลบได้ แก้ไขความไม่สอดคล้องแล้ว\n\n\n(หากคุณรายงานบั๊กในส่วนนี้ โปรดระบุข้อมูลทางเทคนิคต่อไปนี้ในรายงานบั๊กด้วย:\n%hs) ข้อผิดพลาด: สถานะไม่คาดคิด\n\n\n(หากคุณรายงานบั๊กในส่วนนี้ โปรดระบุข้อมูลทางเทคนิคต่อไปนี้ในรายงานบั๊กด้วย:\n%hs) ไม่มีการกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบที่หยุดชั่วคราวที่จะดำเนินการต่อ\n\nหมายเหตุ: หากคุณต้องการดำเนินกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัสของพาร์ทิชัน/วอลุ่มที่ไม่ใช่ระบบต่อ เลือก 'วอลุ่ม' > 'ดำเนินการต่อในกระบวนการที่หยุดชั่วคราว คำเตือน: งานพื้นหลังของ VeraCrypt ถูกปิดใช้งาน หลังจากที่คุณออกจาก VeraCrypt คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนหากการป้องกันความเสียหายของวอลุ่มที่ซ่อนอยู่ถูกป้องกัน\n\nหมายเหตุ: คุณสามารถหยุดงานพื้นหลังได้ตลอดเวลาโดยการคลิกขวาที่ไอคอนถาด VeraCrypt และเลือก 'ออก'\n\nเปิดใช้งานงานพื้นหลังของ VeraCrypt? เวอร์ชันชุดภาษา: %s กำลังตรวจสอบระบบไฟล์บนวอลุ่ม VeraCrypt ที่เมาท์เป็น %s... พยายามซ่อมระบบไฟล์บนวอลุ่ม VeraCrypt ที่เมาท์เป็น %s... คำเตือน: วอลุ่มนี้ถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอลิทึมการเข้ารหัสแบบเดิม\n\nอัลกอลิทึมการเข้ารหัสบล็อก 64 บิตทั้งหมด (เช่น Blowfish, CAST-128, หรือ Triple DES) ถูกยกเลิกการใช้ จะยังคงสามารถเมาท์วอลุ่มนี้ได้โดยใช้ VeraCrypt รุ่นใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมใดๆ ต่อการใช้งานของอัลกอลิทึมการเข้ารหัสแบบเดิมเหล่านี้ เราขอแนะนำให้คุณสร้างวอลุ่ม VeraCrypt ใหม่ที่ถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอร์ิทึมการเข้ารหัสบล็อก 128 บิต (เช่น AES, Serpent, Twofish, ฯลฯ) และย้ายไฟล์ทั้งหมดจากวอลุ่มนี้ไปยังวอลุ่มใหม่ ระบบของคุณไม่ได้ถูกตั้งค่าให้เมาท์วอลุ่มใหม่โดยอัตโนมัติ อาจจะไม่สามารถเมาท์วอลุ่ม VeraCrypt ที่โฮสต์ในอุปกรณ์ได้ การเมาท์อัตโนมัติสามารถเปิดใช้งานได้โดยการเรียกคำสั่งต่อไปนี้และรีสตาร์ทระบบ\n\nmountvol.exe /E โปรดกำหนดอักษรแทนไดรฟ์ไปยังพาร์ทิชัน/อุปกรณ์ก่อนดำเนินการต่อ ('แผงควบคุม' > 'ระบบและการบำรุงรักษา' > 'เครื่องมือการบริหาร' - 'สร้างและฟอร์แมตพาร์ทิชันดิสก์')\n\nสังเกตว่านี่เป็นข้อกำหนดของระบบปฏิบัติการ เมาท์วอลุ่ม VeraCrypt ยกเลิกการเมาท์วอลุ่ม VeraCrypt ทั้งหมด VeraCrypt ล้มเหลวในการรับสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ ถูกปฏิเสธการเข้าถึงโดยระบบปฏิบัติการ\n\nสาเหตุที่เป็นไปได้: ระบบปฏิบัติการต้องการให้คุณมีสิทธิ์ในการอ่าน/เขียน (หรือสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ) สำหรับบางโฟลเดอร์, ไฟล์, และอุปกรณ์, เพื่อให้คุณสามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้ตามต้องการ โดยทั่วไป, ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถสร้าง, อ่าน และแก้ไขไฟล์ในโฟลเดอร์เอกสารของตนเองได้ ข้อผิดพลาด: ไดรฟ์นี้ใช้ขนาดเซ็กเตอร์ที่ไม่รองรับ\n\nปัจจุบัน VeraCrypt ไม่สามารถสร้างวอลุ่มที่โฮสต์ในพาร์ทิชัน/อุปกรณ์บนไดรฟ์ที่ใช้ขนาดเซ็กเตอร์ใหญ่กว่า 4096 ไบต์ได้ อย่างไรก็ตาม, คุณยังสามารถสร้างวอลุ่มในไฟล์ (container) บนไดรฟ์ดังกล่าวได้ ปัจจุบัน ไม่สามารถเข้ารหัสระบบที่ติดตั้งบนดิสก์ที่ใช้ขนาดเซ็กเตอร์ที่ไม่ใช่ 512 ไบต์ได้ โปรแกรมโหลดบูต VeraCrypt ต้องการพื้นที่ว่างอย่างน้อย 32 กิโลไบต์ที่จุดเริ่มต้นของไดรฟ์ระบบ (โปรแกรมโหลดบูตของ VeraCrypt ต้องถูกเก็บในบริเวณนั้น) น่าเสียดาย, ไดรฟ์ของคุณไม่ตอบสนองเงื่อนไขนี้\n\nโปรดอย่ารายงานสิ่งนี้เป็นบั๊ก/ปัญหาใน VeraCrypt เพื่อแก้ไขปัญหานี้, คุณจะต้องแบ่งพาร์ทิชันดิสก์ใหม่และปล่อยพื้นที่ 32 กิโลไบต์แรกฟรี (ในกรณีส่วนใหญ่, คุณจะต้องลบและสร้างพาร์ทิชันแรกใหม่) เราแนะนำให้ใช้โปรแกรมจัดการพาร์ทิชันของ Microsoft ที่มีให้ใช้งานเช่นตอนที่คุณกำลังติดตั้ง Windows ฟีเจอร์นี้ไม่รองรับในเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่คุณกำลังใช้งาน VeraCrypt ไม่สนับสนุนการเข้ารหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบบนเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่คุณกำลังใช้งาน ก่อนที่คุณจะเข้ารหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบบน Windows Vista, คุณต้องติดตั้ง Service Pack 1 หรือใหมกว่าสำหรับ Windows Vista ก่อน (ไม่มี Service Pack ใดที่ถูกติดตั้งในระบบนี้)\n\nหมายเหตุ: Service Pack 1 สำหรับ Windows Vista แก้ไขปัญหาที่ทำให้เกิดการขาดแคลนหน่วยความจำฐานในระหว่างการบูตระบบ VeraCrypt ไม่สนับสนุนการเข้ารหัสพาร์ทิชัน/ไดรฟ์ของระบบบน Windows Vista ที่ไม่มี Service Pack ก่อนที่การอัพเกรด VeraCrypt, โปรดติดตั้ง Service Pack 1 หรือใหม่กว่าของ Windows Vista ข้อผิดพลาด: ฟีเจอร์นี้ต้องการการติดตั้ง VeraCrypt บนระบบ (คุณกำลังใช้งาน VeraCrypt ในโหมดพกพา)\n\nโปรดติดตั้ง VeraCrypt และลองใหม่อีกครั้ง คำเตือน: ดูเหมือนว่า Windows ไม่ได้ติดตั้งบนไดรฟ์ที่มันบูตจาก สิ่งนี้ไม่ได้รับการสนับสนุน\n\nคุณควรดำเนินการต่อเฉพาะเมื่อคุณแน่ใจว่า Windows ติดตั้งอยู่บนไดรฟ์ที่มันบูตจาก\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? หมายเหตุ: ตัวโหลดบูตของ VeraCrypt ถูกติดตั้งอยู่บนระบบของคุณแล้ว!\n\nเป็นไปได้ว่ายังมีระบบอื่นอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว มันอาจไม่สามารถบูตและเข้าถึงข้อมูลระบบอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ได้หากคุณดำเนินการเข้ารหัสในระบบปัจจุบัน\n\nคุณแน่ใจหรือว่าต้องการดำเนินการต่อ? ล้มเหลวในการกู้คืนตัวโหลดระบบเดิม\n\nโปรดใช้แผ่นกู้คืน VeraCrypt ของคุณ ('ตัวเลือกการซ่อมแซม' > 'กู้คืนตัวโหลดระบบเดิม') หรือสื่อการติดตั้ง Windows เพื่อแทนที่ตัวโหลดบูตของ VeraCrypt ด้วยตัวโหลดระบบของ Windows ระบบโหลดเดิมของระบบจะไม่ถูกเก็บไว้ในดิสก์กู้คืน (สาเหตุที่เป็นไปได้: ไม่มีไฟล์สำรองข้อมูล). ไม่สามารถเขียนลงในเซ็กเตอร์ MBR.\n\nBIOS ของคุณอาจถูกตั้งค่าเพื่อป้องกันเซ็กเตอร์ MBR. ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS ของคุณ (กด F2, Delete, หรือ Esc หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์) สำหรับการป้องกัน MBR/antivirus. คำเตือน: การตรวจสอบลายเซ็นต์ของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ล้มเหลว!\nดิสก์ของคุณอาจถูกแทรกแซงโดยผู้โจมตี ("Evil Maid" attack).\n\nคำเตือนนี้อาจถูกกระตุ้นหากคุณกู้คืนโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt โดยใช้ดิสก์กู้คืนที่สร้างขึ้นจากเวอร์ชัน VeraCrypt ที่แตกต่างกัน.\n\nแนะนำให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านทันทีซึ่งจะกู้คืนโปรแกรมโหลดบูทที่ถูกต้อง. ขอแนะนำให้ติดตั้ง VeraCrypt ใหม่และดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการเข้าถึงเครื่องนี้โดยหน่วยงานที่ไม่ไว้วางใจ. ขณะนี้ไม่ได้ติดตั้งเวอร์ชันที่ต้องการของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt. สิ่งนี้อาจป้องกันไม่ให้การตั้งค่าบางอย่างถูกบันทึก. หมายเหตุ: ในบางสถานการณ์, คุณอาจต้องการป้องกันไม่ให้ผู้อื่น (เช่นคู่แข็ง) ที่กำลังดูคุณเริ่มคอมพิวเตอร์ทราบว่าคุณใช้ VeraCrypt. ตัวเลือกลบใช้ข้างต้นจะช่วยให้คุณสามารถทำได้โดยการปรับแต่งหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt. ถ้าคุณเปิดใช้งานตัวเลือกแรก, ไม่มีข้อความใดๆจะแสดงโดยโปรแกรมโหลดบูท (แม้กระทั่งเมื่อคุณป้อนรหัสผ่านผิด). คอมพิวเตอร์จะดูเหมือน "ค้าง" ขณะที่คุณสามารถพิมพ์รหัสผ่านของคุณ. นอกจากนี้อาจแสดงข้อความที่กำหนดเองเพื่อเบี่ยงเบนคู่แข็ง. ตัวอย่างเช่นข้อความข้อผิดพลาดปลอม "Missing operating system" (ซึ่งโดยปกติจะแสดงโดยโปรแกรมโหลดบูท Windows หากไม่พบพาร์ติชันบูท Windows). อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า หากคู่แข็งสามารถวิเคราะห์เนื้อหาของฮาร์ดไดรฟ์, เขาก็ยังสามารถทราบได้ว่ามันมีโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt. คำเตือน: โปรดทราบว่าหากคุณเปิดใช้งานตัวเลือกนี้, โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt จะไม่แสดงข้อความใดๆ (แม้กระทั่งเมื่อคุณป้อนรหัสผ่านผิด). คอมพิวเตอร์จะดูเหมือน "ค้าง" (ไม่ตอบสนอง) ขณะที่คุณสามารถพิมพ์รหัสผ่านของคุณ (เคอร์เซอร์จะไม่ขยับและไม่มีเครื่องสัญลักษณ์เมื่อคุณกดปุ่ม).\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการเปิดใช้งานตัวเลือกนี้? พาร์ติชัน/ไดรฟ์ของระบบของคุณดูเหมือนจะถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์. VeraCrypt ไม่รองรับการเข้ารหัสไดรฟ์ระบบที่ถูกแปลงเป็นดิสก์แบบไดนามิก. ไดรฟ์ระบบมีพาร์ติชันแบบ extend (logical).\n\nคุณสามารถเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบที่มีพาร์ติชัน extend (logical) ได้เฉพาะใน Windows Vista และเวอร์ชันที่ใหม่กว่าของ Windows. ใน Windows XP, คุณสามารถเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบได้ถ้ามีเฉพาะพาร์ติชันหลัก (primary) เท่านั้น.\n\nหมายเหตุ: คุณยังคงสามารถเข้ารหัสพาร์ติชันระบบแทนการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบ (และนอกจากนี้ คุณสามารถสร้างปริมาณ VeraCrypt ที่โฮสต์พาร์ติชันไว้ในพาร์ติชันอื่นที่ไม่ใช่ระบบบนไดรฟ์ได้). คำเตือน: ในขณะที่คุณกำลังใช้ Windows XP/2003, หลังจากที่คุณเริ่มเข้ารหัสไดรฟ์, ห้ามสร้างพาร์ติชัน extend (logical) ใดๆ บนไดรฟ์นั้น (เฉพาะพาร์ติชันหลักเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต). พาร์ติชัน extend (logical) ใดๆ บนไดรฟ์จะไม่สามารถเข้าถึงได้หลังจากที่คุณเริ่มเข้ารหัส (ไดรฟ์ในปัจจุบันไม่มีพาร์ติชันแบบนี้).\n\nหมายเหตุ: ถ้าข้อจำกัดนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ, คุณสามารถย้อนกลับไปเลือกการเข้ารหัสเฉพาะพาร์ติชันระบบแทนการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ (และนอกจากนี้ คุณสามารถสร้างปริมาณ VeraCrypt ที่โฮสต์พาร์ติชันไว้ในพาร์ติชันอื่นที่ไม่ใช่ระบบบนไดรฟ์ได้).\n\nอีกทางเลือกหนึ่ง, ถ้าข้อจำกัดนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ, คุณอาจพิจารณาอัปเกรดเป็น Windows Vista หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่าของ Windows (คุณสามารถเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบที่มีพาร์ติชัน extend/logical ได้เฉพาะใน Windows Vista หรือเวอร์ชันใหม่กว่า). ไดรฟ์ระบบของคุณมีพาร์ติชันที่ไม่เป็นมาตรฐาน.\n\nถ้าคุณใช้โน้ตบุ๊ก, ไดรฟ์ระบบของคุณอาจมีพาร์ติชันการกู้คืนพิเศษ. หลังจากที่ได้เข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบ (รวมถึงพาร์ติชันการกู้คืนใดๆ), ระบบของคุณอาจไม่สามารถบูตได้หากคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ BIOS ที่ออกแบบไม่ดี. นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พาร์ติชันการกู้คืนใดๆ จนกว่าไดรฟ์ระบบจะถูกถอดการเข้ารหัส. ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณเข้ารหัสเฉพาะพาร์ติชันระบบเท่านั้น. คุณต้องการเข้ารหัสพาร์ติชันระบบแทนการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์หรือไม่?\n\nโปรดทราบว่าคุณสามารถสร้างปริมาณ VeraCrypt ที่โฮสต์พาร์ติชันไว้ในพาร์ติชันอื่นที่ไม่ใช่ระบบบนไดรฟ์ (นอกจากนี้ยังสามารถเข้ารหัสพาร์ติชันระบบได้). ในขณะที่ไดรฟ์ระบบของคุณมีพาร์ติชันเดียวเท่านั้นที่ครอบคลุมทั้งไดรฟ์, มันจะปลอดภัยมากกว่า (ปลอดภัยกว่า) ที่จะเข้ารหัสทั้งไดรฟ์รวมถึงพื้นที่ว่างที่มีอยู่รอบๆ พาร์ติชันดังกล่าว.\n\nคุณต้องการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบหรือไม่? ระบบของคุณถูกกำหนดให้เก็บไฟล์ชั่วคราวบนพาร์ติชันที่ไม่ใช่ระบบ.\n\nไฟล์ชั่วคราวอาจถูกเก็บไว้บนพาร์ติชันระบบเท่านั้น. ไฟล์โปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณไม่ได้ถูกเก็บไว้บนพาร์ติชันระบบ.\n\nไฟล์โปรไฟล์ผู้ใช้อาจถูกเก็บไว้บนพาร์ติชันระบบเท่านั้น. มีไฟล์เพจจิ้งบนพาร์ติชันที่ไม่ใช่ระบบ.\n\nไฟล์เพจจิ้งอาจถูกวางไว้บนพาร์ติชันระบบเท่านั้น. คุณต้องการกำหนดค่า Windows ให้สร้างไฟล์เพจจิ้งเฉพาะบนพาร์ติชัน Windows ทันทีหรือไม่?\n\nโปรดทราบว่าหากคุณคลิก 'ใช่', คอมพิวเตอร์จะรีสตาร์ท. จากนั้นเริ่มใช้งาน VeraCrypt และลองสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อนอีกครั้ง. มิฉะนั้น, การปฏิเสธที่มีเหตุผลของระบบที่ถูกแอบซ่อนอาจถูกกระทบอย่างรุนแรง.\n\nหมายเหตุ: ถ้าคู่แข็งวิเคราะห์เนื้อหาของไฟล์ดังกล่าว (ที่อยู่บนพาร์ติชันที่ไม่ใช่ระบบ), เขาอาจพบว่าคุณใช้วิซาร์ดนี้ในโหมดการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อน (ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของระบบที่ถูกแอบซ่อนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ). นอกจากนี้ โปรดทราบว่าไฟล์ใดๆ ที่เก็บไว้บนพาร์ติชันระบบจะถูกลบอย่างมีความปลอดภัยโดย VeraCrypt ในกระบวนการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อน. คำเตือน: ในกระบวนการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อน, คุณจะต้องติดตั้งระบบที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้ใหม่ทั้งหมด (เพื่อที่จะสร้างระบบเลียนแบบอย่างปลอดภัย).\n\nหมายเหตุ: ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ในตอนนี้และเนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชันจะถูกคัดลอกไปยังห้วงแอบซ่อน (เพื่อสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อน).\n\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณจะสามารถติดตั้ง Windows โดยใช้สื่อการติดตั้ง Windows (หรือใช้พาร์ติชันบริการ)? เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย, ถ้าระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้ต้องการการเปิดใช้งาน, มันต้องถูกเปิดใช้งานก่อนดำเนินการต่อ. โปรดทราบว่าระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนจะถูกสร้างขึ้นโดยคัดลอกเนื้อหาของพาร์ติชันระบบไปยังห้วงแอบซ่อน (ดังนั้นหากระบบปฏิบัติการนี้ไม่ถูกเปิดใช้งาน, ระบบปฏิบัติการที่ถูกซ่อนจะไม่ถูกเปิดใช้งานเช่นกัน). สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม, โปรดดูที่หมวด "ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับห้วงแอบซ่อน" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt.\n\nสำคัญ: ก่อนดำเนินการต่อ, โปรดแน่ใจว่าคุณได้อ่านหมวด "ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับห้วงแอบซ่อน" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt.\n\n\nระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้ตรงตามเงื่อนไขข้างต้นหรือไม่?\ ระบบของคุณใช้พาร์ติชันบูทเพิ่มเติม. VeraCrypt ไม่รองรับการพักตัวของระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนที่ใช้พาร์ติชันบูทเพิ่มเติม (ระบบเลียนแบบสามารถพักตัวได้โดยไม่มีปัญหา).\n\nโปรดทราบว่าพาร์ติชันบูทจะถูกใช้ร่วมกันโดยทั้งระบบเลียนแบบและระบบที่ถูกแอบซ่อน. ดังนั้น, เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและปัญหาในขณะเรียกคืนจากสถานะการพักตัว, VeraCrypt จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ระบบที่แอบเขียนไปยังพาร์ติชันบูทที่ใช้ร่วมกันและจากการพักตัว.\n\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? ถ้าคุณเลือก 'ไม่', คำแนะนำสำหรับการลบพาร์ติชันบูทเพิ่มเติมจะแสดงขึ้น. \nพาร์ติชันบูทเพิ่มเติมสามารถลบออกก่อติดตั้ง Windows. ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n\n1) บูตแผ่นติดตั้ง Windows ของคุณ.\n\n2) ในหน้าจอติดตั้ง Windows, คลิก 'Install now' > 'Custom (advanced)'.\n\n3) คลิก 'Drive Options'.\n\n4) เลือกพาร์ติชันระบบหลักแล้วลบมันโดยคลิก 'Delete' และ 'OK'.\n\n5) เลือกพาร์ติชัน 'System Reserved', คลิก 'Extend', และเพิ่มขนาดมันเพื่อให้สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการลงไปได้.\n\n6) คลิก 'Apply' และ 'OK'.\n\n7) ติดตั้ง Windows บนพาร์ติชัน 'System Reserved'.\n\n\nถ้ามีผู้โจมตีถามว่าทำไมคุณลบพาร์ติชันบูทเพิ่มเติม, คุณสามารถตอบว่าคุณต้องการป้องกันการรั่วไหลข้อมูลใดๆ ไปยังพาร์ติชันบูทที่ไม่ได้เข้ารหัส.\n\nหมายเหตุ: คุณสามารถพิมพ์ข้อความนี้โดยคลิกปุ่ม 'Print' ด้านล่าง. ถ้าคุณบันทึกสำเนาของข้อความนี้หรือพิมพ์มัน (แนะนำอย่างยิ่ง, ยกเว้นว่าปริ้นเตอร์ของคุณเก็บสำเนาของเอกสารที่พิมพ์ลงในฮาร์ดไดรฟ์ภายใน), คุณควรทำลายสำเนานั้นหลังจากลบพาร์ติชันบูทเพิ่มเติม (มิฉะนั้น, หากพบสำเนาดังกล่าว, อาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนบนคอมพิวเตอร์นี้). คำเตือน: มีพื้นที่ที่ไม่ได้จัดสรรระหว่างระบบพาร์ติชันและพาร์ติชันแรกที่อยู่ด้านหลังมัน. หลังจากที่คุณสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน, คุณต้องไม่สร้างพาร์ติชันใหม่ในพื้นที่ที่ไม่ได้จัดสรรนั้น. มิฉะนั้น, ระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนจะไม่สามารถบูทได้ (จนกว่าคุณจะลบพาร์ติชันที่สร้างขึ้นใหม่). อัลกอริธึมนี้ยังไม่รองรับสำหรับการเข้ารหัสระบบ. อัลกอริธึมนี้ไม่รองรับสำหรับโหมด TrueCrypt. PIM (ตัวคูณการวนซ้ำส่วนบุคคล) ไม่รองรับสำหรับโหมด TrueCrypt. รหัสผ่านต้องมีอักขระ 20 หลักขึ้นไปเพื่อใช้ PIM ที่ระบุ.\nรหัสผ่านที่สั้นกว่าจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ PIM มีค่า 485 หรือมากกว่า. รหัสผ่านก่อนบูทต้องมีอักขระ 20 หลักขึ้นไปเพื่อใช้ PIM ที่ระบุ.\nรหัสผ่านที่สั้นกว่าจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ PIM มีค่า 98 หรือมากกว่า. ไฟล์คีย์ยังไม่รองรับสำหรับการเข้ารหัสระบบ. คำเตือน: VeraCrypt ไม่สามารถคืนการเรียงลำดับแป้นพิมพ์เดิมได้. สิ่งนี้อาจทำให้คุณป้อนรหัสผ่านไม่ถูกต้อง. ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถตั้งค่าการเรียงลำดับแป้นพิมพ์ VeraCrypt เป็นการเรียงลำดับแป้นพิมพ์มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา.\n\nโปรดทราบว่ารหัสผ่านต้องพิมพ์ในสภาพแวดล้อมก่อนบูท (ก่อนที่ Windows จะเริ่ม) ที่ไม่มีการเรียงลำดับแป้นพิมพ์แบบที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกาของ Windows. ดังนั้น, รหัสผ่านต้องพิมพ์เสมอโดยใช้การเรียงลำดับแป้นพิมพ์มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา. ในขณะที่ VeraCrypt เปลี่ยนการเรียงลำดับแป้นพิมพ์ชั่วคราวไปยังการเรียงลำดับแป้นพิมพ์มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา, เป็นไปไม่ได้ที่จะพิมพ์อักขระโดยการกดปุ่มต่างๆ พร้อมกับปุ่ม Alt ทางขวา. อย่างไรก็ตาม, คุณสามารถพิมพ์อักขระส่วนใหญ่โดยการกดปุ่มต่างๆ พร้อมกับปุ่ม Shift. VeraCrypt ป้องกันการเปลี่ยนการเรียงลำดับแป้นพิมพ์. หมายเหตุ: รหัสผ่านจะต้องพิมพ์ในสภาพแวดล้อมก่อนบูท (ก่อนที่ Windows จะเริ่ม) ที่ไม่มีการเรียงลำดับแป้นพิมพ์แบบที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกา. ดังนั้น, รหัสผ่านต้องพิมพ์เสมอโดยใช้การเรียงลำดับแป้นพิมพ์มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา. อย่างไรก็ตาม, สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีแป้นพิมพ์จริงของสหรัฐอเมริกา; VeraCrypt จะทำให้แน่ใจว่าคุณสามารถพิมพ์รหัสผ่านได้อย่างปลอดภัย (ทั้งในตอนนี้และในสภาพแวดล้อมก่อนบูท) แม้ว่าคุณจะไม่มีแป้นพิมพ์จริงของสหรัฐอเมริกาก็ตาม. ก่อนที่คุณสามารถเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์, คุณต้องสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt (VRD), ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้:\n\n- หากโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt, คีย์หลัก หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ เสียหาย, VRD ให้คุณสามารถกู้คืนข้อมูลได้ (โปรดทราบ, ว่าคุณจะยังคงต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้อง).\n\n- หาก Windows เสียหายและไม่สามารถเริ่มทำงานได้, VRD ให้คุณสามารถถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ถาวรก่อนที่ Windows จะเริ่ม.\n\n- VRD จะมีสำรองข้อมูลเนื้อหาปัจจุบันของเซ็กเตอร์แรกของไดรฟ์ (ซึ่งมักจะมีโปรแกรมโหลดระบบหรือโปรแกรมจัดการบูท) และจะให้คุณสามารถกู้คืนได้หากจำเป็น.\n\nภาพ ISO ของดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะถูกสร้างในตำแหน่งที่ระบุด้านล่าง. หลังจากที่คุณคลิก OK, Microsoft Windows Disc Image Burner จะถูกเปิดใช้งาน. โปรดใช้มันเพื่อเบิร์นภาพ ISO ของดิสก์กู้คืน VeraCrypt ไปยัง CD หรือ DVD.\n\nหลังจากที่คุณทำเช่นนี้แล้ว, กลับมาที่ VeraCrypt Volume Creation Wizard และทำตามคำแนะนำของมัน. ภาพดิสก์กู้คืนถูกสร้างและจัดเก็บในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณต้องเบิร์นมันไปยัง CD หรือ DVD.\n\n%lsหลังจากที่คุณเบิร์นดิสก์กู้คืนแล้ว, คลิก Next เพื่อยืนยันว่ามันถูกเบิร์นอย่างถูกต้อง. ภาพดิสก์กู้คืนถูกสร้างและจัดเก็บในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณควรเบิร์นภาพนี้ไปยัง CD/DVD หรือย้ายมันไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในภายหลัง.\n\n%lsคลิก Next เพื่อดำเนินการต่อ. สิ่งสำคัญ: โปรดทราบว่าไฟล์จะต้องถูกเขียนลงไปใน CD/DVD เป็นภาพ ISO (ไม่ใช่เป็นไฟล์เดี่ยว). สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำเช่นนั้น, โปรดดูที่เอกสารประกอบของซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD ของคุณ. ถ้าคุณไม่มีซอฟต์แวร์บันทึก CD/DVD ที่สามารถเขียนภาพ ISO ลงใน CD/DVD, คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรี.\n\n เปิด Microsoft Windows Disc Image Burner คำเตือน: ถ้าคุณเคยสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ในอดีต, มันไม่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้สำหรับพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบนี้เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคีย์หลักที่แตกต่างกัน! ทุกครั้งที่คุณเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบ, คุณต้องสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ใหม่สำหรับมันแม้ว่าคุณจะใช้รหัสผ่านเดียวกัน. ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถบันทึกการตั้งค่าการเข้ารหัสระบบ. ไม่สามารถเริ่มการทดสอบก่อนการเข้ารหัสระบบได้. ไม่สามารถเริ่มกระบวนการสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนได้. โหมดการล้างข้อมูล ในสื่อเก็บข้อมูลบางประเภท, เมื่อข้อมูลถูกเขียนทับด้วยข้อมูลอื่น, อาจมีความเป็นไปได้ที่จะกู้คืนข้อมูลที่ถูกเขียนทับโดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่นกล้องจุลทรรศน์แรงแม่เหล็ก. นี่ใช้กับข้อมูลที่ถูกเขียนทับด้วยรูปแบบเข้ารหัสของมันเช่นกัน (ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ VeraCrypt เข้ารหัสพาร์ติชันหรือไดรฟ์ที่ไม่มีการเข้ารหัสในตอนแรก). ตามการศึกษาบางฉบับและสิ่งพิมพ์ของรัฐบาล, การกู้คืนข้อมูลที่ถูกเขียนทับสามารถป้องกันได้ (หรือทำได้ยาก) โดยการเขียนทับข้อมูลด้วยข้อมูลสุ่มเทียมและข้อมูลที่ไม่สุ่มในบางกรณีหลายครั้ง. ดังนั้น, ถ้าคุณเชื่อว่าคู่แข็งอาจใช้เทคนิคดังกล่าวเพื่อกู้คืนข้อมูลที่คุณตั้งใจเข้ารหัส, คุณอาจต้องการเลือกหนึ่งในโหมดการล้าง (ข้อมูลที่มีอยู่จะไม่หายไป). โปรดทราบว่าการล้างจะไม่ถูกดำเนินการหลังจากพาร์ติชัน/ไดรฟ์ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์. เมื่อพาร์ติชัน/ไดรฟ์ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์แล้ว, จะไม่มีการเขียนข้อมูลที่ไม่เข้ารหัสไปยังมัน. ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่เขียนไปนั้นจะถูกเข้ารหัสบนหน่วยความจำก่อนและจากนั้นจะถูกเขียน (ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส) ลงไปในดิสก์. ในสื่อเก็บข้อมูลบางประเภท, เมื่อข้อมูลถูกเขียนทับด้วยข้อมูลอื่น (เช่นเมื่อข้อมูลถูกลบ), อาจมีความเป็นไปได้ที่จะกู้คืนข้อมูลที่ถูกเขียนทับโดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่นกล้องจุลทรรศน์แรงแม่เหล็ก. ตามการศึกษาบางฉบับและสิ่งพิมพ์ของรัฐบาล, การกู้คืนข้อมูลที่ถูกเขียนทับสามารถป้องกันได้ (หรือทำได้ยาก) โดยการเขียนทับข้อมูลด้วยข้อมูลสุ่มเทียมและข้อมูลที่ไม่สุ่มในบางกรณีหลายครั้ง. ดังนั้น, ถ้าคุณเชื่อว่าคู่แข็งอาจใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบ, คุณอาจต้องการเลือกหนึ่งในโหมดการล้างหลายครั้ง.\n\nหมายเหตุ: จำนวนครั้งที่คุณเลือกใช้ในการล้างเพิ่มขึ้น, เวลาที่ใช้ในการลบข้อมูลก็จะนานขึ้น. กำลังล้าง \nหมายเหตุ: คุณสามารถหยุดกระบวนการล้าง, ปิดคอมพิวเตอร์, เริ่มระบบที่ซ่อนใหม่และจากนั้นกลับมากระบวนการล้าง (วิซาร์ดนี้จะถูกเปิดอัตโนมัติ). อย่างไรก็ตาม, หากคุณหยุดกระบวนการ, กระบวนการล้างทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น. \n\nหมายเหตุ: หากคุณหยุดกระบวนการล้างและจากนั้นพยายามกลับมาที่กระบวนการ, กระบวนการทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น. คุณต้องการหยุดกระบวนการล้างหรือไม่? คำเตือน: เนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชัน/อุปกรณ์ที่เลือกจะถูกลบและหายไป. เนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชันที่ระบบเดิมอยู่จะถูกลบ.\n\nหมายเหตุ: เนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชันที่กำลังจะถูกลบได้ถูกคัดลอกไปยังพาร์ติชันระบบที่ถูกซ่อนนี้แล้ว. คำเตือน: โปรดทราบว่าหากคุณเลือกเช่นโหมดการล้าง 3 ครั้ง, เวลาที่ใช้ในการเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์จะยาวนานขึ้นสูงสุด 4 เท่า. ในทำนองเดียวกัน, หากคุณเลือกโหมดการล้าง 35 ครั้ง, เวลาที่ใช้จะยาวนานขึ้นสูงถึง 36 เท่า (อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์).\n\nอย่างไรก็ตาม, โปรดทราบว่าการล้างจะไม่ถูกดำเนินการหลังจากพาร์ติชัน/ไดรฟ์ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์. เมื่อพาร์ติชัน/ไดรฟ์ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์, จะไม่มีการเขียนข้อมูลที่ไม่เข้ารหัสไปยังมัน. ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่เขียนไปนั้นจะถูกเข้ารหัสบนหน่วยความจำก่อนและจากนั้นจะถูกเขียนลงไปในดิสก์ (ดังนั้นสมรรถนะจะไม่ถูกกระทบ).\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้โหมดการล้างนี้? ไม่มี (เร็วที่สุด) 1 ครั้ง (ข้อมูลสุ่ม) 3 ครั้ง (US DoD 5220.22-M) 7 ครั้ง (US DoD 5220.22-M) 35 ครั้ง ("Gutmann") 256 ครั้ง จำนวนระบบปฏิบัติการ คำเตือน: ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์ไม่ควรพยายามที่จะเข้ารหัส Windows ในการกำหนดค่าหลายบูท.\n\nดำเนินการต่อ? เมื่อต้องการสร้าง/ใช้ระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน, VeraCrypt รองรับการกำหนดค่าหลายบูทเฉพาะเมื่อมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้เท่านั้น:\n\n- ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันต้องถูกติดตั้งบนไดรฟ์บูท, ซึ่งไม่ควรมีระบบปฏิบัติการอื่น ๆ.\n\n- ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งบนไดรฟ์อื่น ๆ ต้องไม่ใช้โปรแกรมโหลดบูทบนไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบัน.\n\nเงื่อนไขข้างต้นตรงตามหรือไม่? VeraCrypt ไม่รองรับการกำหนดค่าหลายบูทนี้เมื่อต้องการสร้าง/ใช้ระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน. ไดรฟ์บูท ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันถูกติดตั้งบนไดรฟ์บูทหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: บางครั้ง Windows ไม่ได้ถูกติดตั้งบนไดรฟ์เดียวกับโปรแกรมโหลดบูท Windows (พาร์ติชันบูท). ในกรณีนั้น, เลือก 'ไม่'. VeraCrypt ขณะนี้ไม่รองรับการเข้ารหัสระบบปฏิบัติการที่ไม่บูทจากไดรฟ์ที่มันติดตั้ง. จำนวนไดรฟ์ระบบ มีไดรฟ์ที่มีระบบปฏิบัติการกี่ไดรฟ์?\n\nหมายเหตุ: ตัวอย่างเช่น, ถ้าคุณมีระบบปฏิบัติการใด ๆ (เช่น Windows, Mac OS X, Linux, ฯลฯ) ติดตั้งบนไดรฟ์หลักของคุณและมีระบบปฏิบัติการเพิ่มเติมใด ๆ ติดตั้งบนไดรฟ์รอง, เลือก '2 หรือมากกว่า'. VeraCrypt ขณะนี้ไม่รองรับการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ที่มีหลายระบบปฏิบัติการ.\n\nวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n\n- คุณยังสามารถเข้ารหัสระบบใดๆ หนึ่งได้ถ้าคุณย้อนกลับไปและเลือกเข้ารหัสพาร์ติชันระบบเดี่ยว (แทนที่จะเลือกเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ระบบ).\n\n- อย่างไรก็ตาม, คุณจะสามารถเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ได้ถ้าคุณย้ายบางระบบไปยังไดรฟ์อื่นที่เหลือเพียงระบบเดียวบนไดรฟ์ที่คุณต้องการเข้ารหัส. หลายระบบบนไดรฟ์เดียว มีระบบปฏิบัติการอื่นใด ๆ ที่ติดตั้งบนไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: ตัวอย่างเช่น, ถ้าระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันติดตั้งบนไดรฟ์ #0, ซึ่งมีพาร์ติชันหลายๆ ชื่อเดียวกัน, และถ้าพาร์ติศันหนึ่งมี Windows, และพาร์ติชันอื่นมีระบบปฏิบัติการเพิ่มเติมอื่น ๆ (เช่น Windows, Mac OS X, Linux, ฯลฯ), เลือก 'ใช่'. โปรแกรมโหลดบูทที่ไม่ใช่ Windows มีโปรแกรมโหลดบูท (หรือโปรแกรมจัดการบูท) ที่ไม่ใช่ของ Windows ติดตั้งใน Master Boot Record (MBR) หรือไม่?\n\nหมายเหตุ: ตัวอย่างเช่น, ถ้าแทร็กแรกของไดรฟ์บูทมี GRUB, LILO, XOSL, หรือโปรแกรมจัดการบูท (หรือโปรแกรมโหลดบูท) ที่ไม่ใช่ของ Windows ใด ๆ, เลือก 'ใช่'. หลายบูท VeraCrypt ขณะนี้ไม่รองรับการกำหนดค่าหลายบูทที่โปรแกรมจัดการบูทที่ไม่ใช่ของ Windows ติดตั้งใน Master Boot Record.\n\nวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n\n- ถ้าคุณใช้โปรแกรมจัดการบูทเพื่อบูท Windows และ Linux, ย้ายโปรแกรมจัดการบูท (ทั่วไปคือ GRUB) จาก Master Boot Record ไปยังพาร์ติชัน. จากนั้นเริ่มต้นวิซาร์ดนี้อีกครั้งและเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบ. โปรดทราบว่าโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt จะกลายเป็นโปรแกรมจัดการบูทหลักของคุณและจะอนุญาตให้คุณเปิดโปรแกรมจัดการบูทเริ่มเติม (เช่น GRUB) เป็นโปรแกรมจัดการบูททุติยภูมิ (โดยกด Esc ในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) และคุณจะสามารถบูท Linux ได้. ถ้าระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันติดตั้งบนพาร์ติชันบูท, จากนั้นหลังจากที่คุณเข้ารหัสมัน, คุณจะต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องแม้ว่าคุณต้องการเริ่มระบบ Windows อื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้ารหัสก็ตาม (เพราะพวกมันจะใช้งานโปรแกรมโหลดบูท/จัดการของ Windows เฉพาะอันเดียวกันที่เข้ารหัส).\n\nในทางตรงกันข้าม, ถ้าระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานในปัจจุบันไม่ติดตั้งบนพาร์ติชันบูท (หรือถ้าโปรแกรมจัดการ/โหลดบูทของ Windows ไม่ถูกใช้โดยระบบอื่นใด), จากนั้นหลังจากที่คุณเข้ารหัสระบบนี้, คุณจะไม่ต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้อง เพื่อบูทระบบอื่นที่ไม่ได้เข้ารหัส -- คุณเพียงแค่ต้องกดปุ่ม Esc เพื่อเริ่มระบบที่ไม่ได้เข้ารหัส (ถ้ามีหลายระบบที่ไม่ได้เข้ารหัส, คุณยังต้องเลือกว่าจะเริ่มระบบไหนในเมนูโปรแกรมจัดการบูท VeraCrypt).\n\nหมายเหตุ: โดยทั่วไป, ระบบ Windows ที่ติดตั้งก่อนสุดจะติดตั้งบนพาร์ติชันบูท. การเข้ารหัสพื้นที่ Host Protected ที่ท้ายหลายๆ ไดรฟ์, มีพื้นที่ที่มักถูกซ่อนจากระบบปฏิบัติการ (พื้นที่เหล่านี้มักเรียกว่า Host Protected Areas). อย่างไรก็ตาม, โปรแกรมบางรายการสามารถอ่านและเขียนข้อมูลจาก/ไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้.\n\nคำเตือน: ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์บางรายอาจใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อจัดเก็บเครื่องมือและข้อมูลสำหรับ RAID, การกู้คืนระบบ, การตั้งค่าระบบ, การวินิจฉัย, หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น. ถ้าเครื่องมือหรือข้อมูลดังกล่าวต้องเข้าถึงได้ก่อนการบูท, พื้นที่ซ่อนไม่ควรถูกเข้ารหัส (เลือก 'ไม่' ด้านบน).\n\nคุณต้องการให้ VeraCrypt ตรวจจับและเข้ารหัสพื้นที่ซ่อนดังกล่าว (ถ้ามี) ที่ท้ายไดรฟ์ระบบหรือไม่? ประเภทของการเข้ารหัสระบบ เลือกตัวเลือกนี้ถ้าคุณต้องการเพียงแค่เข้ารหัสพาร์ติชันระบบหรือทั้งไดรฟ์ระบบ. อาจมีกรณีที่คุณถูกบังคับโดยใครบางคนให้ถอดรหัสระบบปฏิบัติการ. มีหลายสถานการณ์ที่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ (เช่น เนื่องจากการบีบบังคับ). ถ้าคุณเลือกตัวเลือกนี้, คุณจะสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนที่การมีอยู่จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ (เมื่อปฎิบัติตามแนวทางบางอย่าง). ดังนั้น, คุณจะไม่จำเป็นต้องถอดรหัสหรือเปิดเผยรหัสผ่านของระบบปฏิบัติการที่ถูกซ่อน. สำหรับคำอธิบายโดยละเอียด, โปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง. อาจมีกรณีที่คุณถูกบังคับโดยใครบางคนให้ถอดรหัสระบบปฏิบัติการ. มีหลายสถานการณ์ที่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ (เช่น เนื่องจากการบีบบังคับ).\n\nโดยใช้วิซาร์ดนี้, คุณสามารถสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนที่การมีอยู่จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ (เมื่อปฎิบัติตามแนวทางบางอย่าง). ดังนั้น, คุณจะไม่จำเป็นต้องถอดรหัสหรือเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน. การตรวจสอบข้อกำหนดระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน ในขั้นตอนต่อไปนี้, คุณจะสร้างปริมาณ VeraCrypt สองตัว (ตัวนอกและตัวใน) ภายในพาร์ติชันแรกที่อยู่ด้านหลังพาร์ติชันระบบ. ปริมาณที่ซ่อนจะประกอบด้วยระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน (OS). VeraCrypt จะสร้างระบบปฏิบัติการที่ซ่อนโดยการคัดลอกเนื้อหาของพาร์ติชันระบบ (ที่ระบบปฏิบัติการปัจจุบันติดตั้งอยู่) ไปยังปริมาณที่ซ่อน. ไปยังปริมาณภายนอก, คุณจะคัดลอกไฟล์ลักษณะอ่อนไหวที่คุณไม่ได้ต้องการเก็บเป็นความลับจริงๆ. มันจะอยู่ที่นั่นสำหรับใครก็ตามที่บังคับคุณให้เปิดเผยรหัสผ่านสำหรับพาร์ติชัน OS ที่ซ่อน. คุณสามารถเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับปริมาณภายนอกภายในพาร์ติชัน OS ที่ซ่อน (การมีอยู่ของ OS ที่ซ่อนยังคงเป็นความลับ).\n\nสุดท้าย, บนพาร์ติชันระบบของ OS ที่กำลังทำงานอยู่ในตอนนี้, คุณจะติดตั้ง OS ใหม่ที่เรียกว่าระบบเลียนแบบ, และเข้ารหัสมัน. มันต้องไม่ประกอบด้วยข้อมูลอ่อนไหวและจะอยู่ที่นั่นสำหรับใครก็ตามที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านการรับรองก่อนบูท. ทั้งหมดจะมีรหัสผ่าน 3 ตัว. สองในสามนี้สามารถเปิดเผยได้ (สำหรับ OS เลียนแบบและปริมาณภายนอก). ถ้าคุณใช้รหัสที่สาม, ระบบปฏิบัติการที่ซ่อนจะเริ่มทำงาน. การตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อน กรุณารอสักครู่ในขณะที่ VeraCrypt กำลังตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อนที่เป็นไปได้ที่ท้ายไดรฟ์ระบบ. โปรดทราบว่ามันอาจใช้เวลานานในการทำงานให้เสร็จสิ้น.\n\nหมายเหตุ: ในกรณีที่หายากมาก, ในคอมพิวเตอร์บางเครื่อง, ระบบอาจไม่ตอบสนองในระหว่างกระบวนการตรวจจับนี้. ถ้ามันเกิดขึ้น, รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์, เริ่ม VeraCrypt, ทำขั้นตอนก่อนหน้าอีกครั้งแต่ข้ามขั้นตอนการตรวจจับนี้. โปรดทราบว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt. พื้นที่ที่จะเข้ารหัส เลือกตัวเลือกนี้ถ้าคุณต้องการเข้ารหัสทั้งไดรฟ์ที่ระบบ Windows กำลังทำงานอยู่ติดตั้ง. ทั้งไดรฟ์, รวมถึงทุกพาร์ติชันจะถูกเข้ารหัสยกเว้นแทร็กแรกที่โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt จะใช้. ใครก็ตามที่ต้องการเข้าถึงระบบที่ติดตั้งบนไดรฟ์หรือไฟล์ที่จัดเก็บบนไดรฟ์จะต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องทุกครั้งก่อนระบบจะเริ่ม. ตัวเลือกนี้ไม่สามารถใช้ในการเข้ารหัสไดรฟ์รองหรือไดรฟ์ภายนอกถ้า Windows ไม่ได้ติดตั้งอยู่บนไดรฟ์นั้นและไม่บูทจากไดรฟ์นั้น. การรวบรวมข้อมูลสุ่ม คีย์ที่สร้างขึ้น VeraCrypt พบว่าไม่มีเครื่องเบิร์น CD/DVD เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ. VeraCrypt ต้องการเครื่องเบิร์น CD/DVD เพื่อเบิร์นดิสก์กู้คืน VeraCrypt ที่สามารถบูทได้ซึ่งมีข้อมูลสำรองของคีย์เข้ารหัส, โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt, ระบบโหลดเดิม, และอื่น ๆ.\n\nเราขอแนะนำให้คุณเบิร์นดิสก์กู้คืน VeraCrypt. ฉันไม่มีเครื่องเบิร์น CD/DVD แต่ฉันจะจัดเก็บภาพ ISO ดิสก์กู้คืนบนไดรฟ์แบบถอดได้ (เช่น USB flash drive). ฉันจะเชื่อมต่อเครื่องเบิร์น CD/DVD กับคอมพิวเตอร์ในภายหลัง. ยกเลิกกระบวนการตอนนี้. เครื่องเบิร์น CD/DVD เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของฉันแล้ว. ดำเนินการต่อและเขียนดิสก์กู้คืน. โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n\n1) เชื่อมต่อไดรฟ์แบบถอดได้, เช่น USB flash drive, กับคอมพิวเตอร์ของคุณตอนนี้.\n\n2) คัดลอกไฟล์ภาพ ISO ดิสก์กู้คืน VeraCrypt (%s) ไปยังไดรฟ์ที่ถอดออกได้.\n\nในกรณีที่คุณต้องใช้ดิสก์กู้คืน VeraCrypt ในอนาคต, คุณจะสามารถเชื่อมต่อไดรฟ์ที่ถอดออกได้ (ที่มีภาพ ISO ดิสก์กู้คืน VeraCrypt) กับคอมพิวเตอร์ที่มีเครื่องเบิร์น CD/DVD และสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ที่สามารถบูท โดยการเขียนภาพไปยัง CD หรือ DVD. สิ่งสำคัญ: โปรดสังเกตว่าไฟล์ภาพ ISO ต้องถูกเขียนลงใน CD/DVD เป็นภาพ ISO ไม่ใช่เป็นไฟล์เดี่ยว. การบันทึกดิสก์กู้คืน ดิสก์กู้คืนที่ถูกสร้าง การทดสอบก่อนการเข้ารหัสระบบ ดิสก์กู้คืนที่ถูกยืนยัน \nดิสก์กู้คืน VeraCrypt ได้รับการยืนยันสำเร็จแล้ว. กรุณาถอดมันออกจากไดรฟ์ตอนนี้และจัดเก็บในที่ปลอดภัย.\n\nคลิก Next เพื่อดำเนินการต่อ. คำเตือน: ในขั้นตอนต่อไปนี้, ดิสก์กู้คืน VeraCrypt ต้องไม่อยู่ในไดรฟ์. มิฉะนั้น, จะไม่สามารถดำเนินการขั้นตอนนี้ได้อย่างถูกต้อง.\n\nกรุณาถอดดิสก์กู้คืนออกจากไดรฟ์ตอนนี้และจัดเก็บในที่ปลอดภัย. จากนั้นคลิก OK. คำเตือน: เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคของสภาพแวดล้อมก่อนบูท, ข้อความที่แสดงโดย VeraCrypt ในสภาพแวดล้อมก่อนที่จะเริ่ม Windows ไม่สามารถแปลได้. อินเตอร์เฟซผู้ใช้ของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ.\n\nดำเนินการต่อ? ก่อนเข้ารหัสพาร์ติชันหรือไดรฟ์ระบบของคุณ, VeraCrypt ต้องตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้ถูกต้อง.\n\nหลังจากคุณคลิกทดสอบ, ส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมด (เช่นส่วนประกอบการรับรองก่อนบูท, หรือที่รู้จักกันว่าโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) จะถูกติดตั้งและคอมพิวเตอร์ของคุณจะถูกรีสตาร์ท. จากนั้นคุณจะต้องป้อนรหัสผ่านของคุณในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ที่จะปรากฏก่อนที่ Windows จะเริ่ม. หลังจากที่ Windows เริ่มทำงาน, คุณจะได้รับแจ้งอัตโนมัติถึงผลลัพธ์ของการทดสอบนี้.\n\nอุปกรณ์ต่อไปนี้จะถูกแก้ไข: ไดรฟ์ #%d\n\n\nถ้าคุณคลิกยกเลิกตอนนี้, ไม่มีอะไรจะถูกติดตั้งและการทดสอบจะไม่ถูกดำเนินการ. หมายเหตุสำคัญ -- กรุณาอ่านหรือพิมพ์ (คลิก 'พิมพ์'):\n\nโปรดทราบว่าไม่มีไฟล์ใดๆ ของคุณจะถูกเข้ารหัสก่อนที่คุณจะรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และเริ่ม Windows สำเร็จ. ดังนั้น, ถ้าเกิดความผิดพลาดใด ๆ, ข้อมูลของคุณจะไม่หายไป. อย่างไรก็ตาม, ถ้ามีบางอย่างผิดปกติ, คุณอาจพบความยากลำบากในการเริ่ม Windows. ดังนั้น, กรุณาอ่าน (และ, ถ้าเป็นไปได้, พิมพ์) แนวทางต่อไปนี้ในกรณีที่ Windows ไม่สามารถเริ่มทำงานได้หลังจากที่คุณรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์.\n\n วิธีการที่ต้องทำถ้า Windows ไม่สามารถเริ่มทำงานได้\n------------------------------------------------\n\nหมายเหตุ: คำแนะนำเหล่านี้เป็นจริงเฉพาะเมื่อคุณยังไม่ได้เริ่มต้นการเข้ารหัส.\n\n- ถ้า Windows ไม่เริ่มทำงานหลังจากที่คุณป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้อง (หรือถ้าคุณป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องซ้ำ ๆ แต่ VeraCrypt บอกว่ารหัสผ่านไม่ถูกต้อง), อย่าตื่นตกใจ. รีสตาร์ท (ปิดและเปิดใหม่) คอมพิวเตอร์, และในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt, กดปุ่ม Esc บนแป้นพิมพ์ของคุณ (และถ้าคุณมีหลายระบบ, เลือกที่จะเริ่ม). จากนั้น Windows จะเริ่มทำงาน (ในกรณีที่มันไม่ถูกเข้ารหัส) และ VeraCrypt จะขอถามอัตโนมัติว่าคุณต้องการถอนส่วนประกอบการรับรองก่อนบูทออกหรือไม่. โปรดทราบว่าขั้นตอนก่อนหน้าจะไม่ทำงานหากพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบถูกเข้ารหัส (ไม่มีใครสามารถเริ่ม Windows หรือเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสบนไดรฟ์ได้โดยไม่มีรหัสผ่านที่ถูกต้องแม้ว่าจะทำตามขั้นตอนก่อนหน้า). - ถ้าขั้นตอนก่อนหน้านี้ไม่ช่วยหรือถ้าหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ไม่ปรากฏ (ก่อนที่ Windows จะเริ่ม), ใส่ดิสก์กู้คืน VeraCrypt ลงในไดรฟ์ CD/DVD ของคุณและรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์. ถ้าหน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt ไม่ปรากฏ (หรือถ้าคุณไม่เห็นตัวเลือก 'ซ่อมแซม' ในส่วน 'การควบคุมแป้นพิมพ์' ของหน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt), อาจเป็นไปได้ว่า BIOS ของคุณถูกกำหนดให้พยายามบูทจากฮาร์ดไดรฟ์ก่อน CD/DVD ไดรฟ์. ถ้าเป็นกรณีนั้น, รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์, กด F2 หรือ Delete (ทันทีที่คุณเห็นหน้าจอการเริ่มต้น BIOS), และรอจนเกิดหน้าจอการตั้งค่า BIOS. ถ้าไม่มีหน้าจอการตั้งค่า BIOS ปรากฏขึ้น, รีเซ็ต (รีสตาร์ท) คอมพิวเตอร์ใหม่และเริ่มกดปุ่ม F2 หรือ Delete ซ้ำๆ ทันทีที่คุณรีเซ็ต (รีสตาร์ท) คอมพิวเตอร์. เมื่อหน้าจอการตั้งค่า BIOS ปรากฏขึ้น, กำหนดค่า BIOS ของคุณให้บูทจากไดรฟ์ CD/DVD ก่อน (สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำเช่นนี้, โปรดดูเอกสารประกอบของ BIOS/เมนบอร์ดของคุณหรือติดต่อทีมสนับสนุนเทคนิคของผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ของคุณสำหรับความช่วยเหลือ). จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ. หน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt ควรปรากฏขึ้นในขณะนี้. ในหน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt, เลือก 'ซ่อมแซม' โดยกดปุ่ม F8 บนแป้นพิมพ์ของคุณ. จากเมนู 'ซ่อมแซม', เลือก 'คืนค่าระบบโหลดเดิม'. จากนั้นถอดดิสก์กู้คืนออกจากไดรฟ์ CD/DVD และรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ. Windows ควรจะเริ่มทำงานตามปกติ (ในกรณีที่มันไม่ถูกเข้ารหัส).\n\n โปรดทราบว่าขั้นตอนก่อนหน้าจะไม่ทำงานหากพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบถูกเข้ารหัส (ไม่มีใครสามารถเริ่ม Windows หรือเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสบนไดรฟ์ได้โดยไม่มีรหัสผ่านที่ถูกต้องแม้ว่าจะทำตามขั้นตอนก่อนหน้า).\n\n\nโปรดทราบว่าแม้ว่าคุณจะสูญเสียดิสก์กู้คืน VeraCrypt และมีผู้โจมตีพบมัน, เขาหรือเธอจะไม่สามารถถอดรหัสพาร์ติชันหรือไดรฟ์ระบบได้โดยไม่มีรหัสผ่านที่ถูกต้อง. การทดสอบสำเร็จ การทดสอบสำเร็จเสร็จสมบูรณ์.\n\nคำเตือน: โปรดทราบว่าหากการจ่ายพลังงานถูกขัดจังหวะในขณะเข้ารหัสข้อมูลที่มีอยู่ในนั้น, หรือเมื่อระบบปฏิบัติการล่มเนื่องจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์หรือความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ในขณะที่ VeraCrypt กำลังเข้ารหัสข้อมูลที่มีอยู่ในนั้น, ข้อมูลบางส่วนจะถูกทำลายหรือสูญหาย. ดังนั้น, ก่อนที่คุณจะเริ่มเข้ารหัส, โปรดตรวจสอบว่าคุณมีสำเนาสำรองของไฟล์ที่คุณต้องการเข้ารหัสหรือไม่. หากไม่, กรุณาสำรองข้อมูลไฟล์ตอนนี้ (คุณสามารถคลิก Defer, สำรองข้อมูลไฟล์, จากนั้นเปิด VeraCrypt อีกครั้งเวลาใดก็ได้, และเลือก 'System' > 'Resume Interrupted Process' เพื่อเริ่มเข้ารหัส).\n\nเมื่อพร้อม, คลิก Encrypt เพื่อเริ่มเข้ารหัส. คุณสามารถคลิก Pause หรือ Defer ได้ตลอดเวลาเพื่อหยุดกระบวนการเข้ารหัสหรือถอดรหัส, ออกจากวิซาร์ดนี้, รีสตาร์ทหรือปิดคอมพิวเตอร์, จากนั้นกลับมากระบวนการดังกล่าวซึ่งจะต่อจากจุดที่หยุดไว้. เพื่อป้องกันการชะลอตัวเมื่อระบบหรือต้องการเขียนหรืออ่านข้อมูลจากไดรฟ์ระบบ, VeraCrypt จะรอจนกว่าข้อมูลจะถูกเขียนหรืออ่าน (ดูสถานะด้านบน) และจากนั้นดำเนินการเข้ารหัสหรือถอดรหัสโดยอัตโนมัติ. \n\nคุณสามารถคลิก Pause หรือ Defer ได้ตลอดเวลาเพื่อหยุดกระบวนการเข้ารหัส, ออกจากวิซาร์ดนี้, รีสตาร์ทหรือปิดคอมพิวเตอร์, จากนั้นกลับมากระบวนการดังกล่าวซึ่งจะต่อจากจุดที่หยุดไว้. โปรดทราบว่าปริมาณจะไม่สามารถติดตั้งได้จนกว่าจะเข้ารหัสเสร็จสิ้นสมบูรณ์. \n\nคุณสามารถคลิก Pause หรือ Defer ได้ตลอดเวลาเพื่อหยุดกระบวนการถอดรหัส, ออกจากวิซาร์ดนี้, รีสตาร์ทหรือปิดคอมพิวเตอร์, และจากนั้นกลับมากระบวนการดังกล่าวซึ่งจะต่อจากจุดที่หยุดไว้. โปรดทราบว่าปริมาณจะไม่สามารถติดตั้งได้จนกว่าจะถอดรหัสเสร็จสิ้นสมบูรณ์. ระบบที่ถูกแอบซ่อนเริ่มต้น ระบบเดิม Windows สร้าง (ทั่วไป, โดยที่คุณไม่ทราบหรือยินยอม) หลายๆ ไฟล์บันทึก, ไฟล์ชั่วคราว, ฯลฯ, บนพาร์ติชันระบบ. มันยังบันทึกเนื้อหาของ RAM ลงในไฟล์พักตัวและไฟล์เพจจิ้งที่ตั้งอยู่บนพาร์ติชันระบบ. ดังนั้น, ถ้าคู่แข็งวิเคราะห์ไฟล์ที่เก็บไว้บนพาร์ติชันที่ระบบเดิม (ซึ่งระบบที่ถูกแอบซ่อนไปโคลน) อาจพบ, ตัวอย่างเช่น, ว่าคุณใช้วิซาร์ด VeraCrypt ในโหมดการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อน (ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของระบบปฏิบัติการที่ถูกซ่อนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ).\n\nเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้, VeraCrypt จะ, ในขั้นตอนต่อไป, ลบเนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชันที่ระบบเดิมอยู่. หลังจากนั้น, เพื่อให้ได้ความสามารถในการปฏิเสธปกติ, คุณจะต้องติดตั้งระบบใหม่บนพาร์ติชันและเข้ารหัสมัน. ดังนั้นคุณจะสร้างระบบเลียนแบบและกระบวนการสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนทั้งหมดก็จะเสร็จสิ้น ระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนถูกสร้างสำเร็จแล้ว. อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่คุณจะสามารถเริ่มใช้มัน (และให้ได้ความสามารถในการปฏิเสธปกติ), คุณต้องลบเนื้อหาทั้งหมดของพาร์ติชันที่ระบบปฏิบัติการที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้ถูกติดตั้งอยู่อย่างมีความปลอดภัย (โดยใช้ VeraCrypt). ก่อนที่คุณสามารถทำเช่นนี้ได้, คุณต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และ, ในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt (ที่ปรากฏก่อน Windows จะเริ่ม), ป้อนรหัสผ่านการรับรองก่อนบูทสำหรับระบบที่ถูกแอบซ่อน. จากนั้น, หลังจากระบบที่ถูกแอบซ่อนเริ่มทำงาน, วิซาร์ด VeraCrypt จะเปิดตัวอัตโนมัติ.\n\nหมายเหตุ: ถ้าคุณเลือกที่จะยุติกระบวนการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อนตอนนี้, คุณจะไม่สามารถกลับมากระบวนการและระบบที่ถูกแอบซ่อนจะไม่สามารถเข้าถึงได้ (เพราะโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt จะถูกลบออก). คุณได้กำหนดเวลาสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน. กระบวนการยังไม่เสร็จสมบูรณ์. เพื่อทำให้เสร็จสิ้น, คุณต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และ, ในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt (ที่ปรากฏก่อน Windows จะเริ่ม), ป้อนรหัสผ่านสำหรับระบบที่ถูกแอบซ่อน.\n\nหมายเหตุ: ถ้าคุณเลือกที่จะยุติกระบวนการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อนตอนนี้, คุณจะไม่สามารถกลับมากระบวนการอีก. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และดำเนินการต่อ ยุติกระบวนการสร้างระบบที่ถูกแอบซ่อนอย่างถาวร ไม่ทำอะไรตอนนี้และถามอีกครั้งภายหลัง \nถ้าเป็นไปได้, กรุณาพิมพ์ข้อความนี้ (คลิก 'พิมพ์' ด้านล่าง).\n\n\nวิธีการและเมื่อใช้ดิสก์กู้คืน VeraCrypt (หลังจากการเข้ารหัส)\n--------------------------------------------------------------------------------\n\n I. วิธีการบูทดิสก์กู้คืน VeraCrypt\n\nเพื่อบูทดิสก์กู้คืน VeraCrypt, ใส่มันลงในไดรฟ์ CD/DVD ของคุณและรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ. ถ้าหน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt ไม่ปรากฏ (หรือถ้าคุณไม่เห็นตัวเลือก 'ซ่อมแซม' ในส่วน 'การควบคุมแป้นพิมพ์' ของหน้าจอ), อาจเป็นไปได้ว่า BIOS ของคุณถูกกำหนดให้พยายามบูทจากฮาร์ดไดรฟ์ก่อน CD/DVD ไดรฟ์. ถ้าเป็นกรณีนั้น, รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์, กด F2 หรือ Delete (ทันทีที่คุณเห็นหน้าจอการเริ่มต้น BIOS), และรอจนเกิดหน้าจอการตั้งค่า BIOS. ถ้าไม่มีหน้าจอการตั้งค่า BIOS ปรากฏขึ้น, รีเซ็ต (รีสตาร์ท) คอมพิวเตอร์ใหม่และเริ่มกดปุ่ม F2 หรือ Delete ซ้ำๆ ทันทีที่คุณรีเซ็ต (รีสตาร์ท) คอมพิวเตอร์. เมื่อหน้าจอการตั้งค่า BIOS ปรากฏขึ้น, กำหนดค่า BIOS ของคุณให้บูทจากไดรฟ์ CD/DVD ก่อน (สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำเช่นนี้, โปรดดูเอกสารประกอบของ BIOS/เมนบอร์ดของคุณหรือติดต่อทีมสนับสนุนเทคนิคของผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ของคุณสำหรับความช่วยเหลือ). จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ. หน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะควรปรากฏในขณะนี้. หมายเหตุ: ในหน้าจอดิสก์กู้คืน VeraCrypt, คุณสามารถเลือก 'ซ่อมแซม' โดยกดปุ่ม F8 บนแป้นพิมพ์ของคุณ.\n\n\n II. เมื่อและวิธีใช้ดิสก์กู้คืน VeraCrypt (หลังจากการเข้ารหัส)\n\n 1) ถ้าหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ไม่ปรากฏหลังจากที่คุณเริ่มต้นคอมพิวเตอร์ (หรือถ้า Windows ไม่บูท), โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt อาจเสียหาย. ดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะอนุญาตให้คุณกู้คืนมันและทำให้สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลของคุณที่เข้ารหัสได้ (อย่างไรก็ตาม, คุณจะยังต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องในตอนนั้น). ในหน้าจอดิสก์กู้คืน, เลือก 'ซ่อมแซม' > 'กู้คืนโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt'. จากนั้นกด 'Y' เพื่อยืนยันการกระทำ, ถอดดิสก์กู้คืนจากไดรฟ์ CD/DVD และรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ.\n\n 2) ถ้าคุณป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องซ้ำ ๆ แต่ VeraCrypt บอกว่ารหัสผ่านไม่ถูกต้อง, คีย์หลักหรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ อาจเสียหาย. ดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะอนุญาตให้คุณกู้คืนข้อมูลเหล่านี้และทำให้สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลของคุณที่เข้ารหัสได้ (อย่างไรก็ตาม, คุณจะยังต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องในตอนนั้น). ในหน้าจอดิสก์กู้คืน, เลือก 'ซ่อมแซม' > 'กู้คืนข้อมูลคีย์'. จากนั้นป้อนรหัสผ่านของคุณ, กด 'Y' เพื่อยืนยันการกระทำ, ถอดดิสก์กู้คืนจากไดรฟ์ CD/DVD ของคุณ, และรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ.\n\n 3) ถ้าโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt เสียหาย, คุณสามารถหลีกเลี่ยงการใช้งานมันโดยการบูทจากดิสก์กู้คืน VeraCrypt โดยตรง. ใส่ดิสก์กู้คืนของคุณลงในไดรฟ์ CD/DVD และจากนั้นป้อนรหัสผ่านของคุณในหน้าจอดิสก์กู้คืน.\n\n 4) ถ้า Windows เสียหายและไม่สามารถเริ่มต้นได้, ดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะอนุญาตให้คุณถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์อย่างถาวรก่อนที่ Windows จะเริ่ม. ในหน้าจอดิสก์กู้คืน, เลือก 'ซ่อมแซม' > 'ถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบอย่างถาวร'. ป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องและรอจนกว่าการถอดรหัสจะเสร็จสิ้น. จากนั้นคุณสามารถ, เช่น, บูทแผ่นติดตั้ง MS Windows ของคุณเพื่อซ่อมแซมการติดตั้ง Windows ของคุณ.\n\n หมายเหตุ: ทางเลือกอื่น, ถ้า Windows เสียหาย (ไม่สามารถเริ่ม) และคุณต้องการซ่อมแซมหรือเข้าถึงไฟล์ของมัน, คุณสามารถหลีกเลี่ยงการถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้: ถ้าคุณมีหลายระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ, บูทระบบที่ไม่ต้องการการรับรองก่อนบูท. ถ้าคุณไม่มีหลายระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ, คุณสามารถบูทแผ่น WinPE หรือ BartPE CD/DVD หรือคุณสามารถเชื่อมต่อไดรฟ์ระบบของคุณเป็นไดรฟ์รองหรือไดรฟ์ภายนอกไปยังคอมพิวเตอร์อื่นและจากนั้นบูทระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์นั้น. หลังจากที่คุณบูทระบบ, เปิด VeraCrypt, คลิก 'เลือกอุปกรณ์', เลือกพาร์ติชันระบบที่ติดผลกระทบ, คลิก 'OK', เลือก 'System' > 'Mount Without Pre-Boot Authentication', ป้อนรหัสผ่านการรับรองก่อนบูทของคุณและคลิก 'OK'. พาร์ติชันจะถูกติดตั้งเป็นปริมาณ VeraCrypt ปกติ (ข้อมูลจะถูกถอดรหัส/เข้ารหัสใน RAM ขณะเข้าถึงตามปกติ). โปรดทราบว่าแม้ว่าคุณจะสูญเสียดิสก์กู้คืน VeraCrypt และมีผู้โจมตีพบมัน, เขาหรือเธอจะไม่สามารถถอดรหัสพาร์ติชันหรือไดรฟ์ระบบได้โดยไม่มีรหัสผ่านที่ถูกต้อง. \n\nสิ่งสำคัญ -- กรุณาพิมพ์ข้อความนี้ถ้าเป็นไปได้ (คลิก 'พิมพ์' ด้านล่าง).\n\n\nหมายเหตุ: ข้อความนี้จะแสดงอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณเริ่มระบบที่ถูกแอบซ่อนไปจนกว่าคุณจะเริ่มสร้างระบบเลียนแบบ.\n\n\n วิธีสร้างระบบเลียนแบบอย่างปลอดภัยและมั่นคง\n---------------------------------------------------------------\n\nเพื่อให้ได้ความสามารถในการปฏิเสธปกติ, คุณต้องสร้างระบบปฏิบัติการเลียนแบบตอนนี้. ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n\n 1) เพื่อความปลอดภัย, ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณและปล่อยให้มันปิดไว้อย่างน้อยหลายนาที (ยิ่งนานยิ่งดี). นี่เป็นสิ่งจำเป็นในการล้างหน่วยความจำ, ที่มีข้อมูลอ่อนไหวอยู่. จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์แต่ไม่บูทระบบที่ถูกแอบซ่อน.\n\n 2) ติดตั้ง Windows บนพาร์ติชันที่เนื้อหาได้ถูกลบออกแล้ว (เช่นบนพาร์ติชันที่ระบบเดิม, ซึ่งระบบที่ถูกแอบซ่อนได้ถูกโคลนมา, ติดตั้งอยู่).\n\nสิ่งสำคัญ: เมื่อคุณเริ่มการติดตั้งระบบเลียนแบบ, ระบบที่ถูกแอบซ่อนไม่สามารถบูทได้ (เพราะโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt จะถูกลบโดยโปรแกรมติดตั้งระบบ Windows). นี่เป็นเรื่องปกติและคาดหวังได้. อย่าตื่นตระหนก. คุณจะสามารถบูทระบบที่ถูกแอบซ่อนไปได้อีกครั้งทันทีที่คุณเริ่มเข้ารหัสระบบเลียนแบบ (เพราะ VeraCrypt จะติดตั้งโปรแกรมโหลดบูทใหม่ลงในไดรฟ์ระบบอัตโนมัติ).\n\nสิ่งสำคัญ: ขนาดของพาร์ติชันระบบเลียนแบบต้องคงเดิมเท่ากับขนาดของปริมาณที่ถูกแอบซ่อน (สภาพนี้เป็นไปตามตอนนี้). นอกจากนี้, คุณต้องไม่สร้างพาร์ติชันใดๆ ระหว่างพาร์ติชันระบบเลียนแบบและพาร์ติชันที่ระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนอยู่.\n\n 3) บูทเข้าสู่ระบบเลียนแบบ (ที่คุณติดตั้งในขั้นตอนที่ 2 และติดตั้ง VeraCrypt บนมัน).\n\nโปรดทราบว่าระบบเลียนแบบต้องไม่ประกอบด้วยข้อมูลอ่อนไหวใดๆ.\n\n 4) ในระบบเลียนแบบ, รัน VeraCrypt แล้วเลือก 'System' > 'Encrypt System Partition/Drive'. หน้าต่างสร้าง Volume VeraCrypt จะปรากฏขึ้น.\n\nขั้นตอนต่อไปนี้ใช้กับหน้าต่างสร้าง Volume VeraCrypt.\n\n 5) ในหน้าต่างสร้าง Volume VeraCrypt, อย่าเลือกตัวเลือก 'Hidden'. ปล่อยตัวเลือก 'Normal' และคลิก 'Next'.\n\n 6) เลือกตัวเลือก 'Encrypt the Windows system partition' แล้วคลิก 'Next'.\n\n 7) ถ้ามีเพียงระบบที่ถูกแอบซ่อนและระบบเลียนแบบติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์, เลือกตัวเลือก 'Single-boot' (ถ้ามีระบบอื่นๆ มากกว่า 2 ระบบติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์, เลือก 'Multi-boot'). จากนั้นคลิก 'Next' .\n\n 8) สิ่งสำคัญ: ในขั้นตอนนี้, สำหรับระบบเลียนแบบ, คุณต้องเลือกอัลกอริธึมการเข้ารหัสและอัลกอริธึมการแฮชเดียวกันกับที่คุณเลือกสำหรับระบบที่ถูกแอบซ่อน! มิฉะนั้น, ระบบที่ถูกแอบซ่อนไปจะไม่สามารถเข้าถึงได้! กล่าวคือ, ระบบเลียนแบบต้องถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอริธึมการเข้ารหัสเดียวกันกับระบบที่ถูกแอบซ่อนไป. หมายเหตุ: เหตุผลคือระบบเลียนแบบและระบบที่ถูกแอบซ่อนจะใช้โปรแกรมโหลดบูทร่วมกัน, ซึ่งรองรับเฉพาะอัลกอริธึมเดียว, ที่เลือกโดยผู้ใช้ (สำหรับแต่ละอัลกอริธึม, มีเวอร์ชันพิเศษของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt). 9) ในขั้นตอนนี้, เลือกรหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการเลียนแบบ. นี่จะเป็นรหัสผ่านที่คุณสามารถเปิดเผยให้กับคู่แข็งได้หากคุณถูกบังคับหรือบอกให้เปิดเผยรหัสผ่านการรับรองก่อนบูท (อีกหนึ่งรหัสผ่านที่คุณสามารถเปิดเผยคือสำหรับปริมาณภายนอก). การมีอยู่ของรหัสผ่านที่สาม (คือรหัสผ่านการรับรองก่อนบูทสำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป) จะยังคงเป็นความลับ.\n\nสิ่งสำคัญ: รหัสผ่านที่คุณเลือกสำหรับระบบเลียนแบบต้องแตกต่างอย่างมากจากที่คุณเลือกสำหรับปริมาณที่ถูกแอบซ่อน (คือสำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป).\n\n 10) ทำตามคำแนะนำที่เหลือในวิซาร์ดเพื่อเข้ารหัสระบบปฏิบัติการเลียนแบบ.\n\n\n\n หลังจากที่ระบบเลียนแบบถูกสร้าง\n------------------------------------------------\n\nหลังจากที่คุณเข้ารหัสระบบเลียนแบบ, กระบวนการสร้างระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนทั้งหมดจะสำเร็จและคุณจะสามารถใช้รหัสผ่านทั้งสามตัวนี้ได้:\n\n1) รหัสผ่านการรับรองก่อนบูทสำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน.\n\n2) รหัสผ่านการรับรองก่อนบูทสำหรับระบบปฏิบัติการเลียนแบบ.\n\n3) รหัสผ่านสำหรับปริมาณภายนอก.\n\n หากคุณต้องการเริ่มระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อน, คุณจะต้องป้อนรหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt (ซึ่งปรากฏหลังจากที่คุณเปิดหรือรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ).\n\nหากคุณต้องการเริ่มระบบปฏิบัติการเลียนแบบ, คุณจะต้องป้อนรหัสผ่านสำหรับระบบปฏิบัติการเลียนแบบในหน้าจอโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt.\n\nรหัสผ่านสำหรับระบบเลียนแบบสามารถเปิดเผยให้ใครก็ตามที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านการรับรองก่อนบูท. การมีอยู่ของปริมาณที่ถูกแอบซ่อนไป (และของระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป) จะยังคงเป็นความลับ.\n\n รหัสผ่านที่สาม (สำหรับปริมาณภายนอก) สามารถเปิดเผยให้ใครก็ตามที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับพาร์ติชันแรกที่อยู่ด้านหลังพาร์ติชันระบบ, ที่ที่ปริมาณภายนอกและซ่อน (มีระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป) อยู่. การมีอยู่ของปริมาณที่ถูกแอบซ่อนไป (และของระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป) จะยังคงเป็นความลับ.\n\n หากคุณเปิดเผยรหัสผ่านสำหรับระบบเลียนแบบให้กับคู่แข็งและเขาถามว่าทำไมพื้นที่ว่างของพาร์ติชันระบบ (เลียนแบบ) มีข้อมูลสุ่ม, คุณสามารถตอบ, ตัวอย่างเช่น: "พาร์ติชันเคยมีระบบที่ถูกเข้ารหัสโดย VeraCrypt, แต่ฉันลืมรหัสผ่านการการรับรองก่อนบูท (หรือระบบเสียหายและหยุดบูท), ดังนั้นฉันต้องติดตั้ง Windows และเข้ารหัสพาร์ติชันใหม่อีกครั้ง."\n\n\n หากปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมดและหากปฏิบัติตามข้อควรระวังและข้อกำหนดที่ระบุในหมวด "ข้อกำหนดและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับห้วงแอบซ่อน" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt, ควรเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ว่ามีปริมาณที่ถูกแอบซ่อนไปและระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไป แม้แต่เมื่ปริมาณภายนอกถูกติดตั้งหรือเมื่อระบบปฏิบัติการเลียนแบบถูกถอดรหัสหรืเริ่มทำงาน. หากคุณบันทึกสำเนาของข้อความนี้หรือพิมพ์มัน (แนะนำอย่างยิ่ง, เว้นแต่ว่าปริ้นเตอร์ของท่านเก็บสำเนาของเอกสารที่พิมพ์ลงในฮาร์ดไดรฟ์ภายใน), คุณควรทำลายสำเนาดังกล่าวหลังจากคุณสร้างระบบเลียนแบบแล้ว และหลังจากคุณเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในข้อความ (มิฉะนั้น, หากพบสำเนาดังกล่าว, อาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนบนคอมพิวเตอร์นี้).\n\n คำเตือน: ถ้าคุณไม่ป้องกันปริมาณที่ถูกแอบซ่อน (สำหรับข้อมูลว่าในการป้องกันมัน, โปรดดูที่หมวด "การป้องกันปริมาณที่ถูกแอบซ่อนจากความเสียหาย" ในคู่มือผู้ใช้ VeraCrypt), อย่าเขียนไปยังปริมาณภายนอก (โปรดทราบว่าระบบปฏิบัติการเลียนแบบไม่ได้ติดตั้งในปริมาณภายนอก). มิฉะนั้น, คุณอาจเขียนทับและทำลายปริมาณที่ถูกแอบซ่อนไป (และระบบปฏิบัติการที่ถูกแอบซ่อนไปที่อยู่ในนั้น)! การโคลนนิ่งระบบปฏิบัติการ ในขั้นตอนถัดไป, VeraCrypt จะสร้างระบบปฏิบัติการที่ซ่อนโดยการคัดลอกเนื้อหาของพาร์ติชันระบบไปยังปริมาณที่ซ่อน (ข้อมูลที่ถูกคัดลอกจะถูกเข้ารหัสทันทีโดยใช้คีย์เข้ารหัสที่แตกต่างจากที่ใช้กับระบบปฏิบัติการเลียนแบบ).\n\nโปรดทราบว่ากระบวนการจะถูกดำเนินการในสภาพแวดล้อมก่อนบูท (ก่อนที่ Windows จะเริ่มทำงาน) และอาจใช้เวลานานในการเสร็จสิ้น; หลายชั่วโมงหรือแม้กระทั่งหลายวัน (ขึ้นอยู่กับขนาดของพาร์ติชันระบบและสมรรถนะของคอมพิวเตอร์ของคุณ).\n\nคุณจะสามารถขัดจังหวะกระบวนการ, ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ, เริ่มระบบปฏิบัติการใหม่และจากนั้นกลับมากระบวนการ. อย่างไรก็ตาม, หากคุณขัดจังหวะมัน, กระบวนการทั้งหมดของการคัดลอกระบบจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น (เนื่องจากเนื้อหาของพาร์ติชันระบบต้องไม่เปลี่ยนแปลงในระหว่างการโคลนนิ่ง). คุณต้องการยกเลิกกระบวนการสร้างระบบปฏิบัติการที่ซ่อนทั้งหมดหรือไม่?\n\nหมายเหตุ: คุณจะไม่สามารถกลับมากระบวนการได้หากคุณยกเลิกตอนนี้. คุณต้องการยกเลิกการทดสอบเข้ารหัสระบบก่อนหรือไม่? การทดสอบเข้ารหัสระบบ VeraCrypt ล้มเหลว. คุณต้องการลองอีกครั้งไหม?\n\nถ้าคุณเลือก 'ไม่', ส่วนประกอบการรับรองก่อนบูทจะถูกถอนการติดตั้ง.\n\nหมายเหตุ:\n\n- ถ้าบูทโหลดเดอร์ VeraCrypt ไม่ขอให้คุณป้อนรหัสผ่านก่อนที่ Windows จะเริ่มทำงาน, เป็นไปได้ว่าระบบปฏิบัติการของคุณไม่ได้บูทจากไดรฟ์ที่ติดตั้ง. นี้ไม่รองรับ.\n\n- ถ้าคุณใช้อัลกอริธึมการเข้ารหัสที่ไม่ใช่ AES และการทดสอบล้มเหลว (และคุณป้อนรหัสผ่าน), อาจเกิดจากไดรเวอร์ที่ออกแบบไม่ดี. เลือก 'ไม่', และลองเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบอีกครั้ง, แต่ใช้ AES ซึ่งมีความต้องการหน่วยความจำต่ำสุด.\n\n- สำหรับสาเหตุและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติม, ดูที่: https://www.veracrypt.fr/en/Troubleshooting.html พาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบดูเหมือนไม่ได้เข้ารหัส (ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งหมด). พาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบของคุณถูกเข้ารหัส (บางส่วนหรือทั้งหมด).\n\nกรุณาถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบของคุณทั้งหมดก่อนดำเนินการต่อ. ทำได้โดยเลือก 'System' > 'Permanently Decrypt System Partition/Drive' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลัก VeraCrypt. เมื่อพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบถูกเข้ารหัส (บางส่วนหรือทั้งหมด), คุณไม่สามารถลดเวอร์ชัน VeraCrypt (แต่คุณสามารถอัปเกรดหรือติดตั้งเวอร์ชันเดียวกันใหม่ได้). พาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบของคุณกำลังถูกเข้ารหัส, ถอดรหัส, หรือปรับเปลี่ยน. กรุณาหยุดกระบวนการเข้ารหัส/ถอดรหัส/ปรับเปลี่ยนก่อนดำเนินการต่อ (หรือรอจนกระบวนการเสร็จสมบูรณ์). วิซาร์ดสร้าง Volume VeraCrypt ขณะนี้กำลังทำงานในระบบนี้และใส่การเข้ารหัส/ถอดรหัสหรือเตรียมการสำหรับพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบ. ก่อนที่คุณจะดำเนินการต่อ, กรุณารอให้มันเสร็จสิ้นหรือปิดมัน. หากคุณไม่สามารถปิดมันได้, กรุณารีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณก่อนดำเนินการต่อ. กระบวนการเข้ารหัสหรือถอดรหัสของพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบยังไม่เสร็จสมบูรณ์. กรุณารอจนกระบวนการเสร็จสิ้นก่อนดำเนินการต่อ. ข้อผิดพลาด: กระบวนการเข้ารหัสของพาร์ติชัน/ไดรฟ์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์. ต้องเสร็จสมบูรณ์ก่อน. ข้อผิดพลาด: กระบวนการเข้ารหัสหรือถอดรหัสของพาร์ติชัน/ปริมาณยังไม่เสร็จสมบูรณ์. ต้องเสร็จสมบูรณ์ก่อน.\n\nหมายเหตุ: เพื่อต่อกระบวนการ, เลือก 'Volumes' > 'Resume Interrupted Process' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลัก VeraCrypt. รหัสผ่านถูกต้อง, VeraCrypt ได้ถอดรหัสหัวปริมาณและตรวจพบว่าปริมาณนี้เป็นปริมาณระบบซ่อน. อย่างไรก็ตาม, คุณไม่สามารถปรับเปลี่ยนหัวปริมาณของปริมาณระบบซ่อนวิธีนี้ได้.\n\nเพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านของปริมาณระบบซ่อน, บูทระบบปฏิบัติการที่อยู่ในปริมาณซ่อน, แล้วเลือก 'System' > 'Change Password' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลัก VeraCrypt.\n\nเพื่อกำหนดอัลกอริทึมการส่งผ่านคีย์หัว, บูทระบบปฏิบัติการที่ซ่อนและจากนั้นเลือก 'System' > 'Set Header Key Derivation Algorithm'. VeraCrypt ไม่รองรับการถอดรหัสปริมาณในที่ของพาร์ติชันระบบที่ซ่อน.\n\nหมายเหตุ: ถ้าคุณต้องการถอดรหัสพาร์ติชันระบบเลียนแบบ, บูทระบบเลียนแบบ, และจากนั้นเลือก 'System' > 'Permanently Decrypt System Partition/Drive' จากแถบเมนูของหน้าต่างหลัก VeraCrypt. ข้อผิดพลาด: พารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง/ไม่ถูกต้อง. คุณได้เลือกพาร์ติชันหรืออุปกรณ์แต่โหมดวิซาร์ดที่คุณเลือกนั้นเหมาะสำหรับตัวเก็บไฟล์อย่างเดียว.\n\nคุณต้องการเปลี่ยนโหมดวิซาร์ดหรือไม่? คุณต้องการสร้างตัวเก็บไฟล์ VeraCrypt หรือไม่? คุณได้เลือกพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบ (หรือพาร์ติชันบูท), แต่โหมดวิซาร์ดที่คุณเลือกเหมาะสำหรับพาร์ติชัน/ไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบเท่านั้น.\n\nคุณต้องการตั้งค่าการรับรองก่อนบูท (ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องป้อนรหัสผ่านของคุณทุกครั้งก่อนที่ Windows จะบูท/เริ่ม) และเข้ารหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบหรือไม่? คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบอย่างถาวร? คำเตือน: ถ้าคุณถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบอย่างถาวร, ข้อมูลที่ไม่เข้ารหัสจะถูกเขียนลงไป.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบอย่างถาวร? คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการถอดรหัสปริมาณต่อไปนี้อย่างถาวร? คำเตือน: ถ้าคุณถอดรหัสปริมาณ VeraCrypt อย่างถาวร, ข้อมูลที่ไม่เข้ารหัสจะถูกเขียนไปยังดิสก์.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการถอดรหัสปริมาณที่เลือกอย่างถาวร? คำเตือน: ถ้าคุณใช้การเข้ารหัสแบบต่อเนื่องสำหรับการเข้ารหัสระบบ, คุณอาจพบปัญหาต่อไปนี้:\n\n1) โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ขนาดใหญ่กว่าแบบปกติและดังนั้นจึงไม่มีพื้นที่เพียงพอในแทร็กแรกของไดรฟ์สำหรับข้อมูลสำรองของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt. ดังนั้น, ทันทีที่มันเสียหาย (ซึ่งมักเกิดขึ้น, ตัวอย่าง, ในระหว่างกระบวนการเปิดใช้งานต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ออกแบบไม่ดีของบางโปรแกรม), คุณจะต้องใช้ดิสก์กู้คืน VeraCrypt เพื่อบูทหรือซ่อมแซมโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt.\n\n2) ในคอมพิวเตอร์บางเครื่อง, การกลับมาจากสถานะพักตัวใช้เวลานาน.\n\nปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้สามารถป้องกันได้โดยการเลือกอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ไม่ใช่แบบต่อเนื่อง (เช่น AES).\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้การเข้ารหัสแบบต่อเนื่อง? ถ้าคุณพบปัญหาใด ๆ ที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้, ถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ (ถ้ามันถูกเข้ารหัส) และจากนั้นพยายามเข้ารหัสอีกครั้งโดยใช้อัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ไม่ใช่แบบต่อเนื่อง (เช่น AES). คำเตือน: เพื่อความปลอดภัยและความปลอดภัย, คุณควรอัปเดต VeraCrypt ในระบบปฏิบัติการเลียนแบบก่อนที่คุณจะอัปเดตมันในระบบปฏิบัติการที่ซ่อน.\n\nเพื่อทำเช่นนั้น, บูทระบบเลียนแบบและรันตัวติดตั้ง VeraCrypt จากภายในมัน. จากนั้นบูทระบบที่ซ่อนและรันตัวติดตั้งจากภายในมันเช่นกัน.\n\nหมายเหตุ: ระบบเลียนแบบและระบบที่ซ่อนใช้โปรแกรมโหลดบูทอันเดียวกัน. ถ้าคุณอัปเกรด VeraCrypt เฉพาะในระบบที่ซ่อน (แต่ไม่ในระบบเลียนแบบ), ระบบเลียนแบบจะมีไดรเวอร์ VeraCrypt และแอปพลิเคชัน VeraCrypt ที่มีหมายเลขเวอร์ชันต่างกันจากหมายเลขเวอร์ชันของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt. ความไม่สอดคล้องดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่ามีระบบปฏิบัติการที่ซ่อนบนคอมพิวเตอร์นี้.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? หมายเลขเวอร์ชันของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ที่บูทระบบปฏิบัติการนี้มีความแตกต่างจากหมายเลขเวอร์ชันของไดรเวอร์ VeraCrypt (และของแอปพลิเคชัน VeraCrypt) ที่ติดตั้งบนระบบนี้.\n\nคุณควรรันตัวติดตั้ง VeraCrypt (ที่มีหมายเลขเวอร์ชันเดียวกันกับโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) เพื่ออัปเดต VeraCrypt บนระบบปฏิบัติการนี้. หมายเลขเวอร์ชันของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ที่บูทระบบปฏิบัติการนี้มีความแตกต่างจากหมายเลขเวอร์ชันของไดรเวอร์ VeraCrypt (และของแอปพลิเคชัน VeraCrypt) ที่ติดตั้งบนระบบนี้. โปรดทราบว่าเวอร์ชันเก่าอาจมีบั๊กที่ได้รับการแก้ไขในเวอร์ชันใหม่.\n\nถ้าคุณไม่ได้บูทจากดิสก์กู้คืน VeraCrypt, คุณควรติดตั้ง VeraCrypt ใหม่หรือติดตั้งอัปเกรดไปยังเวอร์ชันล่าสุดที่เสถียร (โปรแกรมโหลดบูทจะถูกอัปเดตด้วย).\n\nถ้าคุณบูทจากดิสก์กู้คืน VeraCrypt, คุณควรอัปเดตมัน ('System' > 'Create Rescue Disk'). โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ได้รับการอัปเกรดแล้ว.\n\nขอแนะนำให้คุณสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ใหม่ (ซึ่งจะมีเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) โดยเลือก 'System' > 'Create Rescue Disk' หลังจากที่คุณรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ. โปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ได้รับการอัปเกรดแล้ว.\n\nขอแนะนำให้คุณบูทระบบปฏิบัติการเลียนแบบและสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ใหม่ (ซึ่งจะมีเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) โดยเลือก 'System' > 'Create Rescue Disk'. การอัปเกรดโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt ล้มเหลว. VeraCrypt ไม่สามารถตรวจจับขนาดจริงของไดรฟ์ระบบได้และ, ดังนั้น, จะใช้ขนาดที่รายงานโดยระบบปฏิบัติการ (ซึ่งอาจน้อยกว่าขนาดจริง). โปรดทราบว่านี่ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt. คำเตือน: ดูเหมือนว่า VeraCrypt พยายามตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อนบนไดรฟ์ระบบนี้แล้ว. ถ้าคุณพบปัญหาในระหว่างการตรวจจับก่อนหน้านี้, คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาโดยข้ามการตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อนตอนนี้. โปรดทราบว่าถ้าคุณทำเช่นนั้น, VeraCrypt จะใช้ขนาดที่รายงานโดยระบบปฏิบัติการ (ซึ่งอาจน้อยกว่าขนาดจริงของไดรฟ์).\n\nโปรดทราบว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt. ข้ามการตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อน (ใช้ขนาดที่รายงานโดยระบบปฏิบัติการ) ลองตรวจจับเซ็กเตอร์ที่ซ่อนอีกครั้ง ข้อผิดพลาด: เนื้อหาของเซ็กเตอร์หนึ่งหรือมากกว่านั้นบนดิสก์ไม่สามารถอ่านได้ (อาจเกิดจากข้อบกพร่องทางกายภาพ).\n\nกระบวนการเข้ารหัสในที่สามารถดำเนินการต่อได้เฉพาะเมื่อเซ็กเตอร์ถูกทำให้สามารถอ่านได้อีกครั้ง. VeraCrypt สามารถพยายามทำให้เซ็กเตอร์เหล่านี้สามารถอ่านได้โดยการเขียนศูนย์ไปยังเซ็กเตอร์เหล่านี้ (ซึ่งจะถูกเข้ารหัสในรูปแบบศูนย์ทั้งหมด). อย่างไรก็ตาม, โปรดทราบว่าข้อมูลที่เก็บไว้ในเซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้นั้นจะสูญหาย. ถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น, คุณสามารถพยายามกู้คืนส่วนที่เสียหายของข้อมูลที่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจากบุคคลที่สาม.\n\nโปรดทราบ: ในกรณีที่เซ็กเตอร์เสียหายทางกายภาพ (ตรงข้ามกับความเสียหายของข้อมูลและความผิดพลาดในการตรวจสอบค่าตรวจสอบ), อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมีแนวโน้มที่จะจัดการกับเซ็กเตอร์เหล่านี้ใหม่ภายในเมื่อพยายามเขียนข้อมูลโดยให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเซ็กเตอร์ที่เสียหายอาจจะไม่เข้ารหัสในไดรฟ์.\n\nคุณต้องการให้ VeraCrypt เขียนศูนย์ไปยังเซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้หรือไม่? ข้อผิดพลาด: เนื้อหาของเซ็กเตอร์หนึ่งหรือมากกว่านั้นบนดิสก์ไม่สามารถอ่านได้ (อาจเกิดจากข้อบกพร่องทางกายภาพ).\n\nเพื่อที่จะดำเนินการต่อด้วยการถอดรหัส, VeraCrypt จะต้องทิ้งเนื้อหาของเซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้ (เนื้อหาจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลสุ่มเทียม). โปรดทราบว่า, ก่อนดำเนินการต่อไป, คุณสามารถพยายามกู้คืนส่วนที่เสียหายของข้อมูลโดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจากบุคคลที่สาม.\n\nคุณต้องการให้ VeraCrypt ทิ้งข้อมูลในเซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้ตอนนี้หรือไม่? หมายเหตุ: VeraCrypt ได้แทนที่เนื้อหาของ %I64d เซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้ (%s) ด้วยบล็อกข้อความชัดที่เป็นศูนย์ทั้งหมดที่เข้ารหัส. หมายเหตุ: VeraCrypt ได้แทนที่เนื้อหาของ %I64d เซ็กเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านได้ (%s) ด้วยข้อมูลสุ่มเทียม. ป้อนรหัสผ่าน/รหัส PIN สำหรับโทเค็น '%s': เพื่อที่จะอนุญาตให้ VeraCrypt เข้าถึงโทเค็นรักษาความปลอดภัยหรือสมาร์ทการ์ด, คุณต้องติดตั้งไลบรารีซอฟต์แวร์ PKCS #11 สำหรับโทเค็นหรือสมาร์ทการ์ดก่อน. ไลบรารีเช่นนี้อาจจะแถมมากับอุปกรณ์หรือลงจากเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายหรือบุคคลที่สาม.\n\nหลังจากที่คุณติดตั้งไลบรารี, คุณสามารถเลือกมันด้วยตนเองโดยคลิก 'เลือกไลบรารี' หรือปล่อยให้ VeraCrypt หาและเลือกมันโดยอัตโนมัติโดยการคลิก 'ตรวจจับไลบรารีอัตโนมัติ' (เฉพาะไดเรกทอรีระบบ Windows จะถูกค้นหา). หมายเหตุ: สำหรับชื่อไฟล์และตำแหน่งของไลบรารี PKCS #11 ที่ติดตั้งสำหรับโทเค็นรักษาความปลอดภัยหรือสมาร์ทการ์ดของคุณ, โปรดดูเอกสารประกอบที่มาให้พร้อมกับโทเค็น, การ์ด, หรือซอฟต์แวร์บุคคลที่สาม.\n\nคลิก 'ตกลง' เพื่อเลือกเส้นทางและชื่อไฟล์. เพื่อที่จะอนุญาตให้ VeraCrypt เข้าถึงโทเค็นรักษาความปลอดภัยหรือสมาร์ทการ์ด, คุณต้องเลือกไลบรารีซอฟต์แวร์ PKCS #11 สำหรับโทเค็น/การ์ดก่อน. สำหรับเลือก, เลือก 'การตั้งค่า' > 'โทเค็นรักษาความปลอดภัย'. ไม่สามารถเริ่มต้นไลบรารีโทเค็นรักษาความปลอดภัย PKCS #11 ได้.\n\nโปรดตรวจสอบว่าเส้นทางและชื่อไฟล์ที่ระบุอ้างอิงถึงไลบรารี PKCS #11 ที่ถูกต้อง. สำหรับการเลือกเส้นทางและชื่อไฟล์ไลบรารี PKCS #11, เลือก 'การตั้งค่า' > 'โทเค็นรักษาความปลอดภัย'. ไม่พบไลบรารี PKCS #11 ในไดเรกทอรีระบบ Windows.\n\nโปรดตรวจสอบว่ามีการติดตั้งไลบรารี PKCS #11 สำหรับโทเค็นรักษาความปลอดภัยของคุณ (หรือสำหรับสมาร์ทการ์ดของคุณ) (ไลบรารีเช่นนี้อาจจะแถมมากับโทเค็น/การ์ดหรืออาจจะสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายหรือบุคคลที่สาม). ถ้ามันถูกติดตั้งในไดเรกทอรีที่ไม่ใช่ไดเรกทอรีระบบ Windows, คลิก 'เลือกไลบรารี' เพื่อระบุตำแหน่งไลบรารี (เช่นในโฟลเดอร์ที่ซอฟต์แวร์สำหรับโทเค็น/การ์ดถูกติดตั้ง). ไม่พบโทเค็นรักษาความปลอดภัยใด ๆ.\n\nโปรดตรวจสอบว่าโทเค็นรักษาความปลอดภัยของคุณเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณและไดรเวอร์อุปกรณ์ที่ถูกต้องสำหรับโทเค็นของคุณได้ติดตั้งแล้ว. ไม่พบโทเค็นคีย์ไฟล์รักษาความปลอดภัย. มีโทเค็นคีย์ไฟล์รักษาความปลอดภัยที่มีชื่อนี้อยู่แล้ว. คุณต้องการลบไฟล์ที่เลือกหรือไม่? เส้นทางของโทเค็นคีย์ไฟล์รักษาความปลอดภัยไม่ถูกต้อง. ข้อผิดพลาดโทเค็นรักษาความปลอดภัย รหัสผ่านสำหรับโทเค็นรักษาความปลอดภัยไม่ถูกต้อง. โทเค็นรักษาความปลอดภัยไม่มีหน่วยความจำ/เนื้อที่เพียงพอสำหรับการดำเนินการตามคำขอ.\n\nถ้าคุณพยายามนำเข้าคีย์ไฟล์, คุณควรเลือกไฟล์ที่เล็กกว่าหรือใช้คีย์ไฟล์ที่สร้างโดย VeraCrypt (เลือก 'เครื่องมือ' > 'ตัวสร้างคีย์ไฟล์'). เซสชันโทเค็นรักษาความปลอดภัยที่เปิดทั้งหมดถูกปิด. เลือกโทเค็นคีย์ไฟล์รักษาความปลอดภัย ช่อง ชื่อโทเค็น ชื่อไฟล์ สิ่งสำคัญ: โปรดทราบว่ารหัสผ่านการรับรองก่อนบูทจะถูกพิมพ์โดยใช้การเรียนลำดับแป้นพิมพ์แบบมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเสมอ. ดังนั้น, ปริมาณที่ใช้รหัสผ่านที่พิมพ์โดยใช้การเรียนลำดับแป้นพิมพ์อื่นอาจไม่สามารถติดตั้งได้โดยใช้รหัสผ่านการรับรองก่อนบูท (โปรดทราบว่านี่ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt). เพื่ออนุญาตให้ปริมาณดังกล่าวติดตั้งโดยใช้รหัสผ่านการรับรองก่อนบูท, ตามขั้นตอนต่อไปนี้:\n\n1) คลิก 'เลือกไฟล์' หรือ 'เลือกอุปกรณ์' และเลือกปริมาณ.\n2) เลือก 'Volumes' > 'Change Volume Password'.\n3) ป้อนรหัสผ่านปัจจุบันของปริมาณ.\n4) เปลี่ยนการเรียนลำดับแป้นพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา) โดยการคลิกไอคอนแถบภาษาในแถบงาน Windows แล้วเลือก 'EN English (United States)'.\n5) ใน VeraCrypt, ในช่องสำหรับรหัสผ่านใหม่, พิมพ์รหัสผ่านการรับรองก่อนบูท.\n6) ยืนยันรหัสผ่านใหม่โดยพิมพ์ซ้ำในช่องยืนยันและคลิก 'ตกลง'.\nคำเตือน: โปรดทราบว่าหากคุณตามขั้นตอนเหล่านี้, รหัสผ่านของปริมาณจะต้องพิมพ์โดยใช้การเรียนลำดับแป้นพิมพ์แบบมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเสมอ (ที่มีความมั่นใจโดยอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมก่อนบูทเท่านั้น). ปริมาณโปรดของระบบจะถูกติดตั้งโดยใช้รหัสผ่านการรับรองก่อนบูท. ถ้าปริมาณโปรดของระบบใดๆ ใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกัน, มันจะไม่ถูกติดตั้ง. โปรดทราบว่าถ้าคุณต้องการป้องกันการดำเนินการของปริมาณ VeraCrypt ปกติ (เช่น 'ถอดติดตั้งทั้งหมด', การถอดติดตั้งอัตโนมัติ, ฯลฯ) ไม่ให้มีผลต่อปริมาณโปรดของระบบ, คุณควรเปิดใช้งานตัวเลือก 'อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบเท่านั้นดูและถอดติดตั้งปริมาณโปรดของระบบใน VeraCrypt'. นอกจากนี้, เมื่อนำ VeraCrypt มาใช้โดยไม่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (ค่าเริ่มต้นใน Windows Vista และรุ่นใหม่กว่า), ปริมาณโปรดของระบบจะไม่แสดงในรายการตัวอักษรไดรฟ์ในหน้าต่างแอปพลิเคชันหลักของ VeraCrypt. สิ่งสำคัญ: โปรดทราบว่าถ้าตัวเลือกนี้เปิดใช้งานและ VeraCrypt ไม่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ, ปริมาณโปรดของระบบที่ติดตั้งจะไม่แสดงในหน้าต่างแอปพลิเคชัน VeraCrypt และมันไม่สามารถถูกถอดติดตั้งได้. ดังนั้น, ถ้าคุณต้องการ, เช่น ถอดติดตั้งปริมาณโปรดของระบบ, กรุณาคลิกขวาไอคอน VeraCrypt (ในเมนูเริ่ม) และเลือก 'เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ' ก่อน. ข้อจำกัดเดียวกันนี้ใช้กับฟังก์ชัน 'ถอดติดตั้งทั้งหมด', ฟังก์ชัน 'ถอดติดตั้งอัตโนมัติ', ปุ่มลัด 'ถอดติดตั้งทั้งหมด', ฯลฯ. โปรดทราบว่าการตั้งค่านี้จะมีผลหลังจากที่ระบบปฏิบัติการรีสตาร์ท. ข้อผิดพลาดในการวิเคราะห์บรรทัดคำสั่ง. ดิสก์กู้คืน เลือก &ไฟล์และติดตั้ง... เลือก &อุปกรณ์และติดตั้ง... อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบเท่านั้นดูและถอดติดตั้งปริมาณโปรดของระบบใน VeraCrypt ติดตั้งปริมาณโปรดของระบบเมื่อ Windows เริ่ม (ในขั้นตอนแรกในการเริ่มต้น) คำเตือน: ระบบไฟล์บนปริมาณที่ติดตั้งเป็น '%s' ถูกถอดติดตั้งไม่สะอาดและอาจมีความผิดพลาด. การใช้ระบบไฟล์ที่เสียหายอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้.\n\nหมายเหตุ: ก่อนที่คุณจะถอดหรือปิดอุปกรณ์ที่มีปริมาณ VeraCrypt ที่ติดตั้งอยู่, คุณควรถอดติดตั้งปริมาณ VeraCrypt ใน VeraCrypt ก่อนเสมอ.\n\n\nคุณต้องการให้ Windows พยายามตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาด (ถ้ามี) บนระบบไฟล์หรือไม่? คำเตือน: หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งปริมาณโปรดของระบบไม่ได้ถูกถอดติดตั้งอย่างสะอาดและอาจมีความผิดพลาดของระบบไฟล์. กรุณาดูบันทึกเหตุการณ์ระบบสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม.\n\nการใช้ระบบไฟล์ที่เสียหายอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้. คุณควรตรวจสอบปริมาณโปรดของระบบที่ได้รับผลกระทบสำหรับข้อผิดพลาด (คลิกขวาแต่ละอันใน VeraCrypt และเลือก 'ซ่อมแซมระบบไฟล์'). คำเตือน: การซ่อมแซมระบบไฟล์ที่เสียหายโดยใช้เครื่องมือ 'chkdsk ของ Microsoft อาจทำให้ไฟล์ในพื้นที่ที่เสียหายสูญหายได้. ดังนั้น, แนะนำให้คุณสำรองไฟล์ที่เก็บไว้บนปริมาณ VeraCrypt ไปยังปริมาณ VeraCrypt อื่นก่อน.\n\nคุณต้องการซ่อมแซมระบบไฟล์ตอนนี้หรือไม่? ปริมาณ '%s' ถูกติดตั้งในโหมดอ่านอย่างเดียวเพราะการเข้าถึงเพื่อเขียนถูกปฏิเสธ.\n\nโปรดตรวจสอบว่าการอนุญาตความปลอดภัยของตัวเก็บไฟล์อนุญาตให้คุณเขียนไปยังมัน (คลิกขวาที่ตัวเก็บและเลือกคุณสมบัติ > ความปลอดภัย).\n\nโปรดทราบว่า, เนื่องจากปัญหาของ Windows, คุณอาจเห็นคำเตือนนี้แม้ว่าคุณจะตั้งค่าการอนุญาตความปลอดภัยที่เหมาะสมแล้ว. นี่ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt. วิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้คือการย้ายตัวเก็บของคุณไปยัง, เช่น, โฟลเดอร์ 'เอกสาร' ของคุณ.\n\nถ้าคุณตั้งใจที่จะเก็บปริมาณของคุณเป็นโหมดอ่านอย่างเดียว, ให้ตั้งคุณลักษณะอ่านอย่างเดียวของตัวเก็บ (คลิกขวาที่ตัวเก็บแล้วเลือกคุณสมบัติ > อ่านอย่างเดียว), ซึ่งจะลบคำเตือนนี้ออก. ปริมาณ '%s' ถูกติดตั้งในโหมดอ่านอย่างเดียวเพราะการเข้าถึงเพื่อเขียนถูกปฏิเสธ.\n\nโปรดตรวจสอบว่าไม่มีโปรแกรมอื่นใด (เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส) ที่เข้าถึงพาร์ติชัน/อุปกรณ์ที่มีปริมาณอยู่. ปริมาณ '%s' ถูกติดตั้งในโหมดอ่านอย่างเดียวเพราะระบบปฏิบัติการรายงานว่าอุปกรณ์โฮสต์ถูกป้องกันการเขียน.\n\nโปรดทราบว่าไดรเวอร์ชิปเซ็ตกำหนดเองบางตัวถูกรายงานว่าอาจทำให้สื่อเขียนได้แสดงผลว่าถูกป้องกันการเขียน. ปัญหานี้ไม่ใช่เกิดจาก VeraCrypt. มันอาจแก้ไขได้โดยการอัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ชิปเซ็ตกำหนดเองใดๆ (ไม่ใช่ของ Microsoft) ที่ติดตั้งอยู่ในระบบนี้. โปรดทราบว่าเทคโนโลยี Hyper-Threading ให้แกนตรรกะหลายตัวต่อแกนทางกายภาพเดียว. เมื่อตั้งค่า Hyper-Threading, จำนวนที่เลือกด้านบนนั้นแทนด้วยจำนวนแกนตรรกะ/โปรเซสเซอร์. %d เธรด โปรดทราบว่าการเร่งความเร็ว AES แบบฮาร์ดแวร์ถูกปิดใช้งาน, ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการวัด (ประสิทธิภาพแย่ลง).\n\nเพื่อเปิดใช้งานการเร่งความเร็วแบบฮาร์ดแวร์, เลือก 'การตั้งค่า' > 'ประสิทธิภาพ' และเปิดใช้งานตัวเลือกที่สอดคล้องกัน. โปรดทราบว่าจำนวนเธรดในปัจจุบันถูกจำกัด, ซึ่งจะส่งผลต่อผลการวัดประสิทธิภาพ (ประสิทธิภาพแย่ลง).\n\nเพื่อใช้ศักยภาพทั้งหมดของโปรเซสเซอร์, เลือก 'การตั้งค่า' > 'ประสิทธิภาพ' และปิดใช้งานตัวเลือกที่สอดคล้องกัน. คุณต้องการให้ VeraCrypt พยายามปิดป้องกันการเขียนของพาร์ติชัน/ไดรฟ์หรือไม่? คำเตือน: การตั้งค่านี้อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้การตั้งค่านี้? คำเตือน: ปริมาณ VeraCrypt ถูกถอดติดตั้งอัตโนมัติ ก่อนที่คุณจะถอดหรือปิดอุปกรณ์ที่มีปริมาณที่ติดตั้งอยู่, คุณควรถอดติดตั้งปริมาณใน VeraCrypt ก่อนเสมอ.\n\nการถอดติดตั้งอัตโนมัติแบบที่ไม่ได้ตั้งใจมักเกิดจากสายเคเบิลที่ล้มเหลวเป็นระยะๆ, ไดรฟ์ (ตัวเรือน), ฯลฯ. ปริมาณนี้ถูกสร้างด้วย TrueCrypt %x.%x แต่ VeraCrypt สนับสนุนเฉพาะปริมาณ TrueCrypt ที่สร้างด้วย TrueCrypt เวอร์ชั่น 6.x/7.x series ทดสอบ ไฟล์คีย์ Backspace Tab Clear Enter Pause Caps Lock Spacebar Page Up Page Down End Home ลูกศรซ้าย ลูกศรขึ้น ลูกศรขวา ลูกศรลง ปุ่มเลือก ปุ่มพิมพ์ ปุ่มทำงาน พิมพ์ภาพหน้าจอ แทรก ลบ ปุ่มแอปพลิเคชัน นอนหลับ Num Lock Scroll Lock ย้อนกลับของ Browser ไปข้างหน้าของ Browser รีเฟรช Browser หยุด Browser ค้นหา Browser รายการโปรดของ Browser หน้าแรกของ Browser ปิดเสียง ลดระดับเสียง เพิ่มระดับเสียง แทร็กถัดไป แทร็กก่อนหน้า หยุดมีเดีย เล่น/หยุดชั่วคราวมีเดีย ปุ่มเริ่มจดหมาย ปุ่มเลือกมีเดีย แอปพลิเคชัน 1 แอปพลิเคชัน 2 ดึงดูดความสนใจ ล้างเลือก เลือกไปข้างหน้า เล่น ซูม แป้นเลข Shift Control Alt Win B KiB MiB GiB TiB PiB B/s KiB/s MiB/s GiB/s TiB/s PiB/s รวม &PIM เมื่อทำการแคชรหัสผ่านการรับรองก่อนบูท รวม PIM เมื่อทำการแคชรหัสผ่าน ทำให้ไดรฟ์เครือข่ายที่ไม่เชื่อมต่อสามารถติดตั้งได้ รหัสผ่านที่ป้อนไว้นั้นยาวเกินไป: การแสดงผลในรูปแบบ UTF-8 ของมันเกิน %d ไบต์. รหัสผ่านที่ป้อนไว้นั้นมีอักขระ Unicode ที่ไม่สามารถแปลงเป็น UTF-8 ได. ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถโหลดไลบรารีระบบ. ขนาดของไฟล์ปริมาณที่ระบุในบรรทัดคำสั่งไม่เข้ากับรูปแบบระบบไฟล์ exFAT ที่เลือก. การรวบรวมความแปรปรวนจากการเคลื่อนเมาส์ รหัสปริมาณ: รหัสปริมาณ ใช้รหัสปริมาณเพื่อติดตั้งเป็นโปรด ค่าของรหัสปริมาณไม่ถูกต้อง ไม่พบปริมาณที่มีรหัสที่ระบุในระบบ คัดลอกค่าสู่คลิปบอร์ด... ไม่ต้องขอ PIM ในหน้าจอรับรองบูท (ค่าของ PIM ถูกบันทึกไม่เข้ารหัสในดิสก์) คำเตือน: โปรดทราบว่าหากคุณเปิดใช้ตัวเลือกนี้, ค่าของ PIM จะถูกบันทึกไม่เข้ารหัสในดิสก์.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการเปิดใช้ตัวเลือกนี้? ตัวคูณการวนส่วนบุคคล (PIM) ค่าสูงสุดคือ 2147468. ข้ามการยืนยันดิสก์กู้คืน ไม่แสดงกล่องข้อความรอเมื่อดำเนินการ ไม่ต้องขออัลกอริธึมแฮชในหน้าจอรับรองบูท การเข้ารหัสบล็อก GOST ที่ถูกกำหนดในมาตรฐาน GOST 28147-89 ภายใต้ชื่อ Magma นั้นเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสแบบสมมาตรของรัฐบาลโซเวียตและรัสเซีย\n\nพัฒนาขึ้นในช่วงปี 1970 มาตรฐานนี้ถูกจัดเป็น "Top Secret" และจากนั้นถูกลดระดับเป็น "Secret" ในปี 1990 มันเป็นทางเลือกของโซเวียตต่ออัลกอริทึมมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา, DES Kuznyechik เป็นบล็อคไซเฟอร์ที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2015 และกำหนดไว้ในมาตรฐานแห่งชาติของสหพันธรัฐรัสเซีย GOST R 34.12-2015 และยังใน RFC 7801. คีย์ 256-บิต, บล็อก 128-บิต. โหมดการดำเนินการคือ XTS. ร่วมพัฒนาโดย Mitsubishi Electric และ NTT ของญี่ปุ่น. เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2000. คีย์ 256-บิต, บล็อก 128-บิต. โหมดการดำเนินการคือ XTS. ได้รับการอนุมัติให้ใช้โดย ISO/IEC, โครงการ NESSIE ของสหภาพยุโรป และโครงการ CRYPTREC ของญี่ปุ่น. เวลา การวนซ้ำ ก่อนบูท ก่อนที่คุณจะสามารถเข้ารหัสพาร์ติชัน, คุณต้องสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt (VRD), ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้:\n\n- หากโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt, คีย์หลัก หรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ถูกเสียหาย, VRD ให้คุณสามารถกู้คืนได้ (โปรดทราบว่า, คุณจะยังคงต้องป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องในตอนนั้น).\n\n- หาก Windows เสียหายและไม่สามารถเริ่มทำงานได้, VRD ให้คุณสามารถถอดรหัสพาร์ติชันอย่างถาวรก่อนที่ Windows จะเริ่ม.\n\n- VRD จะมีข้อมูลสำรองของโปรแกรมโหลดบูท EFI ปัจจุบันและให้คุณสามารถกู้คืนได้หากจำเป็น.\n\nภาพ ZIP ของดิสก์กู้คืน VeraCrypt จะถูกสร้างในตำแหน่งที่ระบุด้านล่าง. ภาพ ZIP ของดิสก์กู้คืนถูกสร้างและจัดเก็บในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณต้องคลี่ภาพไปยัง USB ที่ถูกฟอร์แมทเป็น FAT/FAT32.\n\n%ls หลังจากที่คุณสร้างดิสก์กู้คืน, คลิก Next เพื่อยืนยันว่ามันถูกสร้างอย่างถูกต้อง. ภาพ ZIP ของดิสก์กู้คืนถูกสร้างและจัดเก็บในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณควรคลี่ภาพไปยัง USB ที่ถูกฟอร์แมทเป็น FAT/FAT32 หรือย้ายมันไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในภายหลัง.\n\n%ls คลิก Next เพื่อดำเนินการต่อ. คำเตือน: โปรดทราบว่าไฟล์ zip จะต้องถูกคลี่โดยตรงไปยังรากของ USB. ตัวอย่าง, ถ้าตัวอักษรไดรฟ์ของ USB คือ E: การคลี่ไฟล์ zip ควรสร้างโฟลเดอร์ E:\\EFI บน USB.\n\n ไม่สามารถยืนยันได้ว่าดิสก์กู้คืนถูกคลี่อย่างถูกต้อง.\n\nถ้าคุณได้คลี่ดิสก์กู้คืน, กรุณาดึงและใส่ USB ใหม่; จากนั้นคลิก Next เพื่อพยายามอีกครั้ง. ถ้านี่ไม่ช่วย, กรุณาลอง USB อื่นและ/หรือซอฟต์แวร์ ZIP อื่น.\n\nถ้าคุณยังไม่ได้คลี่ดิสก์กู้คืน, กรุณาทำเช่นนั้น, และจากนั้นคลิก Next.\n\nถ้าคุณพยายามยืนยันดิสก์กู้คืน VeraCrypt ที่สร้างขึ้นก่อนที่คุณจะเริ่มวิซาร์ดนี้, โปรดทราบว่าดิสก์กู้คืนดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้, เพราะมันถูกสร้างขึ้นสำหรับคีย์หลักที่ต่างออกไป. คุณต้องคลี่ภาพ ZIP ของดิสก์กู้คืนที่สร้างใหม่. ไม่สามารถยืนยันได้ว่าดิสก์กู้คืนถูกคลี่อย่างถูกต้อง.\n\nถ้าคุณได้คลี่ภาพดิสก์กู้คืนไปยัง USB, กรุณาดึงออกแล้วใส่ใหม่; จากนั้นลองอีกครั้ง. ถ้านี่ไม่ช่วย, กรุณาลองซอฟต์แวร์ ZIP หรือสื่ออื่น.\n\nถ้าคุณพยายามยืนยันดิสก์กู้คืน VeraCrypt ที่สร้างขึ้นสำหรับคีย์หลัก, รหัสผ่าน, เกลือ, ฯลฯ ที่ต่างออกไป, โปรดทราบว่าดิสก์กู้คืนดังกล่าวจะล้มเหลวในการยืนยันนี้เสมอ. เพื่อสร้างดิสก์กู้คืนใหม่ที่เข้ากับการตั้งค่าของคุณในปัจจุบัน, เลือก 'System' > 'Create Rescue Disk'. ภาพดิสก์กู้คืนถูกสร้างและจัดเก็บในไฟล์นี้:\n%s\n\nตอนนี้คุณต้องคลี่ภาพดิสก์กู้ครืนไปยัง USB ที่ถูกฟอร์แมทเป็น FAT/FAT32.\n\nคำเตือน: โปรดทราบว่าไฟล์ zip จะต้องถูกคลี่โดยตรงไปยังรากของ USB. ตัวอย่าง, ถ้าตัวอักษรไดรฟ์ของ USB คือ E: การคลี่ไฟล์ ZIP ควรสร้างโฟลเดอร์ E:\\EFI บน USB.\n\nหลังจากที่คุณสร้างดิสก์กู้คืน, เลือก 'System' > 'Verify Rescue Disk' เพื่อยืนยันว่ามันถูกสร้างอย่างถูกต้อง. ใช้เดสก์ท็อปปลอดภัยสำหรับการป้อนรหัสผ่าน ขนาดของไฟล์ปริมาณที่ระบุในบรรทัดคำสั่งไม่เข้ากับรูปแบบระบบไฟล์ ReFS ที่เลือก แก้ไขการตั้งค่าการโหลดบูท แสดงข้อมูลแพลตฟอร์ม EFI ไฟล์การตั้งค่าการโหลดบูท ข้อมูลแพลตฟอร์ม EFI คำเตือน: ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์ไม่ควรพยายามแก้ไขการตั้งค่าโหลดบูทด้วยตนเอง.\n\nดำเนินการต่อ? คำเตือน: การตรวจสอบรูปแบบ XML ของการตั้งค่าการโหลดบูทล้มเหลว. โปรดตรวจสอบการแก้ไขของคุณ. ตัวเลือกขั้นสูง ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณสร้างดิสก์กู้คืน VeraCrypt ใหม่ (ซึ่งจะมีเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมโหลดบูท VeraCrypt) โดยเลือก 'System' > 'Create Rescue Disk'.\nคุณต้องการทำตอนนี้หรือไม่? อนุญาตคำสั่ง TRIM สำหรับพาร์ติชัน/ไดรฟ์ SSD ที่ไม่ใช่ระบบ บล็อกคำสั่ง TRIM บนพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบ ข้อผิดพลาด: โปรแกรมโหลดระบบ EFI ของ Windows ไม่สามารถพบได้ในดิสก์. การดำเนินการจะถูกยกเลิก. ขณะนี้ไม่สามารถเข้ารหัสระบบได้ถ้าเปิดใช้งาน SecureBoot และหากคีย์กำหนดเเองของ VeraCrypt ไม่ถูกโหลดเข้าสู่เฟิร์มแวร์ของเครื่อง. SecureBoot จำเป็นต้องปิดในการตั้งค่า BIOS เพื่อให้การเข้ารหัสระบบทำต่อได้. ข้อความที่วางถูกตัดทอนเพราะรหัสผ่านมีความยาวสูงสุด %d อักขระ รหัสผ่านถึงความยาวสูงสุดของ %d อักขระแล้ว.\nไม่สามารถป้อนอักขระเพิ่มเติมได้. เลือกภาษาที่จะใช้ระหว่างการติดตั้ง: ข้อผิดพลาด: ขนาดของไฟล์ปริมาณใหญ่กว่าพื้นที่ว่างที่มีบนดิสก์. อนุญาตให้ Windows Disk Defragmenter ให้รวบรวมพื้นที่ว่างเพิ่มของพาร์ติชัน/ไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบ คำเตือน: การรวบรวมพื้นที่ว่างเพิ่มของพาร์ติชัน/ไดรฟ์ที่ไม่ใช่ระบบอาจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาของพวกเขาหรือก่อให้เกิดปัญหากับปริมาณที่ซ่อนที่อาจมีในพวกเขา.\n\nดำเนินการต่อ? อุปกรณ์เสมือน ปริมาณที่ติดตั้งไว้ที่เลือกไม่เกี่ยวข้องกับตัวอักษรไดรฟ์ของมันใน Windows และไม่สามารถเปิดได้ใน Windows Explorer. ล้างคีย์การเข้ารหัสจากหน่วยความจำถ้ามีการเสียบอุปกรณ์ใหม่ หมายเหตุสำคัญ:\n - โปรดทราบว่าตัวเลือกนี้จะไม่คงอยูหลังจากปิด/รีสตาร์ทเครื่อง ดังนั้นคุณจะต้องเลือกมันอีกครั้งในครั้งต่อไปที่เครื่องถูกเปิด.\n\n - เมื่อเปิดใช้งานตัวเลือกนี้และเสียบอุปกรณ์ใหม่ เครื่องจะหยุดทำงานและจะเกิดคราช (BSOD) ในที่สุดเนื่องจาก Windows ไม่สามารถเข้าถึงดิสก์ที่เข้ารหัสได้หลังจากที่คีย์ถูกล้างจากหน่วยความจำ.\n กำลังเริ่ม ใช้ตัวสร้างตัวเลขสุ่มฮาร์ดแวร์ CPU เป็นแหล่งเพิ่มเติมของความแปรปรวน ใช้ความยาวรหัสผ่านสูงสุดแบบดั้งเดิม (64 อักขระ) เปิดการเข้ารหัสคีย์และรหัสผ่านที่เก็บใน RAM การเปรียบเทียบ: สร้างอุปกรณ์เสมือนอย่างเดียวโดยไม่ติดตั้งในตัวอักษรไดรฟ์ที่เลือก รหัสผ่านที่ป้อนไว้นั้นยาวเกินไป: การแสดงผลในรูปแบบ UTF-8 ของมันเกิน 64 ไบต์. ปริมาณที่ซ่อนไม่สามารถมีรหัสผ่าน, PIM และคีย์ไฟล์เดียวกันกับปริมาณภายนอก VeraCrypt ไม่รองรับการเข้ารหัสไดรฟ์ระบบที่ถูกเข้ารหัสด้วย BitLocker แล้ว. แก้ไขปัญหาการตั้งค่าบูทอัตโนมัติที่อาจป้องกันไม่ให้ Windows เริ่มต้น บังคับให้เครื่องบูทบน VeraCrypt ในการเริ่มต้นครั้งถัดไป บังคับให้มีการเข้าใช้งานของ VeraCrypt ในเมนูบูทเฟิร์มแวร์ EFI บังคับให้การเข้าใช้งาน VeraCrypt เป็นการเข้าครั้งแรกในเมนูบูทเฟิร์มแวร์ EFI คำเตือน: การเข้ารหัส RAM ไม่เข้ากันกับคุณสมบัติ Windows Hibernate และ Windows Fast Startup. VeraCrypt จำเป็นต้องปิดใช้งานคุณสมบัติเหล่านี้ก่อนเปิดใช้งานการเข้ารหัส RAM.\n\nดำเนินการต่อ? คำเตือน: เปิดใช้งาน Windows Fast Startup และเป็นที่รู้ว่ามันก่อให้เกิดปัญหาเมื่อทำงานกับปริมาณ VeraCrypt. แนะนำให้ปิดใช้งานเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ดีขึ้น.\n\nคุณต้องการปิดใช้งาน Windows Fast Startup หรือไม่? เพื่อให้ระบบปฏิบัติการของคุณสามารถติดตั้งปริมาณใหม่ของคุณได้, มันต้องถูกฟอร์แมทด้วยระบบไฟล์. โปรดเลือกประเภทระบบไฟล์.\n\nถ้าปริมาณของคุณจะถูกเก็บในอุปกรณ์หรือพาร์ติชัน, คุณสามารถใช้ 'การฟอร์แมทเร็ว' เพื่อข้ามการเข้ารหัสพื้นที่ว่างของปริมาณ. ไม่เร่งความเร็วการเข้ารหัส/ถอดรหัส AES โดยใช้คำสั่ง AES ของโปรเซสเซอร์ เพิ่มปริมาณที่ติดตั้งทั้งหมดไปยังโปรด... เมนูไอคอนงาน เปิดปริมาณที่ติดตั้ง ถอดติดตั้งปริมาณที่ติดตั้ง พื้นที่ว่างที่ใช้ได้: {0} โปรดระบุขนาดของตัวเก็บที่ต้องการสร้าง. โปรดทราบว่าขนาดขั้นต่ำที่เป็นไปได้ของปริมาณคือ 292 KiB. คำเตือน: คุณได้เลือกระบบไฟล์ที่ไม่ใช่ FAT สำหรับปริมาณภายนอก.\nโปรดทราบว่าในกรณีนี้ VeraCrypt ไม่สามารถคำนวณขนาดสูงสุดที่อนุญาตสำหรับปริมาณที่ซ่อนอย่างแม่นยำและมันจะใช้เพียงการประมาณที่อาจผิดได้.\nดังนั้น, เป็นความรับผิดชอบของคุณในการใช้ค่าที่เหมาะสมสำหรับขนาดของปริมาณที่ซ่อนเพื่อไม่ให้ซ้อนทับกับปริมาณภายนอก.\n\nคุณต้องการใช้ระบบไฟล์ที่เลือกสำหรับปริมาณภายนอกหรือไม่? ความปลอดภัย ตัวเลือกการติดตั้ง งานเบื้องหลัง การผสานระบบ ตัวสำรวจไฟล์ระบบ ประสิทธิภาพ คีย์ไฟล์ โทเค็นรักษาความปลอดภัย บริการเคอร์เนล ไม่ใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนล ระบบไฟล์ ตัวเลือกการติดตั้ง: การสนับสนุนข้ามแพลตฟอร์ม ฉันจะติดตั้งปริมาณบนแพลตฟอร์มอื่น เลือกตัวเลือกนี้ถ้าคุณต้องการใช้ปริมาณบนแพลตฟอร์มอื่น. ฉันจะติดตั้งปริมาณเฉพาะบน {0} เลือกตัวเลือกนี้ถ้าคุณไม่ต้องการใช้ปริมาณบนแพลตฟอร์มอื่น. ยกเลิกการเลือก ป้อนรหัสผ่านผู้ใช้หรือรหัสผ่านผู้ดูแลระบบของคุณ: ต้องการสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ VeraCrypt กำลังทำงานอยู่แล้ว. รหัสผ่านการเข้ารหัสระบบยาวเกิน {0} อักขระ. ติดตั้งพาร์ติชัน &โดยใช้การเข้ารหัสระบบ (การรับรองก่อนบูท) ไม่ติดตั้ง ติดตั้งที่ไดเร็กทอรี: เลือก... ถอดติดตั้งปริมาณทั้งหมดเมื่อ ระบบกำลังเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน การดำเนินการเมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ ปิดหน้าต่าง Explorer ทั้งหมดของปริมาณที่ถูกถอดติดตั้ง ปุ่มลัด ปุ่มลัดทั่วระบบ เล่นเสียงการแจ้งเตือนหลังจากติดตั้ง/ถอดติดตั้ง แสดงกล่องข้อความยืนยันหลังจากถอดติดตั้ง VeraCrypt หยุดทำงาน เปิดหน้าต่าง Finder สำหรับปริมาณที่ติดตั้งสำเร็จ โปรดทราบว่าการตั้งค่านี้จะมีผลเฉพาะถ้าการใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนลถูกปิด. การปิดการใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนลอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่? โปรดทราบว่าการปิดใช้งานตัวเลือกนี้อาจไม่มีผลกับปริมาณที่ติดตั้งโดยใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนล. โปรดทราบว่าปริมาณที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบันต้องถูกติดตั้งใหม่ก่อนที่พวกมันจะสามารถใช้การตั้งค่านี้ได้. เกิดข้อผิดพลาดไม่ทราบ. ยูทิลิตี้ดิสก์จะเปิดหลังจากที่คุณกด 'ตกลง'.\n\nโปรดเลือกปริมาณของคุณในหน้าต่างยูทิลิตี้ดิสก์และกดปุ่ม 'ตรวจสอบดิสก์' หรือ 'ซ่อมแซมดิสก์' ในหน้าความช่วยเหลือเบื้องต้น. ติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมด ข้อผิดพลาดขณะโหลดไฟล์การตั้งค้าที่อยู่ใน โปรดเลือกตัวอักษรไดรฟ์ที่ว่างจากรายการ. \n\nคุณต้องการแสดงข้อความนี้ครั้งต่อไปที่คุณติดตั้งปริมาณดังกล่าวหรือไม่? คำเตือน ข้อผิดพลาด คุณสมบัตินี้รองรับเฉพาะในโหมดข้อความเท่านั้น. พื้นที่ว่างบนไดรฟ์ {0}: คือ {1}. โปรดทราบว่าถ้าระบบปฏิบัติการของคุณไม่กำหนดไฟล์จากจุดเริ่มต้นของพื้นที่ว่าง, ขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้ของปริมาณที่ซ่อนอาจน้อยกว่าขนาดของพื้นที่ว่างบนปริมาณภายนอกอย่างมาก. นี่ไม่ใช่บั๊กใน VeraCrypt แต่เป็นข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการ. ขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้ของปริมาณที่ซ่อนสำหรับปริมาณนี้คือ {0}. เปิดปริมาณภายนอก ปริมาณภายนอกถูกสร้างและติดตั้งสำเร็จเป็น '{0}'. ในปริมาณนี้คุณควรตอนนี้คัดลอกไฟล์ที่ดูอ่อนไหวบางไฟล์ที่คุณจริงๆ ไม่ต้องการซ่อน. ไฟล์จะอยู่ที่นั่นสำหรับใครก็ตามที่บังคับให้คุณเปิดเผยรหัสผ่านของคุณ. คุณจะเปิดเผยเฉพาะรหัสผ่านสำหรับปริมาณภายนอกนี้, ไม่ใช่สำหรับที่ซ่อน. ไฟล์ที่คุณสนใจจริงจะถูกเก็บไว้ในปริมาณที่ซ่อนที่สร้างขึ้นในภายหลัง. เมื่อคุณคัดลอกเสร็จ, คลิกถัดไป. ไม่ถอดติดตั้งปริมาณ.\n\nหมายเหตุ: หลังจากที่คุณคลิกถัดไป, ปริมาณภายนอกจะถูกวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบขนาดของพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ถูกขัดขวางซึ่งจุดสิ้นสุดตรงกับจุดสิ้นสุดของปริมาณ. พื้นที่นี้จะรองรับปริมาณที่ซ่อน, ดังนั้นมันจะจำกัดขนาดสูงสุดที่เป็นไปได้ของมัน. กระบวนการนี้ทำให้แน่ใจได้ว่าไม่มีข้อมูลใดๆ บนปริมาณภายนอกถูกเขียนทับโดยปริมาณที่ซ่อน. ข้อผิดพลาด: คุณกำลังพยายามเข้ารหัสไดรฟ์ระบบ.\n\nVeraCrypt สามารถเข้ารหัสไดรฟ์ระบบได้เฉพาะภายใต้ Windows. ข้อผิดพลาด: คุณกำลังพยายามเข้ารหัสพาร์ติชันระบบ.\n\nVeraCrypt สามารถเข้ารหัสพาร์ติชันระบบได้เฉพาะภายใต้ Windows. คำเตือน: การฟอร์แมทอุปกรณ์จะทำลายข้อมูลทั้งหมดบนระบบไฟล์ '{0}'.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? ระบบไฟล์ของอุปกรณ์ที่เลือกถูกติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน กรุณาถอดติดตั้ง '{0}' ก่อนดำเนินการต่อ. ปริมาณที่ซ่อนไม่สามารถมีรหัสผ่าน, PIM และคีย์ไฟล์เดียวกันกับปริมาณภายนอก โปรดทราบว่าปริมาณจะไม่ได้ถูกฟอร์แมทด้วยระบบไฟล์ FAT และ, ดังนั้น, คุณอาจจะต้องติดตั้งไดรเวอร์ระบบไฟล์เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มอื่นเพื่อให้สามารถติดตั้งปริมาณได้. ข้อผิดพลาด: ปริมาณที่ซ่อนที่กำลังจะถูกสร้างมีขนาดใหญ่กว่า {0} TB ({1} GB).\n\nวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n- สร้างตัวเก็บ/พาร์ติชันที่มีขนาดเล็กกว่า {0} TB.\n - ใช้ไดรฟ์ที่มีเซ็กเตอร์ขนาด 4096-ไบต์เพื่อให้สามารถสร้างพาร์ติชัน/อุปกรณ์ที่มีปริมาณที่ซ่อนได้ถึง 16 TB .\n (ไม่รองรับโดยส่วนประกอบที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มนี้).\n ระบบของคุณใช้เวอร์ชันเก่าของเคอร์เนล Linux.\n\nเนื่องจากบั๊กในเคอร์เนล Linux, ระบบของคุณอาจหยุดตอบสนองเมื่อเขียนข้อมูลไปยังปริมาณ VeraCrypt. ปัญหานี้สามารถแก้ได้โดยการอัปเกรดเคอร์เนลเป็นเวอร์ชัน 2.6.24 หรือใหม่กว่า. ปริมาณ {0} ถูกถอดติดตั้งแล้ว. ปริมาณ {0} ถูกติดตั้งแล้ว. หน่วยความจำหมด. ไม่สามารถรับสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้ คำสั่ง {0} ส่งคืนข้อผิดพลาด {1}. ความช่วยเหลือบรรทัดคำสั่งของ VeraCrypt \n\nคำเตือน: มีไฟล์ที่ซ่อนอยู่ในเส้นทางคีย์ไฟล์. ถ้าคุณต้องการใช้พวกมันเป็นคีย์ไฟล์, โปรดลบจุดหน้าชื่อไฟล์ออก. ไฟล์ที่ซ่อนจะเห็นได้ถ้าเปิดใช้งานในตัวเลือกระบบ. ขนาดเซ็กเตอร์อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและขนาดเซ็กเตอร์ปริมาณ VC ไม่ตรงกัน การดำเนินการนี้ต้องดำเนินการเมื่อระบบที่ติดตั้งบนปริมาณกำลังทำงาน. ไม่มีข้อมูลเพียงพอ. การทดสอบบริการเข้ารหัสเคอร์เนลล้มเหลว. บริการเข้ารหัสของเคอร์เนลของคุณมีแนวโน้มว่าไม่สนับสนุนปริมาณที่ใหญ่กว่า 2 TB.\n\nวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n- อัปเกรดเคอร์เนล Linux เป็นเวอร์ชัน 2.6.33 หรือใหม่กว่า.\n- ปิดการใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนล (การตั้งค่า > การตั้งค่า > การผสานระบบ) หรือใช้ตัวเลือกการติดตั้ง 'nokernelcrypto' ในบรรทัดคำสั่ง. ไม่สามารถตั้งค่าอุปกรณ์ลูปได้. พารามิเตอร์ที่จำเป็นขาดหายไป. ข้อมูลปริมาณขาดหายไป. ต้องการจุดติดตั้ง. จุดติดตั้งมีการใช้งานแล้ว. ไม่ได้ระบุรหัสผ่านหรือคีย์ไฟล์. \n\nโปรดทราบว่ารหัสผ่านการรับรองก่อนบูทต้องถูกพิมพ์ในสภาพแวดล้อมก่อนบูทซึ่งไม่มีการเรียงลำดับแป้นพิมพ์ที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกา. ดังนั้น, รหัสผ่านการรับรองก่อนบูทต้องพิมพ์เสมอโดยใช้การเรียงลำดับแป้นพิมพ์มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา (มิฉะนั้น, รหัสผ่านจะถูกพิมพ์ผิดในหลายกรณี). อย่างไรก็ตาม, คุณไม่จำเป็นต้องมีแป้นพิมพ์ของสหรัฐอเมริกาจริง ๆ; คุณเพียงแค่ต้องเปลี่ยนการเรียงลำดับแป้นพิมพ์ในระบบปฏิบัติการของคุณ. \n\nโปรดทราบ: ถ้าคุณกำลังพยายามติดตั้งพาร์ติชันที่ตั้งอยู่ในไดรฟ์ระบบที่เข้ารหัสโดยไม่มีการรับรองก่อนบูทหรือเพื่อการเข้ารหัสพาร์ติชันระบบของระบบปฏิบัติการที่ไม่ทำงาน, คุณสามารถทำได้โดยเลือก 'ตัวเลือก >' > 'ติดตั้งพาร์ติชันโดยใช้การเข้ารหัสระบบ'. รหัสผ่านยาวเกิน {0} อักขระ. ต้องการอุปกรณ์พาร์ติชัน. รหัสผ่านที่ไม่ถูกต้องสำหรับปริมาณที่ซ่อนที่ปกป้องหรือปริมาณที่ซ่อนไม่มีอยู่. คีย์ไฟล์และ/หรือรหัสผ่านไม่ถูกต้องสำหรับปริมาณที่ซ่อนที่ปกป้องหรือปริมาณที่ซ่อนไม่มีอยู่. พบอักขระที่ไม่ถูกต้อง. ข้อผิดพลาดในการวิเคราะห์สตริงที่จัดรูปแบบ. ไม่สามารถสร้างไฟล์หรือไดเรกทอรีในไดเรกทอรีชั่วคราว.\n\nโปรดตรวจสอบว่าไดเรกทอรีชั่วคราวมีอยู่, สิทธิ์ความปลอดภัยอนุญาตให้คุณเข้าถึงมันได้, และมีพื้นที่ดิสก์เพียงพอ. ข้อผิดพลาด: ไดรฟ์ใช้ขนาดเซ็กเตอร์อื่นที่ไม่ใช่ 512 ไบต์.\n\nเนื่องจากข้อจำกัดของส่วนประกอบที่มีในแพลตฟอร์มของคุณ, ปริมาณภายนอกที่ถูกโฮสต์บนไดรฟ์ไม่สามารถติดตั้งโดยใช้การป้องกันปริมาณที่ซ่อนได้.\n\nวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n- ใช้ไดรฟ์ที่มีเซ็กเตอร์ 512-ไบต์.\n- สร้างปริมาณโฮสต์ไฟล์ (ตัวเก็บ) บนไดรฟ์.\n- สำรองเนื้อหาของปริมาณที่ซ่อนและจากนั้นอัปเดตปริมาณภายนอก. ข้อผิดพลาด: ไดรฟ์ใช้ขนาดเซ็กเตอร์อื่นที่ไม่ใช่ 512 ไบต์.\n\nเนื่องจากข้อจำกัดของส่วนประกอบที่มีในแพลตฟอร์มของคุณ, พาร์ติชัน/อุปกรณ์-โฮสต์ปริมาณบนไดรฟ์สามารถติดตั้งได้โดยใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนลเท่านั้น.\n\nวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n- เปิดใช้งานการใช้บริการเข้ารหัสเคอร์เนล (การตั้งค่า > การตั้งค่าระบบ)\n- ใช้ไดรฟ์ที่มีเซ็กเตอร์ 512-ไบต์.\n- สร้างปริมาณโฮสต์ไฟล์ (ตัวเก็บ) บนไดรฟ์. ข้อผิดพลาด: ไดรฟ์ใช้ขนาดเซ็กเตอร์อื่นที่ไม่ใช่ 512 ไบต์.\n\nเนื่องจากข้อจำกัดของส่วนประกอบที่มีในแพลตฟอร์มของคุณ, พาร์ติชัน/อุปกรณ์-โฮสต์ปริมาณไม่สามารถสร้าง/ใช้บนไดรฟ์ได้.\n\nวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้:\n- สร้างปริมาณโฮสต์ไฟล์ (ตัวเก็บ) บนไดรฟ์.\n- ใช้ไดรฟ์ที่มีเซ็กเตอร์ 512-ไบต์.\n- ใช้ VeraCrypt บนแพลตฟอร์มอื่น. ไฟล์/อุปกรณ์โฮสต์ใช้งานอยู่แล้ว. ช่องปริมาณไม่มีใช้งาน. VeraCrypt ต้องการ OSXFUSE 2.5 หรือใหม่กว่า. เกิดข้อยกเว้น ป้อนรหัสผ่าน ป้อนรหัสผ่านปริมาณ VeraCrypt ติดตั้ง ไดเร็กทอรีติดตั้ง ไม่มีปริมาณที่ติดตั้ง. ระบุปริมาณ VeraCrypt ใหม่ พารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง เลือกคีย์ไฟล์ เริ่ม VeraCrypt ปริมาณ {0} ถูกติดตั้งแล้ว. ตัวเลือกที่ไม่ทราบ ตำแหน่งปริมาณ คำเตือน: ไฟล์/อุปกรณ์โฮสต์ {0} กำลังใช้งานอยู่!\n\nการไม่ใสใจเรื่องนี้อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์รวมถึงความไม่เสถียรของระบบ. โปรแกรมอื่น ๆ ที่อาจกำลังใช้งานไฟล์/อุปกรณ์โฮสต์ควรถูกปิดก่อนการติดตั้งปริมาณ.\n\nคุณต้องการติดตั้งปริมาณต่อไป? VeraCrypt ถูกติดตั้งโดยใช้แพ็คเกจ MSI และดังนั้นจึงไม่สามารถอัปเดตได้โดยใช้ตัวติดตั้งแบบมาตรฐาน.\n\nกรุณาใช้แพ็คเกจ MSI เพื่ออัปเดตการติดตั้ง VeraCrypt ของคุณ. ใช้พื้นที่ว่างทุกจุด ไม่สามารถอัปเกรด VeraCrypt ได้เนื่องจากพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบที่ถูกเข้ารหัสโดยใช้อัลกอริทึมที่ไม่รองรับอีกต่อไป.\nกรุณาถอดรหัสระบบก่อนอัปเกรด VeraCrypt และจากนั้นเข้ารหัสอีกครั้ง. ไม่พบแอปพลิเคชันเทอร์มินัลที่สนับสนุน, คุณต้องมี xterm, konsole หรือ gnome-terminal (พร้อม dbus-x11). ติดตั้งไม่มีแคช :: ตัวขยาย VeraCrypt ::\n\nขยายปริมาณ VeraCrypt ทันทีโดยไม่ต้องฟอร์แมทใหม่\n\n\nสนับสนุนปริมาณทุกประเภท (ไฟล์ตัวเก็บ, ดิสก์ และพาร์ติชัน) ที่ถูกฟอร์แมทด้วย NTFS. เงื่อนไขเดียวคือจะต้องมีพื้นที่ว่างเพียงพอบนไดรฟ์หรืออุปกรณ์โฮสต์ของปริมาณ VeraCrypt.\n\nอย่าใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อขยายปริมาณภายนอกที่มีปริมาณซ่อน, เพราะนี่จะทำลายปริมาณที่ซ่อน! 1. เลือกปริมาณ VeraCrypt ที่ต้องการขยาย\n2. คลิกปุ่ม 'ติดตั้ง' ปริมาณ: ระบบไฟล์: ขนาดปัจจุบัน: ขนาดใหม่: ป้อนขนาดปริมาณใหม่ เติมเนื้อที่ใหม่ด้วยข้อมูลสุ่ม ขยายอย่างรวดเร็ว เติมเนื้อที่ใหม่: %s พื้นที่ว่างที่มีอยู่บนไดรฟ์โฮสต์ นี่คือปริมาณ VeraCrypt ที่อิงตามอุปกรณ์.\n\nขนาดปริมาณใหม่จะถูกเลือกอัตโนมัติตามขนาดของอุปกรณ์โฮสต์. โปรดระบุขนาดใหม่ของปริมาณ VeraCrypt (ต้องใหญ่กว่าขนาดปัจจุบันอย่างน้อย %I64u KB). คำเตือน: คุณควรใช้การขยายอย่างรวดเร็วเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้:\n\n1) อุปกรณ์ที่ไฟล์ตัวเก็บตั้งอยู่ไม่มีข้อมูลอ่อนไหวและคุณไม่ต้องการความสามารถในการปฏิเสธที่น่าเชื่อถือ.\n2) อุปกรณ์ที่ไฟล์ตัวเก็บตั้งอยู่ได้ถูกเข้ารหัสอย่างปลอดภัยและเต็มที่แล้ว.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้การขยายอย่างรวดเร็ว? สำคัญ: ขยับเมาส์ของคุณแบบสุ่มที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในหน้าต่างนี้. ยิ่งขยับนานเท่าไหร่, ยิ่งดีเท่านั้น. นี่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของคีย์การเข้ารหัสอย่างมีนัยสำคัญ. จากนั้นคลิก 'ดำเนินการ' เพื่อขยายปริมาณ. คลิก 'ดำเนินการ' เพื่อขยายปริมาณ. ข้อผิดพลาด: การขยายปริมาณล้มเหลว. ข้อผิดพลาด: กระบวนการถูกยกเลิกโดยผู้ใช้. เสร็จสิ้น. ปริมาณถูกขยายสำเร็จ. คำเตือน: การขยายปริมาณกำลังดำเนินการ!\n\nการหยุดตอนนี้อาจทำให้ปริมาณเสียหาย.\n\nคุณต้องการยกเลิกจริงๆ หรือไม่? กำลังเริ่มการขยายปริมาณ ...\n ปริมาณภายนอกที่มีปริมาณซ่อนไม่สามารถขยายได้, เพราะนี่จะทำลายปริมาณที่ซ่อน.\n ปริมาณระบบ VeraCrypt ไม่สามารถขยายได้. ไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอในการขยายปริมาณ คำเตือน: ไฟล์ตัวเก็บใหญ่กว่าพื้นที่ปริมาณ VeraCrypt. ข้อมูลหลังจากพื้นที่ปริมาณ VeraCrypt จะถูกเขียนทับ.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? คำเตือน: ปริมาณ VeraCrypt มีระบบไฟล์ FAT!\n\nเฉพาะปริมาณ VeraCrypt เองที่จะถูกขยาย, แต่ไม่ใช่ระบบไฟล์.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? คำเตือน: ปริมาณ VeraCrypt มีระบบไฟล์ exFAT!\n\nเฉพาะปริมาณ VeraCrypt เองที่จะถูกขยาย, แต่ไม่ใช่ระบบไฟล์.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? คำเตือน: ปริมาณ VeraCrypt มีระบบไฟล์ที่ไม่รู้จักหรือไม่มีระบบไฟล์!\n\nเฉพาะปริมาณ VeraCrypt เองที่จะถูกขยาย, ระบบไฟล์จะคงไม่เปลี่ยน.\n\nคุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? ขนาดปริมาณใหม่เล็กเกินไป, ต้องใหญ่กว่าขนาดปัจจุบันอย่างน้อย %I64u KiB. ขนาดปริมาณใหม่ใหญ่เกินไป, ไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอบนไดรฟ์โฮสต์. ขนาดไฟล์สูงสุดของ %I64u MB บนไดรฟ์โฮสต์เกิน. ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถรับสิทธิ์ที่จำเป็นในการเปิดใช้ Quick Expand!\nกรุณายกเลิกตัวเลือก Quick Expand และลองอีกครั้ง. ขนาดสูงสุดของปริมาณ VeraCrypt ที่ %I64u TB เกิน!\n ฟอร์แมทเต็มรูปแบบ สร้างอย่างรวดเร็ว คำเตือน: คุณควรใช้การสร้างอย่างรวดเร็วเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้:\n\n1) อุปกรณ์ไม่มีข้อมูลที่อ่อนไหวและคุณไม่ต้องการความสามารถในการปฏิเสธที่น่าเชื่อถือ.\n2) อุปกรณ์ได้ถูกเข้ารหัสอย่างปลอดภัยและเต็มที่แล้ว.\n\nคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการใช้การสร้างอย่างรวดเร็ว? เปิดใช้งานการสนับสนุน EMV คำสั่ง APDU ที่ส่งไปยังการ์ดไม่ถูกต้อง. คำสั่ง APDU ขยายไม่สามารถใช้ได้กับโทเค็นปัจจุบัน. ข้อผิดพลาดขณะโหลดไลบรารี WinSCard / PCSC. การ์ดในเครื่องอ่านไม่ใช่การ์ด EMV ที่สนับสนุน. ไม่สามารถเลือก AID ของการ์ดในเครื่องอ่านได้. ไม่พบใบรับรองคีย์ ICC ในการ์ด. ไม่พบใบรับรองคีย์ของผู้ให้บริการในการ์ด. ไม่พบข้อมูล CPLC ในการ์ด EMV. ไม่พบหมายเลขบัญชีหลัก (PAN) ในการ์ด EMV. เส้นทาง EMV ไม่ถูกต้อง. ไม่สามารถสร้างคีย์ไฟล์จากข้อมูลของการ์ด EMV ได้.\n\nหายไปดังนี้:\n- ใบรับรองคีย์ ICC.\n- ใบรับรองคีย์ของผู้ให้บริการ.\n- ข้อมูล CPLC. ไม่มีการ์ดในเครื่องอ่าน.\n\nโปรดตรวจสอบว่าการ์ดถูกใส่อย่างถูกต้อง. คำสั่ง Windows format.com ล้มเหลวในการฟอร์แมทปริมาณเป็น NTFS/exFAT/ReFS: ข้อผิดพลาด 0x%.8X.\n\nตกกลับไปใช้ Windows FormatEx API. Windows FormatEx API ล้มเหลวในการฟอร์แมทปริมาณเป็น NTFS/exFAT/ReFS.\n\nสถานะการล้มเหลว = %s. กำลังเขียนข้อมูลสุ่มไปยังพื้นที่ใหม่ ...\n กำลังเขียนหัวสำรองที่เข้ารหัสใหม่ ...\n กำลังเขียนหัวหลักที่เข้ารหัสใหม่ ...\n กำลังลบหัวสำรองเก่า ...\n กำลังติดตั้งปริมาณ ...\n กำลังถอดติดตั้งปริมาณ ...\n กำลังขยายระบบไฟล์ ...\n คำเตือน: พาร์ติชันระบบที่คุณพยายามติดตั้งไม่ได้ถูกเข้ารหัสทั้งหมด. เป็นมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเสียหายหรือการปรับเปลี่ยนที่ไม่ต้องการ, ปริมาณ '%s' ถูกติดตั้งในโหมดอ่านอย่างเดียว. ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการใช้ส่วนขยายไฟล์ของบุคคลที่สาม ปิดการป้องกันหน่วยความจำเพื่อความเข้ากันได้กับเครื่องมือการเข้าถึง คำเตือน: การปิดการป้องกันหน่วยความจำลดความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ. เปิดใช้งานตัวเลือกนี้เฉพาะถ้าคุณต้องพึ่งพาเครื่องมือการเข้าถึง, เช่น เครื่องอ่านหน้าจอ, เพื่อโต้ตอบกับ UI ของ VeraCrypt. ภาษา เลือกภาษาดั้งเดิมของระบบ เพื่อให้การเปลี่ยนภาษามีผล, VeraCrypt จำเป็นต้องเริ่มใหม่. คำเตือน: คีย์หลักของปริมาณมีช่องโหว่ที่ทำให้ความปลอดภัยข้อมูลถูกสอบการโจมตี.\n\nกรุณาสร้างปริมาณใหม่และย้ายข้อมูลไปยังมัน. คำเตือน: คีย์หลักของระบบที่เข้ารหัสมีช่องโหว่ที่สอบการโจมตีที่ทำให้ความปลอดภัยข้อมูลถูกสอบการโจมตี.\nกรุณาถอดรหัสพาร์ติชัน/ไดรฟ์ระบบแล้วเข้ารหัสใหม่อีกครั้ง. คำเตือน: คีย์หลักของปริมาณมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย.